วราวุธเผย ยังไม่แจ้งความ ครูโอ๊ะกับพ่อรุกป่า ขอรอข้อมูลป.ป.ช.ก่อน เหตุเจ้าหน้าที่กลัวโดนฟ้องกลับ ต้องให้กรมที่ดินเพิกถอนให้แล้วเสร็จก่อน
วันที่ 14 มิ.ย.2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เกี่ยวกับคดีของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ กับพวก บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี ว่า การที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดมาอย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตนได้รับรายงานจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.2563 หลังพบว่ามีการบุกรุกนอกเหนือจากโฉนด 11 ไร่ การแจ้งความครั้งนั้นเป็นคดีอาญาหมายเลข 51/2563 โดยเป็นคดีอาญาที่ยังไม่หมดอายุความ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ แต่เป็นคนละส่วนกับคดีที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรมอุทยานฯ ได้ทำหนังสือไปยังป.ป.ช. เพื่อขอเอกสารหลักฐานที่ชี้มูลความผิดแล้ว เพื่อนำเรื่องดังกล่าวส่งให้กรมที่ดินเพิกถอนโฉนด และเมื่อพื้นที่เหล่านั้นกลับมาเป็นพื้นที่ป่า เราจะสามารถฟ้องร้องว่ามีการบุกรุกอุทยานฯ ได้
เมื่อถามว่าทางกรมอุทยานฯ ต้องไปแจ้งคดีเพิ่มเติมหลังจากป.ป.ช. ชี้มูลความผิดว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบอีกหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ในขณะที่ยังเป็นโฉนดอยู่ การที่หน่วยงานภาครัฐหรือเจ้าหน้าที่รัฐไปกล่าวหาว่าเจ้าของโฉนดว่าได้มาโดยมิชอบ เกรงว่าเจ้าหน้าที่จะโดนฟ้องร้องกลับได้ แต่การที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เราจึงสามารถนำเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอนให้แล้วเสร็จ แล้วเราจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
เมื่อถามว่า เมื่อปี 2560 ที่ทีมพญาเสือ กรมอุทยานฯ ได้พบมีว่าการบุกรุก 7 แปลง 7 โฉนด ในพื้นที่ต.เนินหอม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทางป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดเพียงแค่ 2 แปลง ทางกรมอุทยานฯ ต้องไปดำเนินคดีกับ 5 แปลงที่เหลือหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า การที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเหมือนเรามีแบ็กที่จะดำเนินการต่อได้เลย แต่หากป.ป.ช. ยังไม่ได้ชี้มูลความผิด
ดังนั้นการไปขอเพิกถอนที่ดิน โดยที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าที่ดินนั้นมีการออกโฉนดโดยชอบหรือไม่นั้น อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปฟ้อง ก็เกรงว่าจะโดนฟ้องกลับ อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นคดีบุกรุกพื้นทีป่าอีกคดีหนึ่ง ตนไม่ได้แยกว่าเป็นของใคร ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีของน.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ในพื้นที่จ.ราชบุรี
การพบการบุกรุกป่าเมื่อเราเป็นโจทย์จะฟ้องร้องใครเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่า เราต้องไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรามีอำนาจหน้าที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ ทั้งการให้ข้อมูล เพื่อให้ตำรวจดำเนินการสืบพยานหลักฐาน และฟ้องร้องตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งเราไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นของใคร
ด้านนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.มีมติชี้มูลคดีนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ และนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก.อบจ. ปราจีนบุรี บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี
ทางกรมอุทยานฯ จะแจ้งความดำเนินคดีในแปลงที่ถูกนำไปออกโฉนดเพิ่มเติมหรือไม่ว่า ขณะนี้ทางกรมอุทยานฯ ได้ทำหนังสือถึง ป.ป.ช.เพื่อขอทราบรายละเอียดในการชี้มูลความผิดในคดีดังกล่าวและจะส่งเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอนต่อไป
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเมื่อปี 2563 ทางกรมได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีพื้นที่บุกรุก เกินจากโฉนด 11 ไร่ และส่งเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์แล้ว ส่วนพื้นที่แปลงโฉนดจากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ 6 ชั้นปี ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ในพื้นที่มาก่อน และได้ส่งให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์เช่นกัน