ลูกชายถูกลักพาตัว พ่อขับรถไล่ตามยิ่งกว่าหนังแอคชั่น รู้ตัว "ผู้บงการ" ถึงกับเจ็บใจ

Home » ลูกชายถูกลักพาตัว พ่อขับรถไล่ตามยิ่งกว่าหนังแอคชั่น รู้ตัว "ผู้บงการ" ถึงกับเจ็บใจ
ลูกชายถูกลักพาตัว พ่อขับรถไล่ตามยิ่งกว่าหนังแอคชั่น รู้ตัว "ผู้บงการ" ถึงกับเจ็บใจ

 คดีลักพาตัวเด็กชาย 7 ขวบ ริมถนนกลางวันแสกๆ ในมาเลเซีย ทำเอาสาธารณชนทั้งหวาดกลัวและสะเทือนอารมณ์ เมื่อพ่อทุ้มทั้งร่างกายเพื่อช่วยชีวิตลูก ในขณะที่ต่อมาทราบว่าผู้บงการคือ “หุ้นส่วน” ของเขาเอง

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา ในเมืองยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย ในวันนั้น คุณลิน นักธุรกิจชาวสิงคโปร์วัย 40 ปี พร้อมด้วยภรรยา ลูกสาววัย 12 ขวบ และลูกชายวัย 7 ขวบ ได้ไปดูโรงงานใหม่สำหรับทำธุรกิจของเขา

ขณะที่เขาและภรรยากำลังเข้าดูไปในอาคาร กำลังยืนเล่นอยู่ข้างนอก โดยภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดพบว่าเวลาประมาณ19.30 น. ขณะที่ลูกๆ กำลังเล่นอยู่บนทางเท้า รถเก๋งคันหนึ่งมาจอดข้างถนน ชายสองคนลงมาจากรถ หนึ่งในนั้นรีบเดินไปหาลูกชายแล้วอุ้มขึ้นไปบนรถทันที ลูกสาวดูประหลาดใจมากจนไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร

แต่แล้วเด็กสาวก็วิ่งเข้าไปบอกพ่อแม่ของเธอ “จู่ๆ ลูกสาวก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ ผมออกไปทันที แต่ไม่เห็นลูกชายแล้ว” นายลินเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากลูกสาววิ่งมาหา และทันทีที่เข้าใจปัญหาเขาจึงขับรถไล่ตามรถของผู้ลักพา ซึ่งตามบอกเล่าของลูกสาว รถไม่มีป้ายทะเบียน

ในที่สุดเขาก็ตามทันรถและขับเข้าไปหยุดรถ แต่คนร้ายก็จงใจชนท้ายรถของเขา สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถและพุ่งเข้าไปพยายามเปิดประตูรถคนร้าย แต่ประตูรถทั้งหมดถูกล็อค ขณะที่กำลังค้นหาวิธีช่วยชีวิตลูกชายอย่างบ้าคลั่ง เขาก็ใช้มือทุบกระจกรถและเห็นลูกชายถูกควบคุมตัวอยู่โดยชายแปลกหน้าสามคน 

คนร้ายตั้งใจจะหนีออกจากที่เกิดเหตุโดยใส่เกียร์ถอยกลับ แต่เขาจับประตูไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จึงถูกรถลากไปตามถนนทำให้ได้รับบาดเจ็บ แขน ขา ใบหน้า และถึงกับสูญเสียฟันไป 2 ซี่ แต่เขายังไม่ยอมแพ้ รีบวิ่งกลับไปที่รถและไล่ตามคนร้ายต่อไป

แต่แล้วกลับคลาดกับคนร้ายหลังจากเลี้ยวรถตรงสัญญาณไฟจราจร กระทั่งขับตามไปเรื่อยๆ และในที่สุดก็พบรถของคนร้ายถูกจอดทิ้งไว้ข้างถนน ห่างจากสัญญาณไฟจราจรประมาณ 3 กม. ภายในรถมีลูกชายวัย 7 ขวบของเขาอยู่ และโชคดีที่เด็กชายไม่ได้รับบาดเจ็บ

หลังจากได้ลูกชายกลับคืนอ้อมแขนแล้ว นายลินก็ไปที่สถานีตำรวจในยะโฮร์บาห์รูเพื่อแจ้งความ ภาพจากกล้องที่บันทึกไว้แสดงให้เห็นว่า ก่อนเกิดการลักพาตัว มีชายแปลกหน้าเข้ามาดูลาดเลาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นนายลินและภรรยาเข้าไปข้างในอาคาร และมีเพียงเด็กสองคนเล่นอยู่ข้างนอก พวกเขาจึงกล้าลงมือก่อเหตุ

ผลการสอบสวนของตำรวจพบว่า ผู้บงการลักพาตัวครั้งนี้คือ “พันธมิตรทางธุรกิจ” ของนายลินเอง และเพราะทั้งสองไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน ดังนั้น นายลินเชื่อว่าแรงจูงใจของอีกฝ่ายมีเพียงเรื่องเงินเท่านั้น ซึ่งต่อมาตำรวจมาเลเซียจับกุมผู้บงการได้แต่ชายอีก 3 คนที่ลงมือก่อเหตุยังคงหลบหนี

ทันทีที่เดินทางกลับสิงคโปร์ นายลินก็ไปที่สถานีตำรวจที่อังโมเกียวทางใต้ เพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ นายลินยังกล่าวอีกว่า เขากำลังคิดว่าควรลงทุนและทำธุรกิจในมาเลเซียต่อไปหรือไม่

“ผมต้องการเปิดเผยคดีนี้ต่อสาธารณะ เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เพราะมันชัดเจนว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่มีการวางแผนมาอย่างรอบคอบ” นายลินบอกกับสำนักข่าว Mothership

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ