วราวุธ ปักธงอุบลฯ เขต 4 ลุยช่วยลูกพรรคหาเสียง เหน็บพรรคแจกเงินสร้างหนี้ให้ลูกหลานชดใช้แทนวันหน้า สนามเลือกตั้ง ดุเดือด คนตระกูลเดียวกัน ห้ำหั่นกัน
23 เม.ย. 66 – เขตเลือกตั้งที่ 4 อุบลราชธานี ดุเดือดอย่างยิ่ง เมื่อคนในตระกูล “วาจาดี” ซึ่งเป็นทั้งอดีต สจ. และ ส.ส. ลงสนามห้ำหั่นกันเองใน 2 พรรคเพื่อไทย และ ชาติไทยพัฒนา ยังตามติดมาด้วยลูกสาว สุพล ฟองงาม แกนนำระดับอีสานล่าง พรรคภูมิใจไทย
นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นำ น.ส.ใจยา วาจาดี ผู้สมัครของพรรคเบอร์ 1 เขตเลือกตั้งที่ 4 เดินลุยหาเสียงกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดเทศบาล 1 อ.วารินชำราบ ซึ่งเป็นอำเภอสำคัญของเขตนี้
โดยนายประภัตร และ น.ส.ใจยา เดินทักทายขอคะแนนกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าอาหารการกิน ก่อนจะเดินทางต่อไปรวมกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อปราศรัยหาเสียงกับประชาชน ที่สนับสนุนนโยบายของพรรคกว่า 3,000 คน
นายประภัตร กล่าวปราศรัยว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีผู้แทนราษฎรเป็นคนอุบลราชธานีหลายสมัย พรรคเราจึงไม่ใช่พรรคใหม่ของคนอุบลราชธานี ครั้งนี้พรรคส่ง น.ส.ใจยา ลงสมัครแข่งขันในเขต 4 อ.วารินชำราบ และ อ.สำโรง เพราะมีใจพัฒนา ไม่เคยทิ้งประชาชน พร้อมเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน ดังนั้นผู้แทนที่พรรคเสนอตัวให้ลงเลือกตั้งขอให้จำเบอร์ให้ดีคือ เบอร์ 1 การเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องเลือกคนเพื่อใช้งาน ไม่ใช่ 4 ปีไม่เคยเห็นหน้าว่าอยู่ที่ไหน เมื่อมีเลือกตั้งก็ออกมาเสนอตัวเหมือนผู้แทนบางคน
ด้าน นายวราวุธ กล่าวว่า สมัยพ่อบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ ตนเคยเดินทางมาอุบลราชธานีกับพ่อ เพราะพรรคมีผู้แทนอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานีหลายสมัย ซึ่งครั้งนี้พรรคชาติไทยพัฒนาจะกลับมามีผู้แทนชาวอุบลราชธานีอีกครั้ง หลังว่างเว้นมานาน
ดังนั้นอีก 20 กว่าวัน จะถึงเลือกตั้งแล้ว “หลายพรรคเสนอนโยบายแจกเงิน ซึ่งทุกคนอยากได้ แต่คงไม่อยากให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานเข้ามาใช้หนี้แทน” แต่นโยบายที่ดีคือ นโยบายที่แก้ปัญหาให้เราในวันนี้ และแก้ปัญหาให้ในอนาคต ไม่ใช่แก้ปัญหาในวันนี้ และสร้างภาระหนี้สินให้กับอนาคต
พรรคชาติไทยพัฒนาจึงเสนอนโยบายการมอบพันธุ์ข้าวให้ปลูกฟรี ทำแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ค่าไฟฟ้าการเกษตร หน่วยละ 2 บาท สุขภาพดีมีเงินคืนคนละ 3,000 บาท
นโยบายทุกเรื่อง Wow Thailand ของชาติไทยพัฒนาสร้างมาจากความมั่งคั่ง ความมั่นคงของทรัพยากรในประเทศมาเป็นโอกาสความหวังของพี่น้องคนไทย และการที่เดินไปข้างหน้าต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกคนจะต้องเดินไปด้วยกัน
“วันนี้พรรคชาติไทยพัฒนาจึงมาขอคะแนนให้กับ น.ส.ใจยาเบอร์ 1 บัตรสีม่วง และพรรคชาติไทยพัฒนาเบอร์ 18 บัตรสีเขียว ให้โอกาสทั้งคนทั้งพรรคเข้ามาทำงานแล้วเราสัญญาว่า จะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ประชาชน สร้างสังคม สร้างประเทศไทยให้ยั่งยืน” นายวราวุธ กล่าว
สำหรับ น.ส.ใจยา วาจาดี ผู้สมัครของพรรคชาติไทยพัฒนาเขต 4 เป็นอดีต สจ.ของอำเภอวารินชำราบ และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งหมดวาระ และ ครั้งนี้ น.ส.กิตติ์ธัญญา ก็ลงสมัครแข่งขันในเขตเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย จึงเป็นการต่อสู้ระหว่างคนในตระกูลวาจาดี
นอกจากนี้ ยังมี น.ส.โยธากาญจน์ ฟองงาม ลูกสาวของ นายสุพล ฟองงาม คีร์แมนระดับอีสานใต้ของพรรคภูมิใจไทย และเป็นอดีต ส.ส. 5 สมัยของเขตนี้ มาลงแข่งขันด้วย
ทำให้การต่อสู้ในพื้นที่เขต 4 ดุเดือดเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีผู้สมัครตัวจริงแข่งขันกันถึง 3 คน