ฝนเริ่มมามีผักแขยงชูช่อเรียงรายหน้าบ้าน มื้อนี้เห็นที่ต้องจัดเมนูที่ใส่ผักแขยงแล้วเพิ่มรสชาติเสียหน่อย ขอแนะนำ ผักแขยง สักนิด หลายท่านได้ยินชื่อแล้วอาจคุ้น ๆ เพราะชื่อใกล้เคียงกับละคร “มนต์รักหนองผักกะแยง” ที่เพิ่งลาจอไปไม่นาน ผักแขยง เป็นผักพื้นบ้านที่มักขึ้นตามริมคูหรือคันนา มีกลิ่นหอมฉุนและเผ็ดร้อน ภาคเหนือนิยมเรียก ผักพา บางถิ่นเรียก ผักกะออม ส่วนอีสานเรียก ผักกะแยง แต่มีลักษณะต้นที่เรียกเล็กกว่าภาคอื่นๆ ตามตำราหมอยาพื้นบ้านแนะนำให้กินผักแขยงเพื่อป้องกันเส้นเลือดตีบตันและไข้ร้อนใน ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม ยังเล่าในหนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5) ด้วยว่า ผักแขยงสด ๆ นำมาต้มกับน้ำกิน เป็นยาแก้ไข้ ลดไข้ (สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน) รสเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมฉุนของผักแขยงนี่แลที่ช่วยทำให้เจริญอาหารได้ดีนัก
ผักแขยง สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลายเมนู ทั้งบริโภคสด ต้ม ผัด แกง ตามประสาวิถีถิ่นบ้านๆ ของผู้เขียนที่อยู่บ้านไร่ปลายนา นอกจากมีผักแขยงชูช่อยังได้ปลาดุกตัวเขื่องจากสระน้ำท้ายไร่ เมนูครั้งนี้จึงกลายเป็นแกงปลาดุกผักแขยง ไปโดยปริยาย วิธีทำง่ายแต่รสชาติเผ็ดร้อนและหอมมันดีทีเดียว
วัตถุดิบแกงปลาดุกผักแขยง
- ปลาดุก 1 กิโลกรัม
- พริกแกงเผ็ด 3 ขีด
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- ฟักทอง 2 ขีด
- ผักแขยง ปริมาณตามชอบ
วิธีทำแกงปลาดุกผักแขยง
เริ่มจากเตรียมชิ้นปลาดุกสำหรับแกง ล้างทำความสะอาดให้หมดเมือก ผู้เขียนใช่วิธีล้างน้ำเปล่าโดยใช้น้ำผ่านก่อน จากนั้นโรยเกลือป่นเคล้าให้ทั่วแล้วล้างน้ำผ่านให้สะอาด
ขั้นตอนแกงเนื้อปลา นำพริกแกงเผ็ดผัดกับน้ำมันจนหอม เติมน้ำปลาขณะผัด จากนั้นเติมน้ำให้พอประมาณให้ท่วมเนื้อปลา ตั้งจนเดือดแลวใส่จึงปลาลงไป จากนั้นปิดฝาไว้รอจนปลาเริ่มสุก
ระหว่างรอหันไปล้างทำความสะอาดและหั่นฟักทองเป็นชิ้นเตรียมไว้ ขนาดไม่ต้องหนามาก ปลาใกล้สุกแล้วใส่ฟักทองลงไป เพิ่มความหอมมันให้แกง ใครไม่ชอบไม่ต้องใส่ก็ได้ ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับความอร่อย
ฟักทองได้ที่จึงตามด้วยผักแขยง ใช้ส่วนยอดไม่เกินหนึ่งคืบ เด็ดเป็นช่อ ล้างน้ำให้สะอาด ใส่ลงไปในน้ำแกง พักเดียวผักแขยงก็สลดสลบเหมือบเช่นเดียวกับผักใบในเครื่องแกงอย่างกะเพราหรือโหระพา เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ปิดไฟเตรียมสำรับได้
หากผักแขยงในแกงยังไม่หนำใจ ใช้ยอดสดแนมข้างจานแกล้มแกงให้เมามันก็ยังได้ ใครยังไม่เคยลิ้มรส อยากให้ลองชิมอาจได้ลิ้มรสแกงปลาดุกอีกมิติที่ชวนติดใจก็เป็นได้