รู้หรือไม่? เมนูมินต์ช็อกที่ดูส่วนผมสไม่น่าจะเข้ากันได้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร

Home » รู้หรือไม่? เมนูมินต์ช็อกที่ดูส่วนผมสไม่น่าจะเข้ากันได้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
รู้หรือไม่? เมนูมินต์ช็อกที่ดูส่วนผมสไม่น่าจะเข้ากันได้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร

เมนูมินต์ช็อกในอดีตนั้นเคยเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมเพียงเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น ถือเป็นเมนูที่บางคนชิมแล้วชอบก็จะรักไปเลย หรือหากไม่ชอบก็อาจจะเกลียดไปเลย เพราะรสชาติที่ค่อนข้างรุนแรงของมินต์ ที่ทำให้หลายๆ คนรู้สึกเหมือนกับว่ากินยาสีฟันรสมินต์อยู่อะไรประมาณนั้น จึงทำให้เมนูนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมติดตลาดเท่าที่ควร ไม่ใช่เมนูที่เราจะสามารถหาสั่งทานได้ทุกร้านในเวลาที่ไปคาเฟ่

แต่ในช่วงพ.ศ. นี้ ชื่อของเมนูมินต์ช็อกได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เพราะเมนูนี้ได้กลายเป็นเมนูไฮไลท์ชูโรงของร้าน ThinkLab creative space and cafe คาเฟ่ในพรรคเพื่อไทย และยังเป็นเมนูโปรดของคุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งลูกสาวของคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

นอกจากนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมนูมินต์ช็อกยังถูกใช้เป็นเครื่องดื่มสำหรับต้อนรับ การหารือจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจใจ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรครวมไทยสร้างชาติ อีกด้วย นี่จึงถือเป็นเมนูเครื่องดื่มที่อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยในปี พ.ศ. นี้เคียงคู่กับเมนูกาแฟส้มของพรรคอนาคตใหม่ที่มีความอิมแพ็คต่อสังคมคล้ายๆ กัน

6

สำหรับใครที่อยากจะรู้ว่าเมนูมินต์ช็อก ที่ได้ยินและเห็นตนแรกแล้วดูจะเข้ากันไม่ได้นี้ มีที่มา ที่ไปอย่างไร ใครเป็นคนคิดค้นสูตรนี้ขึ้นมา ลองไปหาคำตอบพร้อมๆ กันครับ

ที่มาของมินต์ช็อกนั้นคือรสชาติที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมา โดยแรกเริ่มเป็นรสชาติของไอศกรีม คาดว่าถูกคิดค้นขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ.1973 ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งในปีนั้นมีการจัดงานแต่งงานสำคัญของเจ้าหญิงแอนน์ กับ มาร์ก ฟิลลิปส์ ทางสำนักพระราชวังจึงได้ค้นหาเมนูขนมหวานพิเศษเพื่อที่จะใช้ในงานแต่งงานนี้

หลังจากนั้นจึงมีนักเรียนการครัวคนหนึ่งชื่อ Marlilyn Ricketts จากมหาวิทยาลัย South Devon College ได้นำเสนอเมนูไอศกรีมที่ทำจากมินต์และช็อกโกแลต โดยใช้ชื่อว่า Mint Royale ปรากฏว่าขนมของเธอได้รับการคัดเลือกจากสำนักพระราชวังให้เข้าไปเสิร์ฟให้กับแขกในงานพิธีแต่งงาน จนกลายเป็นที่โด่งดังและเปิดโลกของช็อกมินต์ให้กับวงการอาหารโลกนับตั้งแต่นั้นมา

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ