‘วราวุธ’ รมว.ทส. วอนเลือกใช้ครีมกันแดดไม่ทำลายปะการัง

Home » ‘วราวุธ’ รมว.ทส. วอนเลือกใช้ครีมกันแดดไม่ทำลายปะการัง


‘วราวุธ’ รมว.ทส. วอนเลือกใช้ครีมกันแดดไม่ทำลายปะการัง

‘วราวุธ’ รมว.ทส. วอนเลือกใช้ครีมกันแดดไม่ทำลายปะการัง ด้าน ‘กรมทะเล’ จับมือ ‘มิสทิน” ร่วมมือต่อยอดวิจัยครีมกันแดดไม่ทำลายปะการัง

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า นับตั้งแต่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประกาศห้ามนำและใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่ผสมสารเคมี 4 ประเภท ที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรปะการัง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนส.ค. 64 ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนที่เดินทางเข้าไปยังเขตอุทยานแห่งชาติอย่างดี ตนคิดว่าเรื่องนี้หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากเราสามารถช่วยรักษาระบบนิเวศปะการังในทุกช่องทางที่อาจจะส่งผลกระทบทางลบได้

นอกจากนี้ ตนได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. ในการหาแนวทางส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาวิจัยผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากสารเคมีอื่น เพื่อจะได้ป้องกันผลกระทบต่อปะการัง รวมถึง สิ่งแวดล้อมและคุณภาพน้ำทะเล อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าด้วยนวัตกรรมและงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าอย่างมาก การคิดค้นสารที่ช่วยดูแลมนุษย์โดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติคงไม่ใช่เรื่องยาก

“การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต้องคำนึงถึง ผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจจะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด แต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ก็ควรเลือกสิ่งนั้น สิ่งเล็ก ๆ ที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ย่อมส่งผลที่ยิ่งใหญ่ต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติของโลกได้ต่อไปในอนาคต” นายวราวุธ กล่าว

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวเสริมว่า ผลกระทบเนื่องจากสารเคมีหลักสำคัญ 4 ชนิด ได้แก่ Oxybenzone (Benzophenone-3, BP-3), Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate), 4-Methylbenzylid Camphor (4MBC) และ Butylparaben ต่อปะการัง ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า สารเคมีดังกล่าวมีผลกระทบต่อตัวอ่อนปะการัง ขัดขวางระบบสืบพันธุ์ และทำให้เกิดปะการังฟอกขาว หลายประเทศได้ห้ามใช้ครีมกันแดดที่ผสมสารที่ส่งผลกระทบต่อปะการัง เช่น ประเทศปาเลา รัฐฮาวาย หมู่เกาะเวอร์จิน คีย์เวสต์ (ฟอริดา) สหรัฐอเมริกา เกาะอารูบา และ เกาะโบเนเรอ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น ซึ่งสารเคมีที่ประกาศห้ามใช้จะเป็น 4 ตัว หลักเช่นเดียวกับที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำหนด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กรมฯ กำลังจะออกประกาศคำสั่งห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีทั้ง 4 ชนิด ในแหล่งดำน้ำกองหินใต้น้ำในพื้นที่จ.จันทบุรี, ระยอง, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, พังงา และสตูล รวม 20 แห่งด้วย

นายโสภณ ระบุอีกว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 65 ทช. ได้หารือกับนายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ มิสทีน เพื่อหาแนวทางการยกระดับการดำเนินงานและต่อยอดงานวิจัยสารเคมีที่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศปะการัง ซึ่งทางบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ผลิตครีมกันแดด 2 ชนิด ที่ไม่ผสมสารที่ทำลายปะการังทั้ง 4 ตัว โดยจะวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 และมีแผนผลิตเวชสำอางที่เป็นมิตรกับทรัพยากรทางทะเลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนขอขอบคุณบริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย)จำกัด ที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี

กรมทะเล ร่วมมือ มิสทิน

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ