น้องตะวัน หรือ น้องไข่เน่า Onlyfans กับทัศนคติของคนรุ่นใหม่ที่มีต่อวงการ Sex Creator
ประเทศไทยเมืองพุทธ ไม่มีสิ่งมอมเมา ไม่มีการค้าประเวณี ในพ.ศ. นี้ คำเหล่านี้แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่ก็คงจะไม่ซื้อกันแล้ว เพราะเรื่องพวกหากเปิดอกยอมรับกันก็คงจะเข้าใจกันดีว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอม จนเป็นส่วนหนึ่งกับสังคมไทยกันมาอย่างยาวนาน สร้างงานสร้างเม็ดเงินกันอย่างมหาศาล โดยสื่อลามกที่เป็นสิ่งพิมพ์ มีการบันทึกว่าถูกตีพิมพ์มาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในชื่อ”พระตำรับโยนี”
โดยเมื่อกาลเวลาผ่านไปก็พัฒนามาเป็น หนังสือปกขาว หรือเปิดบริสุทธิ์ อย่างที่หลายคนรู้จักกัน อีกทั้งวิธีการและพฤติกรรมการเสพสื่อเหล่านี้ก็ผันเปลี่ยนไปตามยุคสมัยเช่นกัน เมื่อมีสื่อวิดีโอเข้ามา เหล่าเสือป่าทั้งหลายก็หาสะสมกันตามชอบ ตรงปกบ้างไม่ตรงปกบ้างในยุครุ่งเรืองของหนังแผ่น ที่หาซื้อได้ตามคลองถม ปากหม้อ
จนเข้าสู่ยุคอินเตอร์เน็ตที่ไม่จำเป็นต้องไปเดินหาให้ขาลากก็สามารถเลือกหาดูกันได้อย่างตามใจชอบ (หากรู้ช่องทาง) อีกทั้งยังไม่ต้องเสี่ยงถูกคนในครอบครัว จับได้อีกไม่มีหลักฐานที่จับต้องได้ และเรื่องมีสิ่งที่เรียกว่า เว็บแคม ที่สามารถดูพูดคุยกับเหล่านางฟ้าสตรีมเมอร์กันแบบเรียลไทม์ แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ได้เปิดเผยมากนักจะรู้จักกันเป็นกลุ่มๆไป
แม้ที่ผ่านมาในอดีตถึงปัจจุบันก็ได้มีกลุ่มคนที่พยายามผลักดันให้สังคมยอมรับเปิดกว้างเกี่ยวกับวงการเหล่านี้ ที่ไม่ได้หมายถึงแค่สื่อลามกต่างๆ แต่รวมไปถึงอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวของกับเซ็กส์ และเมื่อมาถึงยุคที่การร้องเรียกร้องให้มีการเปิดใจเปิดกว้างกลายเป็นเรื่องรองและคนเลิกแคร์สังคมเลิกแคร์คนรุ่นเก่าที่ไม่ยอมรับ บวกกับทัศนคติของคนรุ่นใหม่บางส่วนที่เปิดกว้างขึ้นเกี่ยวกับเรืองเพศ เรื่องเซ็กส์ และให้การยอมรับว่ามันก็เป็นอาชีพๆหนึ่งไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆ ทำให้หนุ่มสาว ทุกเพศ หลายวัย ก้าวออกมาแสดงตัวตน
ถึงสิ่งที่ตัวเองเป็นที่อยากทำโดยไม่สนว่าใครจะว่าอย่างไร ขอแค่เป็นผู้มอบความสุขให้คนอื่นๆและไม่ได้เดือดร้อนใคร อย่างเช่นในกรณีของ น้องตะวัน หรือ น้องไข่เน่า Onlyfans ที่ได้มีการเปิดใจกับเพจ บ้านกูเอง โดย น้องตะวัน หรือ น้องไข่เน่า ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ในชั้นอุดมศึกษา สาขานิติศาสตร์ ได้เปิดเผยว่า เริ่มทำจาก มุมมองเรื่องที่เซ็กส์และร่างกายเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องการปกปิดร่างกาย บวกกับรสนิยมความชอบส่วนตัวโดยการโพสต์รูปตัวเองลงไปในสื่อโซเชียล Twitter ทำให้มีเหล่าแฟนๆคอยสนับสนุนผลงานความน่ารักอยู่พอสมควร ต่อมาได้ย้ายไปลงแพลตฟอร์มยอดฮิต อย่าง Onlyfans โดยส่วนมากจะเป็นผลงานภาพเซ็กซี่หรือคลิปวิดีโอขณะทำกิจกรรมกับแฟนหนุ่ม
ซึ่ง Onlyfans นั้นหากจะนิยามว่าเป็นแหล่งรวมเหล่า Sex Creator ของยุคนี้เลยก็ว่าได้ซึ่งจะเป็นการให้แฟนๆหรือผู้ติดตามสมัครสมาชิกรายเดือน หรือรายปีแล้วแต่ความพึงพอใจ เพื่อไปติดตามผลงานและเป็นสนับสนุนเจ้าของผลงานโดยตรงจากผู้ผลิตคอนเทนต์ แต่ก็ไม่วายมีคนแอบลักลอบนำไปเผยแพร่ตามช่องทางอื่นๆอย่างไม่ถูกต้อง เรื่องเรียกง่ายๆว่าแอบก็อปออกไปแชร์ต่อกันภายนอก ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการดูหนังเถื่อน ตามเว็บออนไลน์ แต่ถึงอย่างนั้น
กลับกลายเป็นว่าการที่ผลงานของ น้องไข่เน่า ใน Onlyfans หลุดออกไปทำให้มีหลายคนได้รู้จักมากขึ้นและชื่นชอบในผลงาน อีกทั้งโชคดีที่คนไทยยุคใหม่เริ่มจะมีจิตสำนึกในแง่ของการสนับสนุนของลิขสิทธิ์ ที่เป็นค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มว่าค่านิยมนี้กำลังแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้หลายคนรู้สึกผิดที่ดูเถื่อนและมาสนับสนุน น้องไข่เน่า อย่างถูกลิขสิทธิ์
โดย น้องไข่เน่า ยังบอกอีกว่าเป็นผู้ริเริ่มต้นคิดที่จะทำขึ้นมาโดยการชักชวนแฟนหนุ่มให้ทำ ซึ่งเริ่มแรกก็ไม่ได้มีรายได้มากนัก ได้เพียงแค่หนึ่งหมื่นห้าพันบาท ในช่วงแรกๆ แต่หลังจากเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนมีผู้สนับสนุนกว่า 7 พันราย ทำให้มีรายได้เฉียดล้านในเวลาไม่นานนัก แต่ทุกอย่างก็มีสิ่งที่ต้องแลกเมื่อเลือกที่จะทำอาชีพนี้ย่อมถูกคุกคามอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องแย่ที่ทางกฎหมายยังไม่ได้คุ้มครองผู้ที่ทำอาชีพนี้เท่าไหร่ แต่ปัญหาที่สำคัญกว่านั้นคือเรื่องของคนในครอบครัวแน่นอนว่าสำหรับคนยุคก่อนเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ น้องไข่เน่า เล่าว่าแม่ไม่ยอมคุยด้วยเลย หลังได้ขอร้องอยู่หลายครั้งให้เลิกทำ Onlyfans จนได้ดูบทสัมภาษณ์ที่น้องไข่เน่าได้พูดแง่มุมของอีชีพนี้อีกทั้งยังได้พิสูจน์ตัวเองว่าสามารถหาเงินเองได้ ดูแลตัวเองได้ แม่จึงยอมรับในภายหลัง
โดยตัวน้องตะวันเองก็ยังมีความฝันไว้ว่าอยากเรียนให้จบแล้วลองเดินบนเส้นทางสายกฎหมายที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมา ได้ลองดูว่าจะไปได้ไกลในสายงานนี้ขนาดไหน อีกทั้งยังมีความตั้งใจอยากเปิดคาเฟ่ หรือเป็นแฟชั่นดีไซน์ ไม่ก็ทำร้านกาแฟ ที่สุดแสนจะธรรมดาและเรียบง่าย
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ชาวโซเชียลส่วนมากก็ให้กำลังใจ ชื่นชมในทัศนคติและความกล้าที่เปิดเผยตัวตนในยุคที่กระแสสังคมรุนแรง บางส่วนก็คอยสนับสนุนผลงานของน้องไข่เน่า ใน Onlyfans ด้วยทัศนคติที่เปิดกว้างตามยุคสมัย การยอมรับตัวตนและเพศต่างๆที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งพูดได้ว่าตัว น้องไข่เน่า นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงกระเพี่อมให้สังคมยุคใหม่ ในการเปิดใจยอมรับความเปลี่ยนแปลง สร้างแรงบันดาลใจให้หลายๆคนกล้าก้าวออกมาทำสิ่งที่ใจรักโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น
แต่ต้องอยู่ในบรรทัดฐานที่ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน แต่อีหลายคนกลับมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติ บ้างก็ว่าหมดสิทธิ์ทำงานตามสายที่จบมาแล้ว ในอนาคตถ้ามีลูกแล้วลูกมาเห็นจะทำอย่างไร ไหนจะกังวลเรื่องเยาวชนเลียนแบบ ที่ออกมาแสดงตัวแล้วชี้นำสังคมแบบนี้ ซึ่งบางคอมเมนท์ก็ได้ตั้งคำถามว่าสำหรับผู้ที่เห็นด้วย สนับสนุน ว่าหากบุตรหลาน ของตนมาทำแบบนี้จะยังสนับสนุนมองโลกในแง่บวกแบบนี้อยู่หรือไม่
ซึ่งตรงนี้เอง น้องตะวัน ได้มีความเห็นว่าอยากให้ทุกคนเปิดใจรับ อยากให้ทุกคนก้าวข้ามคำว่าเมืองพุธ เพราะในหลายๆประเทศคนทำอาชีพนี้ก็เป็นที่ยอมรับในส่วนใหญ่ อีกทั้งในฐานะที่เป็นนักศึกษาด้านกฎหมายก็มีความหวังว่ากฎหมายจะลงมาคุ้มครองกลุ่มคนที่ทำอาชีพเหล่านี้ จะเก็บภาษียังไงก็ได้ขอให้มันถูกกฎหมายและคุ้มครอง เพราะเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงที่จะต้องเจออันตรายหลายรูปแบบไม่แพ้อาชีพอื่นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก บ้านกูเอง