“ร.อ.ธรรมนัส” รอเพื่อไทยติดต่อกลับ ยืนยันร่วมรัฐบาลได้ เชื่อได้นายกฯ ก่อน 15 ส.ค.นี้ – ปัดรับตำแหน่งเลขาฯ เปิดดีลร่วมรัฐบาล พร้อมย้ำไปฮ่องกงคุยธุรกิจ ไม่มีคุย “ทักษิณ”
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่มักมีรายงานข่าวพรรคพลังประชารัฐเข้าไปร่วมรัฐบาลด้วยว่า หลังการไปหารือแนวทางแก้วิกฤตและหาทางออกให้ประเทศ ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีการพูดคุยใด ๆ กันอีก และรอติดตามความชัดเจนว่า ก่อนการประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ พรรคเพื่อไทยจะมีการติดต่อใด ๆ มาหรือไม่ พร้อมย้ำจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐว่า พร้อมทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชนให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด
ร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวถึงแนวทางการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ว่า สส. ของพรรคพลังประชารัฐ จะลงมติตามมติของพรรคพลังประชารัฐ โดยจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนจะมีปัจจัยใดที่จะทำให้การนำจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยล่าช้าออกไปอีกหรือไม่นั้น ร้อยเอกธรรมนัส เชื่อว่า หลังพ้นห้วงวันหยุดยาวจนถึงกลางสัปดาห์นี้ จะมีความชัดเจน และเสร็จสิ้นการเลือกนายกรัฐมนตรี ก่อนวันที่ 15 สิงหาคมนี้ แต่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีนั้น เชื่อว่า ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งที่จะต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และยืนยันด้วยว่า การขึ้นมาทำหน้าที่เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐของตนเองนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมสัมพันธ์ไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เพราะการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐนั้น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ได้พิจารณามาตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งแล้ว เพื่อให้พรรคกลับมาเติบโตเหมือนเดิม โดยเป็นคนละเรื่องกับการจัดตั้งรัฐบาล
ร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่พลเอกประวิตร จะมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ว่า พรรคพลังประชารัฐ จะต้องให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยในการนำจัดตั้งรัฐบาลก่อน โดยพรรคพลังประชารัฐ จะไม่เสนอชื่อแข่ง ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ หรือไม่ได้ก็จะถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่พรรคพลังประชารัฐ ก็ยังมี สส.เพียง 40 เสียงเท่านั้น พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐ มี สส.งูเห่าจากพรรคก้าวไกลมาถึง 30 เสียง
ส่วนโอกาสการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า จะต้องรอให้รัฐสภาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นก่อน และขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่า จะเชิญพรรคพลังประชารัฐ ไปร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ และเชื่อว่า การทำงานร่วมกันจะไม่มีปัญหา เนื่องจาก สส.พรรคพลังประชารัฐส่วนหนึ่ง ก็เคยเป็น สส.พรรคเพื่อไทยมาก่อน แต่มีเงื่อนไขว่า พรรคพลังประชารัฐ จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีจุดยืนแตกต่างกับพรรคฯ ไม่เฉพาะกับพรรคก้าวไกลเท่านั้นด้วย
ร้อยเอกธรรมนัส ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงการรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ของพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. และน้องชายพลเอกประวิตร โดยระยุเพียงว่า ตนเองยังไม่ได้คุยกับพลตำรวจเอกพัชรวาท และเชื่อว่า มีคุณสมบัติที่พร้อมมาทำงานให้กับพรรคพลังประชารัฐได้ ยังไม่มั่นใจว่า พลตำรวจเอกพัชรวาท จะรับตำแหน่งดังกล่าว หรือมาทำงานทางการเมืองหรือไม่ พร้อมเชื่อว่า เรื่องที่พลตำรวจเอกพัชรวาท จะมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่าง ๆ นั้น เป็นเพียงข่าวลือ