ลบออกไปเลย! 'ผบ.ทบ.' ลั่นไม่มี 'ปฏิวัติ' ไม่หวั่น ก้าวไกล เป็นรัฐบาล

Home » ลบออกไปเลย! 'ผบ.ทบ.' ลั่นไม่มี 'ปฏิวัติ' ไม่หวั่น ก้าวไกล เป็นรัฐบาล


ลบออกไปเลย! 'ผบ.ทบ.' ลั่นไม่มี 'ปฏิวัติ' ไม่หวั่น ก้าวไกล เป็นรัฐบาล

ลบออกไปเลย! ‘ผบ.ทบ.’ ลั่นไม่มี ‘ปฏิวัติ’ ไม่หวั่น ก้าวไกล เป็นรัฐบาล ดึงสติประชาชน บ้านเมืองต้องการความสงบ หากวุ่นวายจะเดือดร้อน

วันที่ 11 พ.ค.2566 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตแก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์เชิญชวนให้กำลังพลไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันที่ 14 พ.ค. 66 นี้ เพราะเป็นหน้าที่ ในการสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กองทัพบกโดยผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ได้เน้นย้ำมาตลอด นอกจากนี้ยังใช้สื่อของกองทัพบกในทุกช่องทาง เพื่อสื่อสารกับกำลังพลและครอบครัวให้ออกไปใช้สิทธิ เพราะหน้าที่ของพลเมืองที่ดีคือการไปเลือกตั้ง ไปใช้สิทธิของตัวเองให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าอยากเตือนกำลังพลถึงแนวทางปฏิบัติการไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เรื่องแนวทางการปฏิบัติแล้ว ก็ให้ระมัดระวังอย่าทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะในด้านใด ซึ่งในวัน 12 พ.ค.66 ถือเป็นวันราชการวันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง จะเน้นย้ำกันอีกครั้ง โดยเฉพาะข้อกฎหมายเช่นกัน เช่นการสวมเสื้อมีชื่อพรรคการเมือง เข้าไปในพื้นที่หน่วยเลือกตั้ง รวมถึงหลังเวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค.66 งดการหาเสียง

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ทหารตกเป็นเป้าในการยกเลิกเกณฑ์ทหาร และมองว่าทหารไม่จำเป็น มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ใครจะเข้ามา เขาก็มีสิทธิที่จะทำตามนโยบายของเขา ในส่วนของเราที่เป็นทหาร ก็มีสิทธิทำข้อมูลชี้แจง ถึงความจำเป็นในการมีทหาร หรือจำเป็นในการเกณฑ์ทหาร

“นั่นเป็นเรื่องที่นายทหารจะต้องพูดคุยกัน ซึ่งมีทั้งเรื่องที่คนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย คือเป็นเรื่องปกติและเป็นสิทธิที่ทุกคน จะมีแนวคิดหรือมุมมองด้านใดก็ได้”ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว

เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงสถานการณ์หลังเลือกตั้ง เพราะมองว่าจะมีความวุ่นวายจะเดือดร้อนทหารอีกหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ผมไม่ห่วง เพราะเชื่อว่าเรามีบทเรียนมามากแล้วในอดีต เพราะฉะนั้นทุกคนมาถึงจุดนี้ การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องเดินไป แต่ทุกคนก็ต้องมีสติ ว่าอะไรควร ไม่ควร

สำหรับบ้านเมืองเราซึ่งต้องการความสงบเรียบร้อย บ้านเมืองจะได้เจริญ เศรษฐกิจจะได้ดี แต่ถ้าเราคิดจะขัดแย้ง ก่อความวุ่นวาย บ้านเมืองและคนส่วนใหญ่ จะได้รับความเดือดร้อน จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกันไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่จะต้องกังวล แต่ทุกคนควรมีสติ”

เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงและการคงไว้ของเดิมอันไหนดีกว่ากัน พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เรื่องคงเดิมหรือเปลี่ยนใหม่ เป็นเรื่องของวันเวลา ที่เปลี่ยนใหม่ แต่การเปลี่ยนแปลง ต้องดูว่าเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ดี ซึ่งมี 2 ทาง เพราะฉะนั้นทุกคน ถ้ามีสติ และมีข้อมูลอย่างรอบด้าน จะพิจารณาได้ว่า ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว ตามกาลเวลาและสถานการณ์โลกใบนี้ เช่นเดียวกับชีวิตพวกเราก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ดังนั้นความเปลี่ยนแปลงมีอยู่แล้ว เพียงแต่ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อย่าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี

เมื่อถามว่า อีก 5 เดือนที่เหลือในตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันได้หรือไม่ว่าสถานการณ์จะเรียบร้อยไม่มีทหารออกไปทำอะไรให้ประชาชนหวาดวิตก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า
“ผมยืนยันไม่ได้ นั้นหมายถึงว่า ในส่วนของบ้านเมืองจะเรียบร้อยหรือไม่ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน แต่ในสิ่งที่ผมยืนยันได้ในเรื่องของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ผมบอกแล้วว่ามันติดลบ ติดศูนย์ ผมยืนยันเรื่องนั้นแน่นอน”

เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีการปฏิวัติหลังการเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า คำพวกนี้ตนบอกนักข่าวไปหลายครั้งแล้ว ว่าไม่ควรพูดไม่ควรถาม และไม่ควรเขียน เพราะจะเป็นการปลุกความคิดที่ขัดแย้งต่อเนื่อง ซึ่งมันควรจะไม่มีแล้ว เพราะคำพวกนี้ มันควรไม่มีแล้ว คำพวกนี้ที่คิดว่าไม่ดีไม่เหมาะสม กลับประเทศ ตนจึงขอร้อง ผู้สื่อข่าวควรลบออกไปจากพจนานุกรมของผู้สื่อข่าว

เมื่อถามย้ำว่า ต้องลบออกจากพจนานุกรมของกองทัพด้วยหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ “พยักหน้า พร้อมกล่าวว่า สำหรับผมนะลบแน่นอน”

เมื่อถามว่า ไม่ควรจะมี แต่ใช่ว่าจะไม่มีใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ก็ยังคงถามอยู่อีก ก็คือสิ่งที่เราสื่อสารกัน ผมก็เข้าใจนักข่าว ที่ต้องถามเรื่องพวกนี้ผมจึงบอกว่า ให้เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ไม่ควรมีคำพวกนี้”

เมื่อถามว่ามีคนไปปลุกกระแส หากมีคนไปเลือกพรรคโน้นแล้วทหารจะออกมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้”

เมื่อถามว่าหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลทางกองทัพจำทำอย่างไร พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของสถานการณ์ในอนาคต ไม่มีใครตอบได้ จนกว่าจะถึงวันที่ 14 พ.ค.66 หรืออะไรก็ว่ากันไป ซึ่งถือเป็นเรื่องของนักการเมือง ที่จะไป จับขั้วกันเองว่าจะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร ทหารเป็นเพียงข้าราชการประจำ ไม่ใช่ข้าราชการการเมือง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ