ลุงหัวร้อน ฉุนถูกรถเกี่ยวข้าวปฏิเสธ คว้าจอบฟาดหน้าคนขับ จมูกร้าวหมดสติ ยันไม่เจตนาจะทำร้าย อยากขอโทษคู่กรณีและครอบครัว พร้อมดูแลค่ารักษา
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้งว่า นายวิเชียร อายุ 53 ปี ชาวนา ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาส จ.บุรีรัมย์ ไปติดต่อให้รถเกี่ยวข้าวที่กำลังเกี่ยวอยู่ติดกับนาของตัวเองเมื่อเวลาประมาณ 15.00-16.00 น. วันที่ 18 พ.ย. แต่นายอำพล หรืออี๊ด อายุ 26 ปี คนขับรถเกี่ยวข้าวได้ปฏิเสธ เพราะยังเกี่ยวข้าวของอีกที่ยังไม่เสร็จ และเป็นช่วงใกล้ค่ำ ปกตินายอำพลจะไม่รับเกี่ยวข้าวตอนกลางคืน
ทำให้นายวิเชียรไม่พอใจ ถือจอบตรงเข้าไปฟาดบริเวณใบหน้าของนายอำพลที่กำลังขับรถเกี่ยวข้าวในแปลงนาติดกัน จนเลือดไหลอาบเต็มหน้า ทำให้รถเกี่ยวข้าวที่เครื่องยังติดอยู่ไถลไปพุ่งชนกับคันนา ส่วนนายอำพลซึ่งถูกจอบฟาดหน้าจนเลือดอาบก็ตกจากรถนอนหมดสติกับพื้นคันนา
จากนั้นนายพล อายุ 57 ปี เจ้าของนาที่นายอำพลกำลังเกี่ยวข้าวให้ ได้วิ่งเข้าไปดูนายอำพลที่นอนสลบกับพื้น แล้วร้องตะโกนให้คนมาช่วย ก่อนที่รถกู้ชีพจะเข้ามาปฐมพยาบาล และรีบนำส่ง รพ.ลำปลายมาศ พบว่านายอำพลดั้งจมูกร้าวเย็บ 3 เข็ม และมีอาการปวดศรีษะรุนแรง ต้องนอนรักษาตัวที่ รพ. และรอตรวจเอ็กซเรย์ว่ามีอาการกระทบกระเทือนทางสมองหรือไม่
สอบถามนายพล กล่าวว่า เมื่อวานตนว่าจ้างให้นายอำพล ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกันมาเกี่ยวข้าวที่นาของตน จำนวน 8 ไร่ นายอำพลก็มาเกี่ยวให้ตั้งแต่ช่วงเที่ยง กระทั่งประมาณ 3-4 โมงเย็น นายวิเชียรซึ่งมีนาอยู่ติดกับของตน เดินมาถามนายอำพลว่าจะเกี่ยวข้าวในนาให้ต่อเลยได้ไหม ตนจึงตะโกนถามนายอำพลซึ่งกำลังเกี่ยวข้าวในนาของตนเกือบจะเสร็จแล้วเหลือประมาณ 1 ไร่ แต่นายอำพลยกมือส่งสัญญาณว่าไม่เกี่ยวต่อ อาจเป็นเพราะใกล้จะค่ำแล้ว ตนคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร เพราะนายวิเชียรพูดว่าไม่เป็นไรงั้นเดี๋ยวไปบอกรถเกี่ยวอีกคันก็ได้
นายพล กล่าวต่อว่า ปรากฏว่าจังหวะที่ตนหันไปเล็มข้าวที่รถเกี่ยวไม่ถึง นายวิเชียรก็ถือจอบเดินดิ่งเข้าไปฟาดหน้านายอำพลขณะที่กำลังขับรถเกี่ยวข้าวอยู่ จนเลือดอาบเต็มหน้า ตนจึงร้องตะโกนว่าทำหลานทำไม เพราะตนนับถือคุ้นเคยกับพ่อของนายอำพล จึงเอ็นดูเหมือนลูกหลาน จากนั้นก็ตะโกนให้คนมาช่วยพานายอำพลส่ง รพ. สาเหตุที่นายวิเชียรใช้จอบฟาดนายอำพล น่าจะโมโหที่ไม่ได้เกี่ยวข้าวให้ และอาจจะดื่มมาด้วยจึงอารมณ์ร้อน ไม่งั้นคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้
ด้านนายอดุลย์ บุญเลิศ อายุ 52 ปี พ่อของนายอำพล กล่าวว่า ตนมีรถเกี่ยว 2 คัน วันเกิดเหตุตนไปเกี่ยวอีกแปลง ส่วนลูกชายเกี่ยวที่แปลงของลุงพล พอทราบข่าวก็ตกใจรีบขับรถมาดูลูกชายเห็นเลือดอาบเต็มหน้า เมื่อฟังเรื่องราวจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ตนมองว่าทำรุนแรงเกินเหตุ เพราะปกติตนกับลูกจะไม่รับเกี่ยวข้าวตอนกลางคืนอยู่แล้ว เพราะจะมีผลเสียทั้งรถและเจ้าของนาเอง แต่เท่าที่ฟังเหมือนกับว่าผู้ก่อเหตุจะบังคับให้ลูกเกี่ยวต่อจากแปลงของลุงพลในวันนั้นเลย พอลูกปฏิเสธก็ไม่พอใจใช้จอบตีลูก
ขณะที่นายวิเชียร คนก่อเหตุ ยอมรับว่าใช้จอบฟาดนายอำพลจริง เพราะโมโหที่ปฏิเสธไม่ยอมเกี่ยวข้าวให้ ทั้งที่ตอนแรกตนไปติดต่อกับนายโชค รถเกี่ยวอีกคันไว้แล้วว่าจะให้มาเกี่ยว แต่เห็นยังเกี่ยวของชาวนาอีกเจ้าอยู่ น่าจะไม่เสร็จง่ายๆ จึงบอกยกเลิกรถเกี่ยวของนายโชค และไปติดต่อรถเกี่ยวของนายอำพล เพราะเห็นว่ากำลังเกี่ยวอยู่ในแปลงที่อยู่ติดกับนาตัวเอง ซึ่งนายอำพลก็รับปากแล้ว
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า พอบ่าย 3 โมงมาถามอีกทีกลับถูกปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวให้แล้ว โดยที่ไม่อธิบายเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงไม่เกี่ยว หรือบอกตนก็ได้ว่าวันนี้ไม่ทันวันหลังจะมาเกี่ยวให้ ตนก็คงไม่โกรธ แล้ววันนั้นก็ดื่มไปนิดหน่อยด้วย จึงอารมณ์ร้อนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาจะทำร้าย อยากจะขอโทษนายอำพลและครอบครัว พร้อมจะดูแลค่ารักษาและพูดคุยไกล่เกลี่ย