ร้องกองปราบ นายหน้าค้าลอตเตอรี่ โกงเงิน 86 ล้าน อ้างเว็บดังถูกปิด เผยครอบครัวเดียวโดนไป 44 ล้าน แฉคล้ายแชร์ลูกโซ่ ยื้อคืนเงิน ก่อนติดต่อไม่ได้

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 ส.ค.65 ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เจ้าของเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายกว่า 20 ราย เข้าแจ้งความ หลังถูก นายหน้าค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โกงเงินกว่า 86 ล้าน อ้างว่าบริษัทมังกรฟ้าถูกจับและถูกตรวจสอบ ทำให้โควตาลอตเตอรี่ถูกยกเลิก ทำให้เงินทั้งหมดถูกยึดไปด้วย

นายเอกภพ กล่าวว่า วันนี้พากลุ่มนักลงทุนที่มีการระดมทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล นำเงินไปให้นายหน้าคนหนึ่ง อ้างว่า ทำสัญญากับบริษัทมังกรฟ้า ซึ่งต่อมาบริษัทดังกล่าวถูกจับกุมไป ด้วยสาเหตุขายสลากเกินราคาที่กำหนด เงินที่ร่วมลงทุนจึงถูกอายัดไปและไม่สามารถคืนเงินได้ ซึ่งตนคิดว่าทางบริษัทมังกรฟ้าเอง ก็ไม่รับรู้เรื่องดังกล่าว จึงพาผู้เสียหายมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าเงินที่ร่วมลงทุนไปถูกอายัดตามที่กล่าวอ้าง หรือโยกย้ายไปที่คนกลุ่มใดหรือไม่

ซึ่งช่วงนี้มีการหลอกลวงให้ระดมทุนลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก และมีความคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ จึงขอฝากว่าให้ระมัดระวัง ไม่มีการลงทุนรูปแบบใดที่ให้ผลตอบแทนสูงเช่นนี้ และขอให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้พนักงานสอบสวนช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว

ขณะที่ นายอิทธิพล ไกรศักดิ์ศรี อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า คนที่เอาเงินไปลงทุนด้วย เป็นพี่สาวของเพื่อนสนิท ได้พูดคุยกันว่าหากนำเงินไปลงทุนซื้อลอตเตอรรี่ 1 แสนบาท จะได้เงินปันผล 8-9 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 10,000 บาท และอ้างว่า ได้ทำสัญญากับสำนักงานกองสลากฯ จึงทำให้ตนเกิดความเชื่อใจยอมลงทุน ซึ่งหลังจากลงทุนแล้วนายหน้าจะนำลอตเตอรี่ไปขายต่อเอง ช่วงแรกตนลงทุนไปหลักแสน แต่พอเห็นว่าได้เงินปันผลจริง เลยลงทุนต่อไปเรื่อยๆ 1 ปี

จากนั้นในช่างเดือน มกราคม 2565 เริ่มมีปัญหาไม่ได้ปันผลเหมือนเดิม นายหน้า อ้างว่า เกิดจากมังกรฟ้าถูกตรวจสอบให้รอเงินปันผลก่อน จนถึงวันที่มังกรฟ้าถูกปิด ก็อ้างอีกว่า เงินและลอตเตอรี่ถูกอายัดไว้ จะคืนเงินต้นทั้งหมดเดือนภายในเดือนกรกฎาคม 2565 แต่ก็ผลัดมาเรื่อยๆ ถึงตอนนี้ยังไม่ได้เงินคืน ตนกับครอบครัวลงทุนไป 44 ล้านบาท วันนี้อยากจะมาเรียกร้องขอเงินคืน รอมา 5 เดือน มันรอไม่ได้ ขณะนี้ก็ติดต่อนายหน้าที่เอาเงินไปลงทุนไม่ได้

ด้าน นายกมล ใจเพชร อายุ 49 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเป็นหนี้ 1 ล้านกว่าบาท เอารถเอาบ้านไปจำนอง รวมถึงกู้เงินนอกระบบเพื่อนำเงินมาลงทุน ภายใน 6 เดือน ได้เงินปันผลมา 2 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีคนรู้จักที่เป็นเป็นผู้พิการ นำเงินมาร่วมลงทุนด้วย หวังจะนำเงินปันผลมาจุนเจือครอบครัว เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อประกอบพิจารณาพยานหลักฐาน ก่อนดำเนินการต่อไป