แม่เอะใจ ลูกชาย 4 ขวบกลับจากโรงเรียน ร้องปวดฉี่ แต่ไม่ยอมถอดกางเกง เห็นรอยช้ำใจร่มผ้าแทบทรุด ฟังลูกเล่าทั้งน้ำตายิ่งใจสลาย
ผู้ปกครองส่วนใหญ่เมื่อตัดสินใจส่งลูกไปโรงเรียนอนุบาล ย่อมคัดสรรมาแล้วอย่างดี มีความมั่นใจอย่างมากในความเชี่ยวชาญและทักษะการสอนของครู อย่างไรก็ตาม ยังคงมีกรณีอุทาหรณ์ให้ได้เตือนใจพ่อแม่กันอย่างต่อเนื่อง
ดังเช่นเรื่องราวของเด็กชายอายุ 4 ขวบ ในประเทศจีน กำลังอยู่ในช่วงวัยที่น่ารัก บุคลิกเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและกระตือรือร้น และอาจจะมีบ้างที่ดื้อซน ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ดังนั้นเมื่อมองหาโรงเรียนอนุบาลให้กับลูกชาย ผู้เป็นแม่จึงไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไรมากเกินไป หวังเพียงว่าคุณครูจะดูแลและฝึกฝนลูกชายของเธออย่างดีตามขอบเขตที่ควรจะเป็น
ซึ่งแม่ได้บอกสิ่งเหล่านั้นแก่ครูของลูกด้วย และยังบอกเกี่ยวกับบุคลิกภาพของเด็กชายว่า “ลูกชายของฉันยังเด็ก และไม่ได้มีระเบียบวินัยดีนักเมื่ออยู่ที่บ้าน ดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะอดทนกับเขา หากเขาทำผิดหวังว่าจะช่วยสั่งสอนอย่างอ่อนโยน และโปรดส่งข้อความถึงฉันเพื่อแจ้งให้ทราบด้วย” ซึ่งคุณครูก็ตอบสนองต่อความปรารถนาของแม่ สัญญาว่าจะทำหน้าที่ของเธออย่างดีเสมอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกชายของเธอกลับมาจากโรงเรียน ก็ร้องว่าอยากปัสสาวะแต่ไม่ยอมถอดกางเกงออก ผู้เป็นแม่คิดว่าลูกอาจปัสสาวะรดกางเกงแล้วกลัวถูกดุ ดังนั้นจึงต้องพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างใจเย็น เพื่อให้ลูกเปลี่ยนสวมกางเกงตัวใหม่ โดยไม่คาดว่าคิดว่าจู่ๆ ลูกชายจะน้ำตาไหลแล้วพูดว่า “แม่ หนูไม่ถอดกางเกง”
เมื่อได้ยินลูกพูดแบบนั้น ผู้เป็นแม่รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่าง เธอค่อยๆ พยายามเปลี่ยนกางเกงของลูกชาย และตรวจสอบอย่างรอบคอบว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ ซึ่งทันทีที่ถอดกางเกงออกก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นรอยฟกช้ำจำนวนมากใต้ร่มผ้า ราวกับเลือกทำร้ายในบริเวณที่ถูกเสื้อผ้าปกปิดไว้ทำให้มองเห็นได้ยาก
หลังจากซักถามอยู่นาน ในที่สุดลูกชายยอมเล่าว่า เขาทำผิดเพราะไม่ยอมนอนกลางวันและส่งเสียงดัง ทำให้ครูกล่อมเด็กคนอื่นๆ ให้นอนหลับได้ยาก ครูจึงดึงเขาออกไปจากเตียงแล้วทุบตี เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดออกมาทั้งน้ำตา และมองดูรอยฟกช้ำที่น่าเจ็บปวดเหล่านั้น แม่จึงตั้งใจจะไปร้องเรียนที่โรงเรียนในวันพรุ่งนี้
แต่ในขณะที่แม่และลูกชายยังคงคุยกัน จู่ๆ เด็กน้อยก็กลัวมากจนปัสสาวะรดกางเกง ในตอนนั้นเขาเอาแต่ก้มหน้า ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองแม่ ซึ่งผู้เป็นแม่เข้าใจความกังวลและความกลัวของลูกชาย เพราะไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดทางร่างกายเท่านั้นที่ต้องเผชิญมา แต่ยังรวมถึงความเจ็บปวดทางจิตใจด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอตัดสินใจโทรหาตำรวจให้เข้ามาช่วยเหลือ
เมื่อตำรวจเข้าแทรกแซง ครูใหญ่โรงเรียนอนุบาลชี้แจงว่า ครูประจำชั้นยอมรับว่าทุบตีเด็กจริง และกล้องวงจรปิดของโรงเรียนก็สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ แต่ไม่ใช่การทุบตีเพื่อทารุณกรรม เพียงแต่เป็นการข่มขู่เพื่อให้เด็กประพฤติตัวดีขึ้น
แน่นอนว่าผู้เป็นแม่ยิ่งโกรธมากเมื่อได้ฟังถ้อยคำเหล่านี้ เธอเชื่อว่าเป็นการทารุณกรรมเด็ก เพราะลูกชายไม่เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น แต่ยังต้องทนทุกข์ทรมานจาก “ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่” อีกด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่เธอต้องชี้แจงเรื่องนี้และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกของเธอ
ขณะนี้ตำรวจยังคงรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อตัดสินดำเนินคดี ซึ่งล่าสุดครูคนดังกล่าวถูกไล่ออกจากโรงเรียนแล้ว ส่วนเด็กชายแสดงสัญญาณของความบอบช้ำทางจิตมากมาย
- แม่ใจเจ็บ ลูก 3 ขวบกลับจากโรงเรียน ร้องไห้บอก “ฉี่ไม่ออก” ถอดกางเกงดู รีบอุ้มไปหาหมอ
- แม่เดือด ลูก 3 ขวบบ่นหิว ร้องไห้ฟ้อง “ครูไม่ให้เติมข้าว” แต่พอฟังครูอธิบายจบ ยกย่องมากๆ!