ลูกค้าหอบทองอิตาลี เช็กเปอร์เซ็นต์ที่ร้าน "นะโมช่างทอง" พอคิดราคาให้ หัวใจพองโตเกิ๊น

Home » ลูกค้าหอบทองอิตาลี เช็กเปอร์เซ็นต์ที่ร้าน "นะโมช่างทอง" พอคิดราคาให้ หัวใจพองโตเกิ๊น
ลูกค้าหอบทองอิตาลี เช็กเปอร์เซ็นต์ที่ร้าน "นะโมช่างทอง"  พอคิดราคาให้ หัวใจพองโตเกิ๊น

ร้านทอง “นะโมช่างทอง” เผยคลิปลูกค้ารายหนึ่งนำทองสมบัติเก่าจากอิตาลีมาประเมิน ก่อนที่จะทราบความจริงที่ทำให้แทบช็อก! พบว่าเป็นทองคำ 99% มีมูลค่ารวมกว่า 1.4 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เพจเฟซบุ๊กของร้านทำทอง “นะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวลรี่” ได้โพสต์วิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ขณะที่ลูกค้ารายหนึ่งนำทองแผ่นมาที่ร้านเพื่อให้ตรวจสอบ โดยลูกค้าบอกว่า ทองชิ้นนี้เป็นสมบัติเก่าจากคุณย่าซึ่งเป็นคนอิตาลี และได้ส่งต่อมาถึงคุณแม่ แต่ลูกค้าสงสัยว่าเป็นทองจริงหรือไม่?

คุณนะโม เจ้าของร้านทอง ได้กล่าวในวิดีโอว่า จากการพิจารณาลักษณะของทอง ดูเหมือนว่าจะเป็นทองคำจริง แต่เพื่อความชัดเจน จึงต้องตรวจสอบเพิ่มเติม หลังจากนั้น ได้นำแผ่นทองไปตรวจที่เครื่องเอกซเรย์ ซึ่งผลการตรวจพบว่า แผ่นทองนี้มีเปอร์เซ็นต์ทองคำสูงถึง 99% ซึ่งถือเป็นทองคำแท้ที่มีคุณภาพสูงมาก โดยคุณนะโมกล่าวว่า ทองในไทยมักจะมีค่าทองไม่สูงขนาดนี้ และยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่ร้านได้เจอทองคำในลักษณะนี้

ทางด้านคุณแม่ เจ้าของทอง เปิดเผยว่า ทองนี้เป็นสมบัติของคุณย่าฝั่งแม่สามี ตอนแรกคิดว่าเป็นทองที่ใช้หล่อพระ โดยคิดว่า หากขายได้สัก 30,000 บาท ก็คงยอมขายแล้ว แต่เมื่อทราบว่ามันเป็นทองคำแท้ จึงคาดว่าจะสามารถขายได้ประมาณ 100,000 บาท นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่า ทองที่นำมานี้ยังไม่ได้นำมาให้ตรวจสอบทั้งหมด

ต่อมา คุณนะโมได้ทำการชั่งน้ำหนักแผ่นทองทั้งหมด พบว่ามีน้ำหนักรวมกว่า 476.35 กรัม หรือเกือบครึ่งกิโลกรัม และได้ประเมินมูลค่าทั้งหมดที่ 1,469,888 บาท ซึ่งทำให้แม่ลูกคู่นี้ตกใจมาก ก่อนที่พวกเขาจะนำทองไปรวมกับทองอื่น ๆ ที่มีอยู่ ซึ่งมูลค่าทั้งหมดรวมเป็น 1,477,810 บาท

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าท่านนี้ตัดสินใจไม่ขายทองแผ่นดังกล่าวตามคำแนะนำของคุณนะโม และมอบทองคืนให้กับลูกค้า

หลังจากวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม โดยมีหนึ่งคอมเมนต์ตั้งข้อสังเกตว่า “ทองคำจากอิตาลีสามารถนำเข้ามาประเทศไทยได้หรือไม่? ไม่เสียภาษี? ผ่านตม.อิตาลีและกรมศุลกากรไทยได้หรือ?” พร้อมยกตัวอย่างกระเป๋าแบรนด์เนมต่างประเทศที่ต้องเสียภาษี

มีผู้มาตอบคอมเมนต์ดังกล่าวว่า “ทองคำที่ไม่ใช่รูปพรรณภาษี 0% ครับ เนื่องจากถือเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่ไม่ต้องเสีย Duty และ VAT ส่วนกระเป๋าจัดอยู่ในสินค้าฟุ่มเฟือยและมีภาษี 30% โดยทองคำแท่งจะต้องเสียภาษีเงินได้หากขายแล้วมีกำไร แต่หากขาดทุนก็ไม่ต้องจ่ายภาษี ส่วนทองในกรณีนี้ไม่ต้องเสียภาษีใด ๆ เพราะเป็นมรดกที่ไม่เกิน 100 ล้านและไม่ทราบต้นทุน โดยหลักการแล้ว Duty จะเป็น 0% สำหรับทองคำแท่งครับ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ