วิตามิน อีกตัวช่วยที่เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย ลดความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสต่างๆ
นพ.นันทพล พงศ์รัตนามาน อาจารย์ที่ปรึกษา แผนกศัลยศาสตร์หลอดเลือด ร.พ.พระมงกุฎเกล้า หรือ หมอท็อป แนะนำวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ต่อสู้กับเชื้อไวรัสต่างๆ ในยามที่เกิดโรคติดต่อระบาด ดังนี้
วิตามิน 3 ชนิด กินให้พอ ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ ได้
- วิตามินซี
ร่างกายต้องการวิตามินซีในการดำรงชีวิตราว 100 มิลลิกรัมต่อวัน แต่หากอยากกินวิตามินซีเพิ่มเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับตัวเอง อาจรับประทานได้ถึง 1000-2000 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ควรรับประทานวิตามินซีเกิน 3000 มิลลิกรัม เพราะอาจเกิดอาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น แสบท้อง และอื่นๆ ได้
นอกจากนี้ การบริโภควิตามินซี ไม่จำเป็นต้องหาซื้อกินเป็นยาเม็ด หรืออาหารเสริมใดๆ สามารถหาอาหารที่มีวิตามินซีมารับประทานได้เลย พวกผักผลไม้ต่างๆ เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ สตรอเบอร์รี่ ส้ม มะนาว มะเขือเทศ และควรกินผลไม้สด หลีกเลี่ยงน้ำผลไม้คั้น เพราะจะได้น้ำตาลมากกว่าประโยชน์จากวิตามินในด้านอื่นๆ
- วิตามินดี
มีงานวิจัยหลายชิ้นว่าวิตามินดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโรค รวมถึงโควิด-19 ด้วยว่า หากเรามีวิตามินดีในร่างกายมากเพียงพอ หากติดเชื้อโควิด-19 แล้วอาการจะไม่หนักมาก
ส่วนใหญ่แล้ววิตามินมาจากแสงแดดยามเช้า แต่คนไทยที่อยู่เมืองร้อนจึงมักหลีกเลี่ยงแสงแดดกันตลอดเวลา ทำให้ 60-70% ของคนไทยกลับขาดวิตามินดี จึงแนะนำให้ออกไปเดินสัมผัสกับแดดยามเช้าอ่อนๆ ราว 15 นาที เพื่อรับวิตามินดีเข้าสู่ร่างกายบ้าง
วิตามินดีที่มาจากอาหารก็มีอยู่บ้าง เช่น ปลาทะเลลึกต่างๆ เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน หรือจะเป็นเห็ด (เห็ด 100 กรัม ก็เพียงพอต่อวิตามินดีที่ร่างกายต้องการใน 1 วันแล้ว)
- วิตามินเอ
วิตามินเอเป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของภูมิคุ้มกันโรคโดยตรง และมักได้รับจากอาหาร เช่น ไข่แดง นม เครื่องในสัตว์ (รับประทานเครื่องในสัตว์ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากมีโรคประจำตัวบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคอเลสเตอรอล ควรลดการบริโภค หรือปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนรับประทาน) นอกจากนี้ยังมีผักใบเขียวเข้ม ผลไม้ที่มีสีเหลืองหรือสีส้ม
อย่างไรก็ตาม ในเครื่องในสัตว์ และผักใบเขียวเข้มมีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยง หรือระมัดระวังในการรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม สามารถปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนรับประทานได้