โหนกระแสวันนี้ พูดคุยกับ ลิลลี่ เหงียน และ ทนายกุ้ง ที่มาร่วมรายการอีกครั้ง หลังคู่กรณีคือ ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช ทนายความของคู่กรณี ไปแจ้งความเอาผิด ลิลลี่ ฐานหมิ่นประมาท จากการโต้คารมในรายการ
โดย ลิลลี่ ยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาจะมุ่งร้าย คิดร้ายอะไรกับ ทนายกิ่ง แต่ในรายการในวันนั้น เราเถียงกันเรื่องที่ลิลลี่โทรไปบอกปู มัณฑนา ว่าจะไปออกรายการ แล้วปู ขอร้องตนว่าอย่าออกได้ไหม จะรีบหาเงินคืนให้ 1.7 แสนบาท ตอนแรกตนบอกว่ารับปากลูกหมีไว้แล้ว ผิดคำพูดไม่ได้ แต่คิดไปคิดมา ถ้าได้เงินคืนบ้างก็ยังดี จึงโทรไปบอกว่า ถ้าได้เงินมาจะยอมไม่ออกรายการ แต่ปรากฏว่าเขาไม่โอน เราก็เลยไปออกรายการ
- ประวัติ ลิลลี่ เหงียน คู่กรณี ปู มัณฑนา คนสวยสู้ชีวิตจาก สปป.ลาว ที่เคยเป็นข่าวดังมาแล้ว
- เปิดวาร์ปเซ็กซี่ “ลิลลี่ เหงียน” ในไอจีแซ่บ เจ้าของวลี “อย่าว่าแต่บทนางร้าย เป็นกะxxก็ได้ค่ะ”
แต่ทางทนายกิ่งกลับพูดว่า ปูจะคืนเงินแล้ว แต่ลิลลี่ปฏิเสธ ยืนกรานจะมาออกรายการ ซึ่งมันไม่ตรงกับความจริง ทำให้ลิลลี่พูดว่า อย่าว่า “โกหก ตอแxล”
ลิลลี่บอกว่ายอมรับว่าตัวเองทำผิด ทั้งพลาดไป ตนไม่ได้มีการศึกษาที่ดี เรียนก็น้อย เขียนหนังสือก็ไม่เป็น แต่สิ่งที่ตนมีคือจิตใจที่ดี ตนยืนยันว่าทุกสิ่งที่พูด ที่คิด ที่ทำ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง จึงต้องการให้ฝ่ายทนายกิ่งยอมรับเหมือนกัน ว่าสิ่งที่เขาพูดมันก็ไม่ตรงกับความจริง
ขณะที่ทนายกิ่งบอกว่า ได้ไปแจ้งความลิลลี่แล้ว เพราะหลังจากที่เขาพูดคำไม่ดี ด่าตนในรายการแล้ว เขายังไปโพสต์ด่าตนในโซเชียล มันเป็นเรื่องที่ตนต้องรักษาสิทธิ์ ด้วยการไปแจ้งความดำเนินคดี ฐานหมิ่นประมาทไว้ที่ สน.วังทองหลาง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และสิ่งที่ทนายกิ่งฝากถึงทนายกุ้ง ก็คือทนายกุ้งเป็นทนายความ เป็นคนที่อายุเยอะกว่า วุฒิภาวะเยอะกว่า น่าจะต้องตักเตือน หรือแนะนำ ลิลลี่ ว่าอะไรควรพูด หรือไม่ควรพูด แต่การที่มาพูดในรายการวันนี้ มันยิ่งตอกย้ำว่าเขามีเจตนาจะดูหมิ่นเราจริงๆ
ลิลลี่ยังพยายามจะขอโทษทนายกิ่งในรายการ บอกว่ายอมรับในสิ่งที่ตนทำผิดพลาดไป ตนไม่ได้มีเจตนา หรือมุ่งร้าย คิดร้ายกับทนายกิ่งเลย แต่สิ่งที่ตนตั้งใจจะพูด มันเป็นความตั้งใจจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น สิ่งที่คุณกิ่งพูดหรือสอนเราเป็นสิ่งที่ดี และจะเอาไปปรับปรุง อยากจะขอโทษ อยากรู้ว่าทนายกิ่งจะยกโทษให้ไหม
แต่หลังจากความพยายามในการขอโทษ ทางทนายกิ่งก็ยังแย้งข้อเท็จจริง และบอกว่า เรื่องที่เป็นต้นเหตุ ที่ทำให้เถียงกันในรายการในวันนั้น เป็น “ข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงกัน” ขอให้ลิลลี่ยอมรับตรงนี้ให้ได้ก่อน ทำให้ลิลลี่ ถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมากลางรายการ โดยบางช่วงบางตอน ลิลลี่พูดว่า
“ลี่ยอมรับว่าลี่ก็สถุนเอง สิ่งที่พี่กิ่งสอนหนูวันนี้ เป็นเรื่องที่ดีมาก หนูต้องเอาไปปรับปรุงแก้ไขแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่อย่างนั้นหนูก็ไม่เจริญ หนูเป็นคนที่ด้อยการศึกษา เรียนไม่จบ ป.4 เขียนหนังสือไม่เป็น มันมีดีอย่างเดียวคือมันมีผัวรวย แต่มันมีดีที่สุดคือ หัวใจมันบริสุทธิ์ พี่สาวที่รัก หนูรู้ว่าพี่โกรธหนูมาก พี่กิ่ง หนูพูดตามตรงเลยนะพี่ หนูไม่ได้คิดร้ายอะไรกับพี่เลยจริงๆ หนูพูดผิดหนูขอโทษ หนูยอมรับ แต่พี่กิ่งยอมรับกับหนูได้ไหม วันนั้นลี่อธิบายให้พี่ฟัง แล้วพี่ก็เข้าใจแล้ว แต่พอลงไปข้างล่าง พี่พูดกับนักข่าวเหมือนเดิมอีก แล้วที่เราคุยกันตรงนี้ คุณหมิ่นประมาทความถูกต้องลี่หรือเปล่าคะที่รัก
ลี่ขอคำเดียว คุณกิ่ง ถ้าคุณตอแxลแบบนี้ นี่มึงตอแxลอีกแล้วนะเนี่ย มา กูยอมโดนก็ได้อ่ะ
ไม่เป็นไรค่ะ ประเทศไทยจะไม่รักลี่ก็ไม่เป็นไร แต่คนแบบนี้มันไม่ได้..จำได้ไหม พี่กิ่งไล่ต้อนหนู โทรเบอร์ไหน เวลาไหน พี่มีสิทธิ์อะไรมาต้อนหนูแบบนั้น แล้วพี่คิดว่าสันดxนแบบนั้นมันดีหรือไม่ดี ไม่เป็นไร หนูไม่เป็นดาราก็ได้ คุณดูถูกประชาชน ทำให้ประชาชนเสียหาย”
ในรายการ ผู้ร่วมรายการทุกคนต้องช่วยกันปลอบให้ลิลลี่ใจเย็นลง และค่อยๆ คิด อย่าไปแสดงอารมณ์แบบนั้นเพราะจะยิ่งโทษแจ้งความเพิ่ม ลิลลี่ค่อยๆ ทำใจให้เย็นลง แล้วพยายามขอโทษทนายกิ่งอีกครั้ง ซึ่งทนายกิ่งบอกว่า อภัยให้ในสิ่งที่ผิดพลาดไป แต่เรื่องของคดีก็ต้องรอดูก่อน ไม่ใช่ว่าขอโทษแล้วจบ ขอโทษแล้วต้องดูก่อนว่าจะไม่ทำอีก ตรงนี้ก็ต้องว่ากันไป
สุดท้ายลิลลี่ หลั่งน้ำตาในรายการ บอกว่ายอมรับว่าวันนี้ตนได้แสดงอารมณ์ แสดงพฤติกรรมที่ดูไม่น่ารักออกไป ตนยอมรับ ถ้าจะมีคนไม่รัก ไม่อยากให้โอกาสตนอีกแล้ว ตนก็พร้อมจะยอมรับการตัดสินใจเหล่านั้น แต่ขอร้องว่าอย่าโกรธอย่าเกลียดกันเลย
ขณะที่ พชร์ อานนท์ ผู้กำกับมือทองที่จองตัวลิลลี่ไปเล่นหนังเรื่องใหม่แล้ว ได้มานั่งในรายการ ได้ให้ข้อคิดที่น่าสนใจด้วยว่า การที่ลิลลี่ทำ ไม่ได้แปลว่าลิลลี่เป็นคนไม่ดี ลิลลี่เป็นคนที่ดี มีความคิดที่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่า การที่เรายึดมั่นในสิ่งที่ถูก แล้วเราจะพูดอะไรก็ได้ บางสิ่งมันพูดออกมาไม่ได้ มันผิดกฎหมาย นี่คือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ เมืองไทย วัฒนธรรมไทย กฎหมายไทย บางครั้งการพูดทุกอย่างในที่สาธารณะ มันก็ไม่เป็นผลดี อยากให้ลิลลี่ค่อยๆ เรียนรู้ไป