วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คดีฆาตกรรมป้าบัวผัน ที่อรัญประเทศ โดย ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเยาวชน โดยสมาชิกบางราย มีพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคดีดังกล่าวกลับกลายเป็นประเด็นดราม่าหลายเรื่อง ตั้งแต่ผู้ก่อเหตุที่เป็นเยาวชน มีพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึง ลุงเปี๊ยก ผู้ถูกกล่าวหาว่าใเป็น สามีป้าบัวผัน ที่จู่ๆกับออกมารับสารภาพว่าเป็นคนฆ่า ก่อนที่จะออกมาบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ถุงดำคลุมหัว ในห้องสอบสวน จนตำรวจที่โรงพักดังกล่าวถูกย้ายเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เปิดเผยว่า ความคืบหน้าคดีลุงเปี๊ยก คดีนี้มี 2 ประเด็นต้องพิจารณา คือ
ประเด็นที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการแจ้งควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.ซ้อมทรมาน และมีการแจ้งการจับกุม โดยถ่ายภาพและวิดีโอหรือไม่
ประเด็นที่ 2 การกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัวลุงเปี๊ยกมาสอบสวนโดยการสวมถุงดำและเปิดแอร์ให้หนาว เข้าข่าย พ.ร.บ.ซ้อมทรมานหรือไม่
ซึ่ง ญาติลุงเปี๊ยก ได้มีการร้องทุกข์ไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จึงถือเป็นคดีพิเศษทันที จากนั้น DSI มีหนังสือแจ้งให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวนทราบ เพื่อเข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนตามมาตรา 31 โดยอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ได้เสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณา
- ทนายเดชา ปล่อยคลิปเสียง ปม ครอบครองปรปักษ์ ซัดแรงถึง จรรยาบรรณ
- แท็กซี่รังสิตกร่าง ขู่เอาชีวิตผู้โดยสาร หลังเลือกไม่ขึ้นรถที่จอดรอบริเวณนั้น
- จับหญิงไทย แก๊งฆาตกรรมชาวไต้หวัน ทิ้งศพหมกร้านค้าร้าง ย่านสุวรรณภูมิ
โดย อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วมอบให้ DSI ซึ่งรับสอบสวนคดีดังกล่าว เป็นคดีพิเศษตามกฎหมายแล้ว โดยได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานอัยการไปตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 จึงมีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะทำงานกำกับหรือตรวจสอบการสอบสวน เมื่อวันที่ (20 ก.พ. 67) ให้ตนเป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีพนักงานอัยการในคณะ รวม 9 คน จึงถือว่าคดีดังกล่าวเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ซ้อมทรมานแล้ว ซึ่งคณะทำงานนัดดีเอสไอประชุมเรื่องนี้วันที่ (1 มี.ค. 67) เวลา 13.30 น. หากการพิจารณาเห็นว่าต้องดำเนินคดี ก็จะต้องทำความเห็นส่งให้อัยการสำนักงานปราบปรามทุจริต ภาค 2 เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ การกำกับหรือตรวจสอบการสอบสวนไม่ใช่การร่วมสอบสวน หากแต่การกำกับหรือตรวจสอบการสอบสวนนั้นเสมือนเข้าเป็นผู้ควบคุมคดีและกำกับตรวจสอบตั้งแต่เริ่มคดีจนสรุปสำนวนการสอบสวนและพนักงานสอบสวนมีความเห็นทางคดี โดย ตอนนี้ ลุงเปี๊ยกรักษาอาการติดเหล้าดีขึ้นแล้ว แพทย์พิจารณาแล้วเห็นว่า ลุงเปี๊ยกสามารถให้ข้อมูลได้ และดีเอสไอก็เข้าไปสอบปากคำแล้ว คิดว่าคดีนี้น่าจะไม่ช้า เพราะดีเอสไอสอบสวนไปพอสมควรแล้ว