ร้องเอาผิด เท้าแชร์แสบ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ผู้เสียหายเพียบ สูญร่วม20ล้าน เผยบุกไปทวงถามถึงที่บ้าน เจอสวนกลับ ให้ไปฟ้องแจ้งความเอาเอง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 เม.ย. 2566 ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภ.เมืองสุพรรณบุรี นายศิริชัย เฮงเรืองศิริ อายุ 46 ปี พร้อมกลุ่มผู้เสียหายรวม 23 คน เดินทางมาร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วณิดา พร้อมกับพวก ในความผิดตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ และความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหายรวม ประมาณ 19 ล้านบาท
นายศิริชัย ผู้เสียหาย 4.4 ล้านบาท กล่าวว่า พวกตนได้รับความเสียหายจากการเข้าร่วมเล่นแชร์กับกลุ่มแชร์ชื่อ บ้านน้องเหนือ โดยมี น.ส.วาณิดา เป็นเท้าแชร์และเป็นผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ มี นางพรรณี เป็นผู้เชิญชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมเล่นแชร์ ผ่านเฟซบุ๊ก โดยเสนอข้อมูลในลักษณะเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อคนทั่วไป โดย น.ส.วณิดาและนางพรรณีฯ ได้โพสต์ภาพการดำเนินกิจการรถเกี่ยวข้าว รถปั่นนา และธุรกิจค้าขายอุปกรณ์การเกษตร
ในลักษณะที่แสดงว่าฐานะทางการเงินของครอบครัวมีความมั่นคง และมักจะลงภาพครอบครัว โชว์ทรัพย์สิน ทอง รถยนต์หรู สินค้าราคาแพง และเงินสดเป็นธนบัตรครั้งละจำนวนมาก ทำให้บุคคลที่พบเห็นโดยทั่วไปเกิดความเชื่อมั่นว่า หากเล่นแชร์กับกลุ่มแชร์กับบ้านน้องเหนือแล้ว จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนสูง และเท้าแชร์มีความมั่นคงไม่มีการล้มวงแชร์ โดยมีนายสุรินทร์ ร่วมเปิดบัญชีรับเงินจากลูกแชร์ ซึ่งนางพรรณีและนายสุรินทร์ เป็นบิดาและมารดาของ น.ส.วาณิดา
โดยสมาชิกในกลุ่มไลน์มากกว่า 300 คน ซึ่งร่วมเล่นแชร์ผ่านไลน์กลุ่มแชร์บ้านน้องเหนือมากกว่า 40 วง มียอดเงินหมุนเวียนมากกว่า 20 ล้านบาท ตนกับพวกจึงร่วมเล่นแชร์บ้านน้องเหนือเรื่อยมาหลายปีแล้ว ต่อมาวันที่ 21 มี.ค. 2566 น.ส.วณิดาได้ลงข้อความประกาศทางไลน์ว่า กลุ่มแชร์บ้านน้องเหนือล้มทุกวง ทำให้ตนกับพวกได้รับความเสียหาย รวม19, 187,390 บาท พวกตนจึงไปที่บ้าน น.ส.วณิดา นางวรรณี กับตอบว่าไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ให้ไปฟ้องแจ้งความเอาเอง
นายศิริชัย กล่าวว่า ตนกับพวกจึงขอความกรุณาจาก พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้เร่งรัดดำเนินคดีกับ น.ส.วณิดา นางวรรณี และนายสุรินทร์ ตามความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และพรบ.การเล่นแชร์ และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ด้าน พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า ได้รับหนังสือจากตัวแทนผู้เสียหายเอาไว้ โดยหลังจากนี้จะตั้งคณะทำงานพนักงานสอบสวน ดำเนินการรับคำร้องทุกข์ ตามกฎหมายสอบปากคำพยานผู้เสียหายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทำหนังสืออายัดบัญชี และเอกสารจากธนาคารที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป