วัดดังแจงแล้ว หลังถูกมือดีโพสต์ว่อนโซเชียล ไม่มีเงินห้ามเผาศพในวัด ไล่ไปที่อื่น ให้ฮุบของวัดไปใช้ส่วนตัว เจ้าอาวาสโร่แจ้งความ ทำให้เสียชื่อ
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายหนึ่ง นำภาพวัดแห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า แฉพระวัดดังกำแพงเพชร ห้ามเผาศพในวัด อ้างวัดมีค่าใช้จ่าย ไล่ไปเผาที่อื่น ขณะบนภาพดังกล่าว ยังมีข้อความอีกส่วนระบุว่า ไม่มีเงินห้ามเผาศพในวัด แฉเจ้าอาวาสวัดราษฎร์เจริญพรเรียกรับเงิน ลั่นไม่มีเงินทำศพให้ ฮุบของวัดไปใช้ส่วนตัว
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวลงไปในเพจกลุ่มสาธารณะ “ซื้อขาย จิปาถะ กำแพงเพชร” มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นและแชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไปจำนวนมาก โดยมีทั้งตำหนิเจ้าอาวาสรูปที่ถูกกล่าวอ้าง และบางส่วนยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน
เมื่อวันที่ 19 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดราษฎร์เจริญพร (วัดบ้านไร่ทรงธรรม) หมู่ที่ 2 ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พบกับพระอธิการประสิทธิ์ ฐิตะสาโรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์เจริญพร เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสื่อโซเชียล
พระอธิการประสิทธิ์ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทราบว่าใครเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว สำหรับวัดราษฎร์เจริญพรแห่งนี้ มีชาวบ้านมาใช้เมรุเผาศพผู้เสียชีวิต จำนวน 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1, 2, 8, 12
ส่วนกรณีที่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการเผาศพนั้น คือเป็นเงินค่าบำรุงเมรุ ซึ่งทางคณะกรรมการวัดจะมีหลักเกณฑ์การจ่ายค่าบำรุงเมรุ 1,200 บาท หรือตามกำลังศรัทธา เพื่อเป็นค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเชื้อเพลิง ค่าบำรุงรักษาเมรุ
ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ยากไร้ ไม่มีกำลังทรัพย์ ทางวัดก็บริการโดยไม่ได้มีค่าใช้จ่าย ส่วนที่มีคนนำข้อความไปโพสต์ในสื่อโซเชียลมีเดียทำให้ทางวัดเสื่อมเสียชื่อเสียง ทางเจ้าอาวาสดำเนินการแจ้งความที่สภ.ทรงธรรม เรียบร้อยแล้ว
ด้านนายประสิทธิ์ ชาญเชี่ยว อายุ 77 ปี ชาว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ไวยาวัจกรวัด กล่าวว่า เจ้าอาวาสมอบหมายให้ตนทำหน้าที่ดูแลเก็บกุญแจเมรุเผาศพ ก่อนหน้านี้มีญาติของผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง ให้เด็กมาขอกุญแจเมรุ ตนจึงแจ้งว่าให้ญาติคนตายที่เป็นผู้ใหญ่เข้ามาติดต่อแทน เนื่องจากการเผาศพต้องมีค่าใช้จ่าย และขั้นตอนการดำเนินการเป็นเงิน 1,200 บาท หรือตามกำลังศรัทธา
แต่ตนไม่ทราบว่าเด็กเด็กกลับไปบอกญาติที่เป็นผู้ใหญ่ว่าอย่างไร จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ และเข้ามาต่อว่าเจ้าอาวาสในวัด ซึ่งทางเจ้าอาวาสก็ไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด หลังจากนั้นก็มีการนำข้อความไปโพสต์ในสื่อโซเชียล จึงทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของทางวัดและตัวเจ้าอาวาส สำหรับตนแล้วอยากให้ผู้ที่กระทำการดังกล่าวสำนึกผิดด้วยตนเอง คงไม่ต้องบอกอะไรมากมาย และอยากให้เข้ามาขอโทษ ปรับความเข้าใจกัน
นายสมจิตร อายุ 60 ปี ชาว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะยังมีการเผาศพกันอยู่ ซึ่งคนที่นำเรื่องไม่จริงไปโพสต์ลงให้เป็นข่าวจะต้องหวังผลอะไรที่ทำให้วัด และเจ้าอาวาสเสื่อมเสีย ซึ่งก็ต้องสืบหากันดู ซึ่งยืนยันว่ามีชาวบ้านและคณะกรรมการมีความเห็นไม่ตรงกัน แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งไม่อยากให้ใช้วิธีนี้มาทำร้ายกัน มันทำให้วัดเสียหาย