ล็อกดาวน์ย่านชานเมืองใน อู่ฮั่น หลังตรวจพบผู้ติด โควิด 4 คน

วันที่ 28 ก.ค. บีบีซี รายงานว่า ทางการเขตเจียงเซี่ย ที่มีประชากรเกือบ 1 ล้านคน ชานเมืองในเมือง อู่ฮั่น ตอนกลางของจีน ซึ่งเป็นเมืองที่มีการบันทึกไวรัสโคโรนา 2019 เป็นครั้งแรก ออกคำสั่งล็อกดาวน์เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยอยู่ภายในที่พักหรือสถานที่เป็นเวลา 3 วัน หลังมีการตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 ไม่แสดงอาการ 4 คน ในจำนวนนี้ 2 คน ถูกตรวจพบเมื่อ 25 ก.ค. และอีก 2 คน ถูกตรวจพบผ่านการติดตามผู้ติดต่อไม่นานหลังออกคำสั่งล็อคดาวน์

เมืองอู่ฮั่นที่มีประชากร 12 ล้านคน กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลกในช่วงต้นปี 2563 ในฐานะสถานที่แรกที่นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และเป็นเมืองแรกที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์รุนแรง ซึ่งสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกเป็นวงกว้าง แต่ไม่นานหลายเมืองและหลายประเทศจำต้องบังคับใช้มาตรการใกล้เคียงกัน

ต่อมา จีนกลายเป็นที่รู้จักในฐานะเรื่องราวความสำเร็จ โดยยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เร็วกว่าในหลายประเทศ แต่ต้องพลิกผันอีกครั้งเมื่อจีนดำเนินนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ รวมถึงการตรวจหาเชื้อจำนวนมาก การกักตัวเข้มงวด และการล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่ แทนที่จะพยายามอยู่ร่วมกับไวรัสเหมือนในประเทศอื่นๆ เป็นส่วนใหญ่

แม้ว่านโยบายดังกล่าวจะทำให้ผู้เสียชีวิตน้อยลงกว่าประเทศอื่นๆ แต่ต้องเผชิญกับการต่อต้านเพิ่มขึ้น เนื่องจากคนและธุรกิจต้องเผชิญกับข้อจำกัดตึงเครียด

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์เดียวกันนี้ นักวิทยาศาสตร์ระบุมี “หลักฐานน่าสนใจ” ว่า ตลาดอาหารทะเลและสัตว์ป่าหัวหนานของเมืองหวู่ฮั่นเป็นศูนย์กลางของการระบาดของโควิด หลังการศึกษาที่ผ่านพิชญพิจารณ์ (peer review) 2 ฉบับ ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งจากการระบาดช่วงต้นในเมืองดังกล่าว

การศึกษาฉบับหนึ่งแสดงว่า ผู้ป่วยกลุ่มแรกสุดกระจุกตัวรอบตลาดนั้น ส่วนอีกการศึกษาใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อติดตามระยะเวลาของการระบาด ทั้งหมดชี้ว่า ไวรัสก่อโควิด-19 จำนวน 2 สายพันธุ์เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ เมื่อเดือนพ.ย.หรือต้นเดือนธ.ค. 2562

พร้อมกันนี้ คณะนักวิจัยระบุว่า หลักฐานนี้แสดงว่าไวรัสก่อโควิด-19 อยู่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีชีวิตซึ่งขายที่ตลาดหัวหนานเมื่อปลายปี 2562 และว่า ไวรัสก่อโควิด-19 แพร่ไปสู่คนทำงานหรือซื้อของที่ตลาดแห่งนั้น ในเหตุการณ์การหกล้น (spill-over events) แยกกัน 2 ครั้ง โดยมนุษย์ติดไวรัสจากสัตว์ตัวหนึ่ง

ศาสตราจารย์เดวิด โรเบิร์ตสัน นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ หนึ่งในนักวิจัยผู้เกี่ยวข้อง บอกบีบีซีว่า เขาหวังว่า การศึกษาดังกล่าวจะแก้ไขบันทึกข้อมูลที่เป็นเท็จว่าไวรัสมาจากห้องทดลอง

ทั้งนี้ จีนมีผู้ป่วยมากกว่า 2.2 ล้านคน และเสียชีวิต 14,720 ราย ตั้งแต่โควิด-19 เริ่มการระบาดใหญ่เมื่อปี 2562 ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ของอเมริกา