กลายเป็นกรณีดราม่าต่อเนื่อง หลัง พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ เข้าแจ้งความเอาผิด เพจเฟซบุ๊ก และสหกรณ์แห่งหนึ่ง ที่นำเอาเอกสารออกมาเผยแพร่ว่า พระมหาไพรวัลย์รับเงินค่าวิทยากรบรรยายธรรมเป็นเงินถึง 40,000 บาท ทั้งที่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่เคยรับเงินปัจจัยมากขนาดนั้น และไม่เคยเรียกรับเงินแม้แต่บาทเดียว ไม่ว่ารับกิจนิมนต์ที่ไหนก็แล้วแต่ญาติโยมจะให้ตามศรัทธาเท่านั้น
- พระมหาไพรวัลย์ แจ้งความ “สหกรณ์ครู-เพจดัง” โพสต์อ้างรับค่าวิทยากร 4 หมื่น
ต่อมา นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี หรืออดีตพระพุทธะอิสระ ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุพาดพิงไปถึงพระมหาไพรวัลย์ ความว่า
ไหนว่า ท่านมหาเป็นพระดี พระแท้ พระรักษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดไงล่ะ 6 พฤษภาคม 2564 แล้วพระวินัยข้อนี้มหาว่าไง โกสิยวรรคที่ 2 สิกขาบทที่ 8 ว่าด้วยภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้, เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์
ทำไมเรื่องนี้มหาคนดีที่ 1 ไม่เคยพูดเลยล่ะ ถึงวันนี้เงินในบัญชีมีเท่าไหร่แล้วล่ะ รวยนักก็เอาออกมาแจกชาวบ้านหรือกองเชียร์ที่เขาประสบภัยโควิดดูบ้าง เผื่อจะรู้ว่า คำว่า โลกธรรมที่ควรจะต้องละ เขาทำกันอย่างไร
พุทธะอิสระ
ฟากของพระมหาไพรวัลย์เองก็ไม่รอช้า โพสต์ข้อความ พร้อมรูปเมื่อสมัย อดีตพระพุทธะอิสระยังครองสมณเพศ และเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส. ในมือถือเงินที่รับบริจาคมา โดยระบุข้อความว่า
ไม่มีปัญหาเลยนะโยมสุวิทย์ ให้มหาเถรสมาคมออกมติมาเลยว่า นิตยภัต (เงินเดือน) ตั้งแต่ระดับพระสังฆราชลงมาถึงผู้ช่วยเจ้าอาวาสนั้นขัดพระธรรมวินัย ให้ยกเลิกถวายเสีย และนับตั้งแต่นี้ไป ห้ามมิให้พระเณรรับธนบัตร (รวมไปถึงใบปวารณา ที่มักแอบไปขึ้นเงินกันทีหลัง) อีก
อนึ่ง ในสมัยที่โยมสุวิทย์เป็นพระ กล้าพูดด้วยคำสัตย์ไหมว่าไม่เคยรับปัจจัยเงินทองเลยแม้แต่แดงเดียว ไม่ว่าจะเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนอื่น
จะเล่นลิ้นเล่นคำ อาตมาไม่มีปัญหานะ แต่ช่วยส่องกระจกดูตัวเองด้วย จะดีมาก #ขายขำเก่งนะเรา