ลูกค้าสั่ง “ข้าวผัดแซลมอนไข่เค็ม” แต่สภาพที่ได้ไม่ตรงปกสุด ๆ พีกสุดคือสภาพแคร์รอต สุดท้ายมื้อนี้ถึงกับกินไม่ลง
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ในกลุ่ม “พวกเราคือผู้บริโภค” ออกมาระบายเรื่องราวหลังจากสั่งเมนู ข้าวผัดแซลมอนไข่ดอง จากร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผ่านแอปฯ เดลิเวอรี่ แต่เมื่อเมนูมาส่งกลับถึงกับเฟลกับรสชาติ และสภาพของแซลมอนและแครอต ไม่สมกับที่เป็น “เซตสเปเชียล” จนสุดท้ายไม่สามารถกินได้ลงจริง ๆ
โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า “ขอถามความคิดเห็นสมาชิกหน่อยค่ะ พอดีสั่งอาหารญี่ปุ่นจากในแอปฯ ที่มีโปรโมชั่นบ่อย ๆ เมนูข้าวผัดแซลมอนไข่ดอง หลังจากไม่สั่งนานมาก คราวก่อนก็เคยมีประเด็นแต่คนละสาขา ชิมไปคำแรกคือเค็มมาก เค็มแบบกินไม่ได้เลยเอาลองให้คนในบ้านกินก็ได้รับคำตอบว่าเค็มเหมือนกัน
แต่สิ่งที่ข้องใจที่สุดคือแคร์รอต มันคือเศษแคร์รอตที่ทำเป็นรูปซากุระ มาก่อนค่ะ ตอนแรกก็ไม่ชัวร์เลยส่งไปถามทั้งแฟน และเพื่อนที่เป็นเชฟที่คนลงมติเหมือนกันว่าส่วนนี้ต้องทิ้งไม่ทำให้ลูกค้ากิน คือถ้าไม่มีแคร์รอตก็ควรแจ้งหรือโทรมาถามลูกค้า แล้วนี่คือเสียเงินนะคะ เหมือนเอาเศษ ๆ มาให้กิน ส่วนแซลมอนดำปี๋ เนื้อส้มไหนก่อนคะ จะปิดร้านแล้วจริง ๆ ปิดเครื่องไม่ต้องรับออร์เดอร์แล้วก็ได้ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ สรุปไม่ได้กินมื้อนี้”
หลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ไป ปรากฏว่าต่างมีผู้คนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างมองตรงกันว่า เหมือนร้านนำเศษผัก และเศษแซลมอนที่เหลือมาใส่ให้ลูกค้า และมองว่าถ้าร้านไม่มีของก็ไม่ควรจะรับออร์เดอร์จะดีกว่าเป็น
ต่อมา เจ้าของโพสต์ เข้ามาคอมเมนต์เพิ่มอีกว่า “คนมันหิวรอนานเซ็งสุด ๆ ไปเลยเจอแบบนี้ ส่วนข้าวมันมันมากค่ะ โทรไปร้าน ร้านปิดแล้วค่ะ แจ้งทางเพจไปแล้ว ยังเก็บข้าวไว้เผื่อเขาส่งคนมารับพรุ่งนี้ แคร์รอตเห็นแล้วโกรธจริงค่ะ คือเราจ่ายเงินค่ะ ถ้าเอาส่วนนี้มาให้พนักงานกินหลังเลิกงานพอเข้าใจได้เลย เหมือนตอนที่เคยทำโรงแรม/ร้านอาหาร
ถ้าของไม่ครบ ไม่พร้อมขายลูกค้า ปิดระบบได้ค่ะ หรือแจ้งลูกค้า อันนี้เหมือนทำลวก ๆ เพราะร้านใกล้ปิด สั่ง 20.40 น. ร้านปิด 21.30 น. แต่เราเพิ่งมาเห็นตอนเกือบ 22.00 น. เพราะตอนแรกยังไม่หิวมาก ตอนนี้โมโหหิวไปเลย ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ หวังว่าคงจะเข้าใจกัน”