จากกรณี ส.ส. 51 ราย เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะทางการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงหรือไม่ จากกรณีเคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายอันถึงที่สุดว่า ได้กระทำผิดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้าซึ่งยาเสพติด ที่แม้เป็นคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ กรณีดังกล่าวย่อมทำให้ผู้ถูกร้องเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) และความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่

โดยในวันนี้ (5 พ.ค.) เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ และอ่านคำวินิจฉัย คดีสมาชิกภาพ ส.ส. และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยมีถ่ายถอดสดผ่าน YouTube ของสำนักงานศาลด้วย

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยวานนี้ (4 พ.ค.) ระบุว่า ตนมอบทนายความเป็นผู้แทนไปฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญแทน เนื่องจากตนติดประชุมครม. และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นบวกหรือเป็นลบ ก็น้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวทำใจไว้แล้ว ถ้าเป็นบวกก็เดินหน้าทำงานทางการเมืองต่อ แต่ถ้าเป็นลบตนก็จะไปทำธุรกิจซึ่งไม่ได้กังวลใดๆ รู้สึกเฉยๆ 

“ผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยสักอย่าง ผลเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลพินิจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ผลจะออกมาหน้าไหนน้อมรับคำวินิจฉัย ผมเฉยๆ เพราะชีวิตผ่านมาหมดแล้ว ผลออกมาถ้าลบก็ทำใจ กลับไปทำธุรกิจดูแลครอบครัว ไม่เป็นปัญหา วิถีชีวิตเดิมก็มีความสุขอยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว