Squid Game ซีรีย์สุดฮิตที่โด่งดังไปแล้วทั่วโลก ส่งผลให้ Dalgona Candy ที่ออกเสียงว่า “ทัลโกนา” ขนมหวานข้างทางสัญชาติเกาหลีที่เคยฮอตฮิตอย่างมากในยุค 90 กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เอกลักษณ์ของทัลโกนา คือรสหวานของน้ำตาล เช่นเดียวกับน้ำตาลปั้นสมัยก่อนของบ้านเรา แต่ขนมน้ำตาลบ้านเขาทำเป็นแผ่นกลมสร้างลวดลายด้วยการกดพิมพ์ ซึ่งเข้าใจได้ว่าการทำเป็นแผ่นบางเฉียบและใช้เข็มนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อซีรีย์ เพราะร้านขนมน้ำตาลที่ขายในเกาหลีที่ผ่านมานั้นเป็นแผ่นหนาเสียบไม้คล้ายอมยิ้ม แต่ตอนนี้ร้านคาเฟ่หลายแห่งหันมาทำเป็นแผ่นบางเป็นกิมมิกให้ลูกค้าเล่นกันเพลิน ๆ แล้วล่ะ
ดูซีรีย์ก็อยากทำ Dalgona Candy ตามกระแสสักหน่อย แต่ไหน ๆ ทำแล้วก็อยากได้รสชาติที่ถูกใจไว้กินเพลิน ๆ ได้ด้วย ภายใต้ข้อจำกัดแบบสาวยุคใหม่ที่นิยมใช้เตาไฟฟ้า วิธีนี้จึงไม่ใช้เตาแก๊สและไม่มีอุปกรณ์สำหรับทำ Dalgona Candy โดยเฉพาะแต่ใช้อุปกรณ์ที่ครัวบ้านส่วนใหญ่น่าจะมีอยู่แล้วค่ะ
วัตถุดิบ Dalgona Candy สูตรกินเพลินด้วยของใช้ในครัว
ส่วนผสม : น้ำตาลทราย (แดงหรือขาวก็ได้) 3 ช้อนโต๊ะ เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชา เกลือเล็กน้อย และเนยหรือน้ำมัน
อุปกรณ์ที่ใช้ : แก้วสแตนเลส และแก้วก้นเรียบ กะทะเทฟลอน ตะเกียบ พิมพ์ขนม
วิธีทำ Dalgona Candy สูตรกินเพลินด้วยของใช้ในครัว
เตรียมส่วนผสมตามสัดส่วนให้พร้อมไว้นะคะ เพราะต้องระวังไหม้อย่างมาก ถ้าเคี่ยวน้ำตาลแล้วมัวมาเปิดถุงตักเบกกิ้งโซดาทีหลัง น้ำตาลไหม้ก่อนแน่นอนค่ะ ส่วนในภาพที่เห็นเป็นสีชมพูนั่นคือเกลือชมพูนะคะ ทำดูแล้วรู้สึกชอบรสชาติที่มีเกลือเจืออยู่แล็กน้อยมากกว่า แต่ไม่ถือว่าเป็นส่วนผสมที่จำเป็นต้องใส่ ถ้าชอบหวานโดดไม่ใส่ก็ได้ค่ะ
เทน้ำตาลและเกลือในแก้วสแตนเลส จะใช้หม้อหรือกระทะที่ใช้กับเตาไฟฟ้าก็ได้เช่นกัน พอดีบ้านนี้มีแต่ใบใหญ่เลยเลือกใช้แก้วมากกว่าค่ะ การปรับระดับไฟเลือกไฟอ่อนสำหรับทอด (แล้วแต่ยี่ห้อที่ใช้) ข้อควรระวังคือเตาไฟฟ้าให้ความร้อนถึงตัวน้ำตาลเร็วกว่าแก๊สอย่างมาก ดังนั้นเมื่อวางแก้วแล้วต้องใช้ตะเกียบกวนน้ำตาลทันทีเลยนะคะ ไม่งั้นไหม้ติดก้นแก้วหรือกะทะได้เลยล่ะ
ใช้ตะเกียบกวนอย่างต่อเนื่อง กวนๆ คนๆ ไปพักหนึ่งน้ำตาลก็เริ่มละลายเป็นก้อนลักษณะนี้ หลังจากนั้นจะละลายเป็นคาราเมลเลยค่ะ
ละลายหมดแล้วยกขึ้นจากเตาแล้วใส่เบกกิ้งโซดาลงไปผสมเลยค่ะ อย่าลังเลว่าน้ำตาลยังเข้มไม่พอ เพราะอาจจะไหม้จนมีรสขมไม่อร่อย ที่เกาหลีแม่ค้าใช้ปลายตะเกียบจิ้มเบกกิ้งโซดาแบบไม่ต้องตวงด้วยความชำนาญ แต่มือใหม่ตวงประมาณไว้ก่อนดีกว่าค่ะ เพราะหากใส่เบกกิ้งโซดามากไปน้ำตาลจะฟูฟอดเกินพอดีและอาจมีรสขม
เมื่อคนผสมกับ “เบกกิ้งโซดา” แล้วน้ำตาลจะพองตัวทำให้เนื้อโปร่งเบาเปราะง่ายมากขึ้น บางท่านเข้าใจว่าใช้ “เบกกิ้งพาวเดอร์” แทนได้เพราะชื่อหนึ่งคือ “ผงฟู” แต่ผลที่ออกมาคือน้ำตาลจะแข็งจนเคี้ยวลำบากและเซทตัวเร็วจนอาจไม่ทันกดหรือปั๊มลายเลยล่ะคะ
คนผสมจนทั่วแล้วรีบเทลงถาดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ได้เลย หากไม่มีกระดาษไขรองกันติด แนะนำให้ทาเนยหรือน้ำมันรองพื้นก่อน เราใช้วิธีเทลงกะทะเทฟลอนเคลือบเนยค่ะ ป้องกันน้ำตาลติดได้ผลกว่าจานหรือถาดอื่น ๆ เมื่อทำสำเร็จน้ำตาลแข็งแล้วค่อยเช็ดน้ำมันออกทีหลังได้ค่ะ
จากนั้นนำก้นแก้วที่ทาน้ำมันไว้กดลงบนน้ำตาลให้บางตามต้องการ เนื่องจากเราทำแผ่นเล็กให้กินได้พอดีคำและได้หลายชิ้นจึงไม่กดมากนะคะ
ใช้พิมพ์ที่มีกดลายลงบนแผ่นน้ำตาลต่อทันทีก่อนแข็งตัว ข้อเสียของการทำหลายชิ้นพร้อมกันคือกดลายไม่ทันค่ะ น้ำตาลแข็งตัวก่อน ต้องทำแบบรวดเร็วหน่อยค่ะ
ลองทำดูแล้ว ไม่ใช่แค่ออกมาเล่นตามเกมสนุก ๆ เท่านั้น จะการทำขนมไม่ให้ไหม้และพิมพ์ลายให้ทันเวลาสนุกยิ่งกว่า ทำไปกินไปเพลินไปอีกค่ะ
แตกบ้างดีบ้าง แต่กรุบกรอบเคี้ยวกินได้ฟันไม่หัก
อันไหนเฟลแกะลายแล้วแตก แนะนำมาโรยบนเครื่องดื่มอย่างนมสด อร่อยไปอี๊ก รับรองความเพลินเลยล่ะ