พ่อแม่ใจแทบขาด ลูกวัย 5 ขวบ กลับจากโรงเรียน จู่ ๆ อ้าปากร้องไห้ เห็นสิ่งที่อยู่ในปากแทบช็อก ฟังคำตอบจากคุณครูยิ่งเดือด

พ่อแม่และสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ มักจะเป็นคนที่รักลูกหลานโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งทำให้เด็กได้รับความรักและเอาอกเอาใจจากที่บ้านเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อไปโรงเรียนหรือออกไปข้างนอก เด็กดีของคนในบ้านอาจกลายเป็นเด็กดื้อ และจะได้รับบทเรียนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน

ตัวอย่างเช้น นางลี คุณแม่ชาวจีน ซึ่งได้เล่าเรื่องราว เกี่ยวกับลูกชายวัย 5 ขวบของเธอ ตอนที่ไปโรงเรียนอนุบาล คุณแม่ยอมรับว่าลูกชายค่อนข้างซนแต่ไม่ใช่เด็กไม่ดีอะไร ปกติหลังจากกลับจากโรงเรียนอนุบาลแล้ว ลูกชายจะหัวเราะและเล่นกับทุกคนอย่างมีความสุข

อย่างไรก็ตาม ในวันที่เกิดเหตุ ลูกชายดูไม่ค่อยมีความสุข ร้องไห้ และไม่ตอบคำถามใด ๆ จากพ่อแม่หรือคนในครอบครัว

เมื่อเห็นเช่นนั้น นางลีก็อุ้มลูกขึ้นมาปลอบโยน และถามว่าเหตุใดจึงเศร้าใจนัก ขณะที่กำลังปลอบใจ จู่ ๆ เด็กน้อยก็น้ำตาไหล ในขณะนั้น นางลี บอกว่า เธอตกใจแทบเป็นบ้าเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในปากของลูก มีเลือดเต็มปากของลูก และเริ่มไหลออกมาในขณะที่เขาร้องไห้ ทุกคนในครอบครัวรีบเอาสำลีมาห้ามเลือดให้ และพยายามปลอบโยนเขา

นางลีโทรไปถามครูว่าทำไมปากของลูกถึงมีเลือดออกเมื่อกลับจากโรงเรียน ครูบอกว่า ลูกชายของเธอเป็นคนซุกซนและมักจะชอบแกล้งนักเรียนคนอื่น ๆ จึงมีหลายคนไม่ชอบเล่นกับเขา ซึ่งในวันนี้เด็กชายทะเลาะกับเพื่อนอีกคนแล้วล้มลง คาดว่าน่าจะมีบาดแผลและเลือดออกตั้งแต่ตอนนั้น แต่ครูไม่ได้สังเกต และเมื่อลูกชายกลับถึงบ้านและร้องไห้ เลือดจึงไหลออกจากปาก

นางลีโกรธมากจึงพาลูกไปหาอาจารย์ใหญ่เพื่อโต้เถียง เธอเชื่อว่าเมื่อส่งลูกไปโรงเรียน อย่างน้อย ๆ คือลูกของเธอจะต้องปลอดภัยและได้รับการดูแลอย่างดี แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม เธอจึงโกรธมาก

แม้ครูใหญ่และครูจะขอโทษนางลีและลูกชายแล้ว แต่นางลียังคงไม่พอใจกับคำขอโทษนี้ และต้องการไล่ครูออก รวมถึงต้องการไปพบครอบครัวของเพื่อนนักเรียนซึ่งเป็นคู่กรณีกับลูกชายของเธอ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชย

ขณะที่ทางโรงเรียนเชื่อว่านี่เป็นเพียงอุบัติเหตุไม่ใช่ความตั้งใจ และโชคดีที่ไม่มีผลกระทบร้ายแรง ดังนั้นพวกเขาจึงอยากให้ครอบครัวของนางลียุติเรื่องราว อย่างไรก็ตาม ผู้เป็นแม่ยังคงโกรธจัดและรีบพาลูกออกจากโรงเรียนทันที