เด็กชายวัย 8 ขวบ ยกมือขอความช่วยเหลือถึง 7 ครั้งในห้องเรียน เพราะรู้สึกไม่สบาย แต่กลับถูกครูเพิกเฉย จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ทำให้สังคมสะเทือนใจ
เว็บไซต์ Saostar รายงานเหตุการณ์น่าเศร้านี้เกิดขึ้นในประเทศจีน ทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์และสังคมทั่วไปตกตะลึง เมื่อ เสี่ยวกั๋ว เด็กชายวัย 8 ขวบ พยายามยกมือขอความช่วยเหลือหลายครั้งในช่วงที่รู้สึกไม่สบายขณะเรียน แต่การเพิกเฉยของครู กลับจบลงด้วยความสูญเสียที่ทุกคนต้องสะเทือนใจ
ตามข้อมูลจากผู้ปกครองของเสี่ยวกั๋ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2020 เด็กชายยังคงไปโรงเรียนตามปกติ แต่เมื่อเวลา 10.21 น. เขาเริ่มรู้สึกไม่สบายและพยายามยกมือขอความช่วยเหลือจากครู ในช่วงเวลาเพียง 10 นาที เสี่ยวกั๋วยกมือถึง 7 ครั้ง เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ครูกลับไม่ตอบสนอง และบอกให้เขารอจนกระทั่งเลิกเรียน
หลังจากถูกครูเพิกเฉย เสี่ยวกั๋ว ฟุบลงบนโต๊ะด้วยความเหนื่อยล้า จนกระทั่งเวลา 10.53 น. เมื่อเลิกเรียน ครูจึงเข้ามาพยุงเขาออกจากห้องเรียน แต่เนื่องจากอาการของเขาทรุดหนัก เสี่ยวกั๋วล้มลงที่บันไดและหมดสติ แม้จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่เขาก็ไม่รอดชีวิต
สิ่งที่น่าสลดใจยิ่งกว่านั้นคือ จุดที่เสี่ยวกั๋วล้มลงอยู่ในจุดอับของกล้องวงจรปิด ทำให้ไม่สามารถยืนยันรายละเอียดของเหตุการณ์ได้อย่างครบถ้วน ครอบครัวของเสี่ยวกั๋วรู้สึกทุกข์ทรมานกับการสูญเสียลูกชาย และเชื่อว่าการเพิกเฉยและการไม่ดำเนินการอย่างทันท่วงทีของครู เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งนี้
หลังเหตุการณ์นี้ ครูและโรงเรียนพยายามอธิบายว่า การตายของเสี่ยวกั๋วเกิดจากโรคประจำตัวที่มีมาก่อน แต่พ่อแม่ของเด็กชายไม่ยอมรับและได้ยื่นฟ้องโรงเรียนในข้อหาประมาทในการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน คดีนี้ถูกนำขึ้นสู่ศาลประชาชนแห่งเมืองซีอาน ในมณฑลส่านซี และกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ผลการตัดสินในคดีครั้งที่ 2 จะมีการตัดสินในเร็ว ๆ นี้
เหตุการณ์นี้ได้ก่อให้เกิดกระแสความโกรธแค้นในสังคม และยังเป็นบทเรียนเตือนใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบของครูและโรงเรียน ในการดูแลและปกป้องนักเรียนเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน