ลูกชายยังทึ่ง พ่อวัย 67 ดื่มเหล้ามา 45 ปี แต่ตับยังแข็งแรงดี ถามเคล็ดลับมาให้แล้ว

Home » ลูกชายยังทึ่ง พ่อวัย 67 ดื่มเหล้ามา 45 ปี แต่ตับยังแข็งแรงดี ถามเคล็ดลับมาให้แล้ว
ลูกชายยังทึ่ง พ่อวัย 67 ดื่มเหล้ามา 45 ปี แต่ตับยังแข็งแรงดี ถามเคล็ดลับมาให้แล้ว

ชายวัย 67 ปี ดื่มเหล้ามา 45 ปี แต่ตับยังคงแข็งแรง แพทย์ยังบอก พฤติกรรมการใช้ชีวิตน่าศึกษาและเอาเป็นแบบอย่าง

นายโฮอาน อายุ 30 ปีเศษ ประเทศจีน ทำงานเป็นพนักงานธนาคาร ซึ่งทำให้เขาต้องเข้าร่วมงานสังคมบ่อยครั้ง โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องดื่มเหล้าในงานเลี้ยงรับรอง

เมื่อเวลาผ่านไป ไลฟ์สไตล์นี้เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเขา และเมื่อไม่นานมานี้ เขาเริ่มรู้สึกไม่สบาย โดยเฉพาะมีอาการปวดที่หลังและท้อง ซึ่งทำให้เขากังวลมาก เมื่อแพทย์ตรวจพบว่า ตับของเขาเริ่มมีอาการแข็งตัว

แต่เขากลับพบว่าพ่อของเขา อายุ 67 ปี แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง แม้ว่าพ่อของเขาจะมีประวัติดื่มเหล้ามา 45 ปีเช่นกัน แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ การทำงานของตับของพ่อเขายังอยู่ในสภาพที่แข็งแรง

ด้วยความสงสัยในความลับของพ่อและความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง นายโฮอานจึงตัดสินใจศึกษาลึกลงไปเกี่ยวกับสาเหตุเบื้องหลัง เขาเริ่มสังเกตและสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมประจำวันของพ่อด้วยความหวังว่าจะได้คำตอบ

และนี่คือพฤติกรรมของพ่อของนายโฮอาน ที่แพทย์ยังบอกว่าเป็นตัวอย่างที่น่าศึกษาและเอาเป็นแบบอย่าง

1. ตรวจสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แม้ว่าพ่อของนายโฮอานจะพบปะเพื่อนฝูงเพื่อดื่มเหล้าทุกสัปดาห์ แต่เขาให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองมาก ดังนั้นเขาจึงไปตรวจสุขภาพตับอย่างละเอียดอย่างน้อยปีละครั้ง

การตรวจสุขภาพเป็นประจำช่วยให้เขาสามารถติดตามสภาพของตับได้ทันท่วงที เพื่อให้สามารถตรวจพบปัญหาแต่เนิ่น ๆ และมีการจัดการที่เหมาะสมได้เร็วที่สุด

2. ควบคุมความถี่ในการดื่มเหล้า

การควบคุมจำนวนและความถี่ในการดื่มเหล้า เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมสำคัญในการปกป้องตับของพ่อของนายโฮอาน

แม้จะชอบดื่มเหล้า แต่เขามักจะตั้งใจดื่มไม่เกิน 2 แก้วต่อครั้ง และไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ การควบคุมตัวเองนี้ช่วยให้เขารักษาการทำงานของตับได้ดี และแม้จะดื่มเหล้า เขาก็ไม่ประสบปัญหาสุขภาพในระยะยาว

3. มีการรับประทานอาหารที่เหมาะสม

การรับประทานอาหารที่เหมาะสมก็เป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสุขภาพตับ แม้ว่าพ่อของนายโฮอานจะไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อน ๆ บ่อยครั้ง แต่เขาให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

เขาให้ความสำคัญกับการเพิ่มอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในเมนูประจำวัน เช่น บลูเบอร์รี่ บรอกโคลี ชาเขียว และถั่วชนิดต่าง ๆ สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารเหล่านี้สามารถช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากการเผาผลาญแอลกอฮอล์และลดความเสียหายต่อเซลล์ตับ

พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยรักษาสุขภาพตับ แต่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการมีชีวิตที่ยืนยาว

วิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเรียนรู้และทำตามได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพดีและเพลิดเพลินกับชีวิตไปพร้อมกัน

นอกเหนือจากการควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์และการรับประทานอาหารที่สมดุลแล้ว การมีกิจกรรมสุขภาพประจำวันยังมีประโยชน์ต่อการดูแลตับเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย การฝึกหายใจลึกเป็นประจำจะช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจน และส่งเสริมการหมุนเวียนโลหิต ซึ่งช่วยให้ตับทำหน้าที่ขจัดสารพิษและเผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ