วิธีเลือกซื้ออะโวคาโด ปอกอย่างไรไม่ให้ดำคล้ำ และวิธีเก็บไว้กินได้นานๆ

Home » วิธีเลือกซื้ออะโวคาโด ปอกอย่างไรไม่ให้ดำคล้ำ และวิธีเก็บไว้กินได้นานๆ

อะโวคาโด (Avocado) เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพของร่างกาย ประกอบไปด้วยไขมันดี เป็นแหล่งพลังงานที่ดีสำหรับการเติมพลังงานให้กับร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ที่ช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระที่สร้างความเสียหายต่อเซลล์ รวมถึงประโยชน์อีกมากมาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ หลังจากที่เราได้ทราบประโยชน์ของอะโวคาโดแล้ว ทีมงานขอเสนอ วิธีเลือกซื้ออะโวคาโด ปอกอย่างไรไม่ให้ดำคล้ำ และวิธีเก็บไว้กินได้นานๆ กันค่ะ

วิธีเลือกซื้ออะโวคาโด

  • ดูสีของผลอะโวคาโด เลือกผลอะโวคาโดที่มีสีเขียวเข้มและแน่นอน อะโวคาโดที่สุกและพร้อมทานจะมีสีเขียวเข้มและมีลวดลายเล็กๆ สีน้ำเงินหรือสีดำบนผิว
  • ตรวจสอบความสม่ำเสมอของผิว ลองเช็กผิวของอะโวคาโดว่าเป็นระเบียบและไม่มีรอยแตกหรือบวม ควรเลือกผลที่ผิวดูเนียนเรียบ โดยไม่มีจุดดำหรือรอยร้าว
  • กดเบาๆ ที่ท้ายของผลอะโวคาโดด้วยนิ้วโป้ง ถ้ามีความนิ่มและยังไม่เห็นเนื้ออะโวคาโดสีน้ำเงินที่รากเหมือนแตกหรือแตะที่มีความรู้สึกนุ่ม แสดงว่าผลอะโวคาโดยังไม่สุกแก่พอที่จะทาน
  • หลีกเลี่ยงรอยแผลหรือคราบ อะโวคาโดที่ดีควรไม่มีรอยแผล รอยร้าว หรือคราบเปลือก และควรเลือกผลที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเช่นรอยแตกหรือรอยที่เนื้ออะโวคาโดเสีย
  • ควรเลือกแบบสุก หรือแก่ ถ้าคุณต้องการทานทันที เลือกซื้ออะโวคาโดที่เนื้อในสัมผัสเป็นเนื้อนุ่มและบางส่วนของผลมีสีน้ำเงินเข้ม เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่ว่าอะโวคาโดน่าจะสุกและพร้อมทาน
  • ทราบวันหมดอายุ เช็ควันหมดอายุที่บรรจุภัณฑ์อะโวคาโด เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถบริโภคในระยะเวลาที่เหมาะสม กรณีที่ซื้อจากห้างสรรพสินค้าซึ่งจะมีวันผลิต และวันหมดอายุให้ทราบ

การเลือกซื้ออะโวคาโดที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับผลผลิตที่สดใหม่และมีคุณภาพสูงสุดสำหรับการบริโภคและการทำอาหาร

วิธีปอกอะโวคาโด

  • ผ่าครึ่ง โดยใช้มีดกดตามแนวยาว จนมีดติดเมล็ด แล้วดันมีดออกไปรอบๆ
  • ใช้มือบิดอะโวคาโดให้เนื้อหลุดออกจากกัน
  • ใช้มีดสับบนเมล็ดเบาๆ ให้มีดติดเมล็ด แล้วบิดมีดให้เมล็ดหลุดติดมีดออกมา
  • ผ่าครึ่งเนื้ออะโวคาโดอีกครั้ง
  • ใช้มือดึงเปลือกอะโวคาโดออกมา แทนการใช้ช้อนขูด 

วิธีเก็บอะโวคาโดไม่ให้เปลี่ยนเป็นสีคล้ำ

อะโวคาโด ก็เหมือนผลไม้หลายๆ ชนิด ที่ถึงแม้จะเก็บไว้ในตู้เย็น ก็อาจทำให้สีของเนื้อเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาล เพราะเนื้อผลไม้จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ที่เกิดจากสารประกอบที่อยู่ในอะโวคาโดที่เรียกว่า ฟินอล เจอกับอากาศ กลายเป็นสารประกอบที่มีชื่อว่า ควิโนน เมื่อควิโนนจับตัวกันเป็นโพลีเมอร์ที่มีโมเลกุลใหญ่ขึ้น ก็จะเกิดเป็นเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน นั่นเอง ซึ่งมีวิธีเก็บดังนี้

  1. บีบมะนาวลงไปเคลือบบนเนื้ออะโวคาโดให้ทั่ว
  2. นำไปใส่กล่อง หรือถุงเก็บสุญญากาศ แล้วแช่ตู้เย็น 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ