เปิดประวัติ “ดวงฤทธิ์ บุนนาค” สถาปนิกชื่อดัง ชายผู้รักษาสัจจะ เปื้อนขี้เพราะการเมือง

วันที่ 2 กันยายน 66 นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบชื่อดัง สวมชุดพีพีอีเต็มตัว และสวมหน้ากากกันแก๊สแบบเต็มใบหน้า นั่งคุกเข่ากลางผ้าใบวงกลมสีขาว หยิบถุงอุจจาระและเริ่มปาใส่หน้าและลำตัวของนายดวงฤทธิ์ เป็นเวลา 11 นาที หลังจากเคยประกาศผ่านทวิตเตอร์ประกาศว่า ถ้าเพื่อไทยจับมือกับภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ จะยอมให้เอาขี้ปาหัว ซึ่งสุดท้ายพรรคเพื่อไทยฉีกเอ็มโอยู แยกทางกับพรรคก้าวไกล ก่อนจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรคสลายขั้วการเมือง

ทางด้าน นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความหลังจบกิจกรรมดังกล่าวว่า “คุณดวงฤทธิ์ บุญนาค จะถูกจดจำว่าเป็นคนรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเอง #จบกิจกรรมปาขี้” และ “จะรู้สึกอย่างไรถ้าทำให้ประชาชนคนหนึ่งที่เชื่อมั่นและศรัทธาจนออกตัวรับรองให้ ต้องเอาตัวมารับสิ่งปฎิกูลแบบนี้”

ประวัติดวงฤทธิ์ บุนนาค 

นายดวงฤทธิ์ มีชื่อเล่นว่า ด้วง เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2509 ปัจจุบันอายุ 57 ปี จบการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 2 และยังจบปริญญาโทจากวิทยาลัยสถาปัตยกรรม (AA) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ในปี 2538 ได้ทำงานเป็นสถาปนิกบริษัท สถาปนิก 49 (A49) จำกัด และในปี 2541 ได้เปิดบริษัทของตัวเองในชื่อ บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด ในด้านวิชาชีพ เขาได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการสภาสถาปนิก 2 สมัย ในชุดที่ 3 (2550-2553) และชุดที่ 4 (2553-2556)

นายดวงฤทธิ์ เป็นสถาปนิกและนักออกแบบชาวไทย สไตล์โมเดิร์นเรียบง่าย มีผลงานการออกแบบอาคารทรงสี่เหลี่ยมและการเล่นกับองค์ประกอบทางธรรมชาติ มีผลงานโดดเด่น เช่น โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน, โรงแรมคอสตา ลันตา, โรงแรมเดอะนาคา, ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC), อาคารสำนักงานโรงกลั่นน้ำมันและอาคารรักษาความปลอดภัย เอสโซ่ ศรีราชา, โครงการบูติกมอลล์ H1 ทองหล่อ ,เดอะแจมแฟคทอรี่ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งสำนักงานออกแบบของเขาเอง โดยเขายังเป็นเจ้าของร้าน Anyroom ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ ที่เป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ของดวงฤทธิ์เอง 

เมื่อปี 2561 หลังจากผลการประกาศรางวัลผู้ชนะการประกวดการออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (เทอร์มินัล 2) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งผลมีมติให้ DBALP Consortium หรือกลุ่มของ ดวงฤทธิ์ บุนนาค เป็นผู้ชนะงานออกแบบกับวงเงินค่าออกแบบ 329 ล้านบาท เกิดเสียงวิจารณ์ว่าไปคล้ายกับงานออกแบบของสถาปนิกชาวญี่ปุ่น ซึ่งในเวลาต่อมา ดวงฤทธิ์ ได้มีการทวีตข้อความชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ยืนยันว่า ผลงานนี้ ตนเองเป็นผู้ออกแบบเอง 100 เปอร์เซ็นต์ โดย Nikken มาช่วยในการดูระบบสนามบินเท่านั้น เนื่องจากค่าแบบงานนี้ต่ำมาก ไม่มีบริษัทต่างชาติไหนยินดีรับงานออกแบบ

ด้านชีวิตครอบครัว “ดวงฤทธิ์ บุนนาค” แต่งงานกับ อัชฌานาท บุนนาค โดยมีลูกด้วยกัน 2 คน ภายหลังจากการหย่า เขาได้คบหากับนักแสดง “อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส” และ “เข็ม กฤตธีรา อินพรวิจิตร”

ชีวิตบนเส้นทางการเมืองก่อนเปื้อนขี้

ปี 2563 นายดวงฤทธิ์ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมกลุ่ม CARE ขอ ‘คิด เคลื่อน ไทย’ ร่วมกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ,นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี , นายภูมิธรรม เวชยชัย , และนางสาวลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำผกา ก่อนจะมาเป็นผู้ดำเนินรายการผ่าน Clubhouse และ Youtube ชื่อ CARE คิด เคลื่อน ไทย ร่วมกับนายธีรัตถ์ รัตนเสวี อดีตโฆษกรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพื่อสัมภาษณ์พูดคุยกับ “โทนี่วู้ดซัม” หรือนายทักษิณ ชินวัตร ขณะลี้ภัยอยู่ที่ต่างประเทศ

กระทั่งวันที่ 27 มี.ค. 2566 ในช่วงที่เต็มไปด้วยข่าวลือว่า พรรคเพื่อไทยจะลอยแพพรรคก้าวไกล นายดวงฤทธิ์ ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ไว้ว่า “ถ้าเพื่อไทยจับมือกับ พปชร. ผมจะยอมให้เอาขี้ปาหัว” และ “#เพื่อไทย จะตั้งรัฐบาลกับ #ก้าวไกล เท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนขั้วสลับข้างไปจับกับ ภูมิใจไทย+พปชร.+รทสช.แน่นอน เลิกปั่น เลิกฝันเพ้อเจ้อกันได้แล้วนะครับ ผิดไปจากนี้ ผมให้เอาขี้ปาหัว (อีกรอบ)”

ซึ่งผลสุดท้าย เพื่อไทยก็สลับขั้วไปจับมือกับภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล

และล่าสุด (2 ก.ย.66) นายดวงฤทธิ์ ยอมให้คนเอาขี้มาปาใส่ เป็นเวลานาน 11 นาที ที่ Mirror Art ซอยแจ้งวัฒนะ 1 แยก 6 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ซึ่งบังเอิญเป็นวันเดียวกับที่มีการโปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1 พอดี