เสวนารัฐสภา 90 ปี อดีตปธ.รัฐสภา ชี้กระทู้ถามสด มีไว้วัดกึ๋นรัฐบาล นายกฯ ควรตอบเอง อภิสิทธิ์ กระตุกต่อมจิตสำนึก มีเรื่องฉาวโฉ่ต้องลาออกรับผิดชอบ กู้ศรัทธา

เมื่อเวลา 11.05 น. วันที่ 27 มิ.ย.2565 ที่รัฐสภา ในงานเสวนาทางวิชาการ โอกาสครบรอบ 90 ปี รัฐสภา หัวข้อ 90 ปี รัฐสภา การเดินทางและความหวัง โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภาและประธานสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้นำฝ่ายค้านในสภา ร่วมเสวนา

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเข้ามาในรัฐสภาตั้งแต่ปี 2522 เป็นประธานรัฐสภาในปี 2539 ทำงานเกี่ยวเนื่องกับรัฐสภามาปีนี้ก็ 43 ปีแล้ว แต่คิดว่าเรายังเดินทางไม่ถึงเป้าหมายและไม่ถึงความฝัน และรู้สึกผิดหวังลึกๆ ในบทบาทของรัฐสภา ที่ควรเป็นสภาของประชาชน และเป็นประชาธิปไตยมากกว่านี้ ต้องเป็นสภาที่ได้เลือกผู้บริหารประเทศอย่างแท้จริง และทำเรื่องที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ เช่น การกระจายอำนาจ ให้ประชาชนทุกจังหวัดมีสภาจากการเลือกตั้ง และมีผู้ว่าฯเป็นของตัวเอง สภาต้องไม่ทำงานให้รัฐบาลกลางอย่างเดียว

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า รัฐสภาต้องยึดโยงกับประชาชน โดยส.ว.ควรมีหน้าที่แค่กลั่นกรองกฎหมาย ไม่ใช่มามีส่วนทำกฎหมายปฏิรูป หรือกฎหมายสำคัญอื่นๆ ทั้งนี้ ตนอยากฝากถึงรัฐบาลเรื่องกระทู้ถามสด มีขึ้นเพื่อวัดกึ๋นการทำงานของรัฐบาล ถ้าทำงานไม่เก่งจะมาตอบไม่ได้ เพราะเป็นการถามเดี๋ยวนั้น ตอบเดี๋ยวนั้น และต้องไม่ใช่การมอบให้รัฐมนตรีมาตอบแทน นายกฯ ต้องฟังและเข้าใจเอง อย่าบอกว่างานเยอะ เพราะมีการกำหนดแล้วว่า วันพุธ และวันพฤหัสบดี มีการประชุมสภา รัฐบาลต้องว่าง และที่รัฐสภา มีห้องมากมายรองรับการทำงานของรัฐบาล

ดังนั้น รัฐบาลต้องมาสภา เพราะคุณมาจากสภา เพราะเบอร์หนึ่งคือประธานรัฐสภา และสภาคือฝ่ายที่ให้เงินรัฐบาลไปบริหารประเทศ ส่วนนายกฯ คือเบอร์สอง

ด้านนายโภคิน กล่าวว่า อีก 10 ปีจะครบ 100 ปีรัฐสภา เราจะมีมาตรการทางกฎหมายป้องกันการทำรัฐประหารอย่างไร เพราะปัจจุบันมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับตนเอง ตนอยากให้ผู้ที่มาจากประชาชนทุกคนลุกขึ้นสู้กดดัน อย่าให้คนที่ทำลายประชาธิปไตยกลับมากดทับประชาชน

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าการรัฐประหารไม่ควรเป็นคำตอบให้กับเรื่องใดๆ แต่ต้องมีวิถีในการแก้ไขปัญหา แต่ถ้าถามคนทำรัฐประหาร ก็ให้เหตุผลทุกครั้ง เช่น ทุจริต บ้านเมืองแตกแยก หรือเรื่องละเอียดอ่อนอย่างสถาบัน ดังนั้น เป็นหน้าที่ทุกคนไม่ให้คนทำไปอ้างได้อีก สิ่งที่ต้องทำจากนี้คือ ยืนยันรัฐประหารไม่ใช่คำตอบ ไม่ทำตัวให้เป็นเงื่อนไข และแนววินิจฉัยของศาลจะต้องไม่รับรองการรัฐประหาร

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เรายังไม่มีวัฒนธรรมเหมือนกับประเทศประชาธิปไตย ที่มีระบบรัฐสภา ที่ทำให้ฝ่ายบริหารเคารพฝ่ายนิติบัญญัติ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกิดวิวาทะ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา ตำหนินายกฯ ไม่มาตอบกระทู้ นายกฯ บอกว่าแรงไปหรือไม่ ตนขอบอกว่ารองประธานสภา พูดเบาเกินไป และอยากให้นายกฯ ตระหนัก

ถ้าไปดูประเทศที่ใช้การปกครองระบบรัฐสภา ผู้นำประเทศต้องถืองานสภาโดยเฉพาะตอบกระทู้เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่มีข้ออ้างที่จะมาตอบกระทู้ไม่ได้ เพราะทราบอยู่แล้วว่ากระทู้ถามสดเกิดขึ้นวันไหน เวลาใด ถ้าบริหารจัดเวลา 1-2 ชั่วโมงไม่ได้ จะบริหารประเทศอย่างไร การมาตอบกระทู้ไม่ใช่เป็นเรื่องเทคนิค เหมือนที่นายกฯกล่าวไว้ แต่การมาตอบเพื่อให้เจ้าของประเทศรับทราบถึงหลักคิดบริหารประเทศ

“นักการเมือง ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองสูงกว่ากฎหมาย ถ้าปล่อยให้เกิดเรื่องอื้อฉาว ไม่มีความรับผิดชอบ เราจะไม่พ้นมีภาพลักษณ์แย่ ความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่ง ไม่ได้แปลว่าผิด แต่เป็นการรักษากระบวนการทางการเมืองให้เดินต่อได้และรักษาศรัทธา อีกเรื่องคือประมวลกฎหมายจริยธรรม เมื่อไหร่ถึงจะศักดิ์สิทธิ์ นักการเมืองญี่ปุ่นลาออกจากรัฐมนตรี เนื่องจากนั่งหลับตอนแถลงข่าวช่วงบ่าย เพราะกินเหล้าตอนกลางวัน เวลาใกล้เคียงกันกับรัฐสภาเรา มีส.ส.ดื่มจนอาละวาด ใช้เวลาสอบ 2 ปียังบอกไม่ได้ว่าเมาหรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้รักษาศรัทธาไม่ได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว