ดราม่า สื่อรัฐบาลลาวฉุน หลังนักข่าวไทยบางคน เสนอข่าวบิดเบือน เรื่องรถไฟสายลาว-จีน แถมพูดเหยียด ดูถูกคนลาวไม่มีเงินซื้อตั๋วรถไฟ
เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม สำหรับรถไฟลาว-จีน แต่ไม่ทันไรก็เกิดดราม่าขึ้น เมื่อทางสื่อรัฐบาลลาวฉุนขาด หลังเห็นสื่อไทยบางสำนักเสนอข่าวบิดเบือนและพูดจาเชิงดูถูกคนลาว
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาวเกือบ 13 นาที ในหัวข้อ “สายตาอคติของนักข่าวไทยบางคนต่อรถไฟลาว-จีน” เนื้อหาว่าด้วยการวิพากษ์วิจารณ์สื่อไทยบางสำนักที่เสนอข่าวบิดเบือน
คลิปมีเนื้อความคร่าวๆ ว่า โครงการทางรถไฟลาว-จีนได้รับความสนใจจากสื่อในประเทศไทยมากมาย แต่มีบางสำนักที่ขาดจรรณยาบรรณ ความรู้ ความสามารถ และเป็นสื่อที่ปากไม่ดี เสนอข่าวรถไฟลาว-จีนในด้านลบ และเป็นการบิดเบือนความจริง
มีนักข่าวท่านหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ซึ่งเป็นของรัฐบาลไทยได้เสนอข่าวว่า คนลาวไม่มีปัญญาได้ขี่ เพราะมีเงินเดือนน้อยแต่ราคาตั๋วแพง รถไฟขาดทุนเพราะมีผู้โดยสารน้อยและรัฐบาลลาวจะไม่สามารถใช้หนี้ที่กู้ยืมมาจากจีนได้
ในคลิปได้วิจารณ์ว่า นี่ถือเป็นการนำเสนอข่าวที่แสดงให้เห็นถึงความ โง่ อวดฉลาด เป็นการสร้างกระแสเพื่อให้คนมาชมรายการของตนเองด้วยวิธีสกปรก ซึ่งไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์ทางการเมืองเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะสถานีโทรทัศน์ที่นักข่าวไทยคนนี้ทำงานเป็นของรัฐ แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด การนำเสนอข่าวเช่นนี้เป็นการนำเสนอที่ผิดพลาด ขาดการวิเคราะห์ข้อมูลและขาดจรรยาบรรณของสื่อมวลชนอย่างหนัก
โดยแย้งว่าทางรถไฟลาว-จีนถือเป็นโครงการยุทธศาสตร์ เพื่อเปลี่ยนจากประเทศจากที่ไม่มีทางออกทะเล ไปสู่การเป็นประเทศเชื่อมโยงกับภูมิภาค และสอดรับกับข้อริเริ่ม 1 แถบ 1 เส้นทางของจีน หากรัฐบาลลาวไม่คิดมาอย่างละเอียด รอบคอบ คงไม่กล้าตัดสินใจลงทุนร่วมกับรัฐบาลจีน สร้างทางรถไฟสายนี้ขึ้น
การสร้างทางรถไฟลาว-จีนไม่เพียงอำนวยความสะดวกต่อการเดินทางของประชาชน แต่ยังรวมถึงการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว และอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแบบยั่งยืน ไม่เฉพาะสำหรับลาวและจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศรอบข้างที่จะได้ผลประโยชน์จากโครงการนี้ โดยเฉพาะประเทศไทย
จากนั้นได้แนบคลิปคำสัมภาษณ์ของ “พันคำ วิพาวัน” นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กับสถานีวิทยุสากลแห่งประเทศจีน (CRI) ประจำลาวว่า ช่วงที่ผ่านมามีสื่อมวลชนบางประเทศ พยายามบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับทางรถไฟลาว-จีน ซึ่งถือเป็นการไม่หวังดีต่อประชาชนลาวและรัฐบาลลาว
ในคลิปได้ย้ำว่า การที่นักข่าวไทยคนนี้วิเคราะห์ว่า คนลาวจะไม่สามารถขึ้นรถไฟลาว-จีนได้เพราะตั๋วแพงนั้น ถือเป็นการวิเคราะห์ที่ผิดพลาดที่สุด เพราะเป็นการนั่งมโนภาพของตนเองอยู่ในห้องทำงานคนเดียว โดยไม่ได้ออกมาเปิดหูเปิดตาดูโลกภายนอก จากรายงานของหัวหน้าสถานีรถไฟลาวจีนนครหลวงเวียงจันทน์พบว่า เพียง 5 วันหลังจากเปิดใช้ทางรถไฟ มีผู้ซื้อตั๋วรถไฟแล้วถึง 5,500 กว่าคน และมีผู้โดยสารซื้อตั๋วอย่างหนาแน่นในทุกวัน
การนำเสนอข่าวที่บิดเบือน ทำให้ชาวลาวและชาวไทยจำนวนหนึ่งมองว่า นักข่าวคนนี้ไร้จรรยาบรรณ มีความคิดคับแคบและเป็นการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของประเทศอื่น ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการนำเสนอข่าวเช่นนี้ในสื่อไทยบางสำนัก เมื่อถูกชาวลาวทักท้วงก็พากันไปเข้าไปขอโทษสถานทูตลาวประจำประเทศไทย หรือ ขอโทษผ่านรายการของตนเอง
แม้จะมีการขอโทษมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สื่อไทยบางสำนักยังคงเสนอข่าวเกี่ยวกับประเทศลาวในลักษณะเดิมคือ วิพากษ์วิจารณ์และดูหมิ่นหรือบางทีปัญหานี้จะเป็นการเสี้ยมสอนกันจากรุ่นต่อรุ่นของสื่อไทยบางสำนัก ซึ่งเรื่องนี้ชาวไทยจำนวนไม่น้อยต่างรู้ดีและพากันเสียใจต่อการกระทำอัน “อัปรีย์” และ “จัญไร” ของสื่อเพียงหยิบมือเดียว
ดังนั้นจากการนำเสนอข่าวทางรถไฟลาว-จีนที่ผิดพลาดของนักข่าวคนหนึ่งซึ่งเป็นสถานีของรัฐในครั้งนี้ ขอให้เป็นบทเรียนสำคัญที่สุดสำหรับสื่อมวลชนไทยที่ยังมีแนวคิดอคติ มักวิพากษ์วิจารณ์ หรือบิดเบือนข่าวของประเทศอื่น
พร้อมปิดท้ายคลิปว่า การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับประเทศอื่นต้องเกิดขึ้นจากการใช้สมองส่วนที่ฉลาดที่สุด มีความละเอียดรอบคอบและมีจรรยาบรรณ ถ้าคิดว่าประเทศที่ตนเองอาศัยอยู่นั้นพัฒนาแล้ว ตนเองก็ต้องพัฒนาไปด้วย เพราะว่าการนำเสนอข่าวแบบยกตนข่มท่าน ใส่ร้ายป้ายสีประเทศอื่น เป็นแนวคิดของคนโง่ ล้าหลัง ที่ไม่ได้เคยได้รับการพัฒนา และหากยังคงกระทำแบบนี้ต่อไป นับวันก็จะไร้ญาติขาดมิตร
แม้ว่าในคลิปจะไม่ระบุชัดว่านักข่าวที่กล่าวถึงคือใคร แต่มีการใช้ภาพจากรายการ “ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้” ที่จัดโดยนายถนอม อ่อนเกตุพล ทางสถานีโทรทัศน์ NBT เป็นภาพประกอบ
ต่อมาในวันที่ 20 ธันวาคม นายถนอม อ่อนเกตุพล ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวขอโทษชาวลาว ถึงการนำเสนอข่าวให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนกรณีเรื่องของรถไฟลาว-จีน โดยกล่าวว่า ไม่ว่าคนลาวจะออกมาให้ข้อมูล ท้วงติง หรือ ต่อว่า ตนก็ยินดีรับฟังและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
พร้อมกับช่วยแก้ข่าวให้ว่า ตั้งแต่รถไฟลาว-จีน เปิดให้บริการ ทั้งคนจีน คนลาว ต่างพากันจองคิวเข้าใช้บริการอย่างล้นหลาม เศรษฐกิจก็ค่อนข้างจะคึกคัก ต่างชาติเข้าไปลงทุนเยอะ ถือเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ วิถีชีวิต ที่น่าสนใจและน่าไปท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก