ลุงพิการสุดช้ำ ไว้ใจหนุ่มเพื่อนบ้าน สุดท้ายฉกเอทีเอ็ม กดเงินเพิ่งขายที่ดินได้หนีหาย พบไปซื้อมอเตอร์ไซค์ และทองใส่ ลั่นดำเนินคดีถึงที่สุด
วันที่ 20 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกเพื่อนบ้านที่ไว้ใจ ขโมยบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินสด 200,000 บาท แล้วหนีลอยนวล อยากจะให้โลกโชเซียล ช่วยติดตามหาตัวอีกทางหนึ่ง
ตรวจสอบพบนายเกษม บุญศรี อายุ 63 ปี ชาวต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พิการอัมพฤกษ์ซีกขวา เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดว่า ตนพิการอัมพฤกษ์มาได้ 16 ปี ครอบครัวอยู่ด้วยกัน 3 คน คือภรรยาและลูกสาว ซึ่งทำงานเป็นครูอัตราจ้าง ส่วนภรรยามีอาชีพขายผักตลาดสด เท่ากับวันปกติจะอยู่บ้านคนเดียว
แต่ตนพิการใช้ชีวิตลำบาก เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา นายไชยัน หรือฟาง อายุ 30 ปี คนในหมู่บ้านมาคุยเล่นด้วยเป็นประจำ จากนั้นวานให้นายฟางไปส่งที่ตลาด หาซื้อกับข้าวมากินด้วยกัน เวลาตนจะไปกดเงินเบี้ยคนพิการจะให้นายฟาง ลงไปกดเงินให้ เพราะตนเดินลำบาก นายฟางจะรู้ทุกอย่างภายในบ้าน แม้กระทั่งรหัสบัตรเอทีเอ็ม เพราะเคยให้ไปกดเงินเป็นประจำ ถือว่าเป็นคนที่ไว้ใจมากที่สุดนอกจากภรรยากับลูกสาว
ต่อมาตนประกาศขายที่ดิน 13 ไร่ มีคนสนใจไปดูที่นา ตนก็ให้นางฟางพาไป จนกระทั่งตกลงซื้อขายกันในราคา 1,600,000 บาท นายฟางรู้ทุกขั้นตอนของการเจรจาการซื้อขาย โดยคนซื้อที่ดินนัดจะโอนเงินมัดจำตามที่ตกลงกันคือ 700,000 บาท ให้ในวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา นายฟางก็รู้เช่นกัน
ส่วนนายฟางเข้าออกบ้านของตนตามปกติเหมือนที่เคยทำมาก่อน ตอนเย็นวันที่ 12 พ.ย. หลังจากลูกสาวกลับจากทำงานเวลาประมาณ 15.00 น. จึงให้ลูกสาวพาไปเช็กเงินที่ตู้เอทีเอ็ม แต่หาบัตรตู้เอทีเอ็มไม่เจอ จึงรีบไปขอดูยอดเงินที่ธนาคารสาขาลำปลายมาศ ว่าคนซื้อที่โอนค่ามัดจำ 700,000 บาทมาจริงหรือไม่ ได้รับคำตอบจากพนักงานธนาคารว่า เงินเข้าแล้ว 700,000 บาท แต่มีการถอนจากตู้เอทีเอ็มไปแล้ว 200,000 บาท ก่อนที่ตนจะมาถึงไม่นาน จึงรู้ทันทีว่า บัตรเอทีเอ็มที่หายไป คนขโมยคือนายฟาง จึงไปแจ้งความให้ตำรวจอายัดบัญชีไว้ก่อน
จากนั้นได้ติดต่อกับนายฟาง ซึ่งนายฟาง รับยอมรับว่าได้กดเงินไปจริง เพราะเอาเงินไปใช้หนี้อีกทางหนึ่ง จึงขู่ว่าจะแจ้งความดำเนินคดี นายฟางจึงโอนเงินกลับคืนมาให้ในบัญชีลูกสาวจำนวนเงิน 50,000 บาท และสัญญาว่าจะโอนกลับมาอีก
สุดท้ายนายฟางบล็อกเบอร์โทรศัพท์และบล็อกเฟชบุ๊กไปหมด ไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงเข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ลำปลายมาศ อีกครั้ง แต่มีชาวบ้านเห็นนายฟาง ขี่รถจักรยานยนต์คันใหม่ พร้อมใส่สร้องคอทองคำ ลูกสาวจึงไปสืบ พบว่านายฟางซื้อรถจักรยานยนต์ ในอ.ลำปลายมาศ เป็นเงิน 70,000 บาท ซื้อสร้องคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทอีก 1 เส้น ส่วนนายฟางจนถึงตอนนี้ ไม่มีใครติดต่อได้ คาดว่าน่าจะขี่รถจักรยานยนต์ไปหาแฟนที่ เชียงราย ยอมรับว่าเสียใจ เพราะเงินที่ตนจะได้มา เป็นเงินขายที่ดิน หวังเอามารักษาตัวเอง จึงอยากจะฝากถึงนายฟาง ว่าถ้าคิดได้ให้กลับมาพูดคุยกัน เรื่องทั้งหมดมีทางออก แต่ถ้ายังไม่กลับมายืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด