เพจ ไอลอว์ หรือ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน รายงานความคืบหน้าคดีชุมนุมแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 โดยมีจำเลยที่เบิกตัวมาจากเรือนจำ 9 คน ได้แก่ อานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, หมอลำแบงค์ หรือ ปดิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม, ไผ่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก, แอมมี่ ไชยอมร, รุ้ง ปนัสยา และ จัสติน ชูเกียรติ และมีผู้ได้รับประกันตัวก่อนหน้านี้ 13 ราย

โดย ไอลอว์ได้รายงานบรรยากาศในห้องพิจารณาคดีที่ 704 ศาลอาญารัชดาภิเษก ว่า ศาลเรียกทนายจำเลยที่ 3 คือ หมอลำแบงค์ และทนายจำเลยที่ 7 คือ ไผ่ ไปคุยที่ใต้บัลลังก์ หลังจากนั้นทนายความกลับไปคุยกับจำเลยทั้งสองคน ด้านทนายของไผ่แถลงขอปรึกษาคดีเป็นการส่วนตัวกับลูกความ ขออย่าให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เฝ้าอยู่ในห้องกีดกันหรือแอบฟัง ศาลอนุญาต ทนายความสามคนจึงไปยืนคุยกับไผ่ที่มุมหนึ่งของห้อง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3-4 คนยืนล้อมดูห่างออกมา 3-4 ก้าว ส่วนทนายของหมอลำแบงค์นั่งคุยกับจำเลยที่ม้านั่งโดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นั่งฟังอยู่ติดกันทั้งสองฝั่ง

ร้องไห้ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ 

จากนั้นรุ้งขอแถลงต่อศาล ศาลเรียกให้ไปยืนใต้บัลลังก์ และอ่านข้อความที่เตรียมมา รุ้งอ่านคำแถลงไปร้องไห้ไป โดยคำแถลงสรุปความได้ว่า ตนเข้าเรียนคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา โดยเชื่อในความเป็นมนุษย์ ตั้งแต่ตนรู้จักกับเพนกวิน และเพื่อนๆ ก็ตั้งใจจะเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วยความรัก

ด้วยความหวังว่า จะเห็นสังคมที่ดีขึ้น แต่ตอนหลังมาเห็นว่ารัฐไม่สามารถดูแลทุกคนได้ มีคนต้องฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจ “ตนโกรธมาก” วันนี้ที่ร้องไห้ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ แต่เพราะเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มีคนบอกว่าเป็นเรื่องผิดมากๆ ที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพเคลื่อนไหว ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

ขอประกาศอดอาหาร-เผชิญกระบวนการยุติธรรม

เธอกล่าวต่อว่าวันนี้ดีใจมากที่ศาลบอกว่าจะให้โอกาสต่อสู้คดี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้โอกาสนี้ ตนกับเพื่อนอีกหลายคนไม่ได้ประกันตัว เราถูกบังคับไม่ให้มีโอกาสนั้น และยอมรับว่ากลัวหากเพื่อนต้องจากไป ตนคิดมาตลอดว่า เราสู้เพื่ออยู่ ไม่ได้สู้เพื่อตาย แต่ถ้าจะมีใครตาย ก็ขอให้ตายเพื่อคนที่ยังอยู่ และวันนี้หากไม่ได้รับสิทธิประกันตัวอีก จะขอประกาศอดอาหารด้วย โดยจะเริ่มจากการรับประทานวันละมื้อ และลดลงเหลือรับประทานแค่น้ำ นม และสารอาหาร ขอให้การตายของเราเป็นสายธารนำความหวังสู่สังคม

ระหว่างการอ่านถ้อยแถลง ณัฐชนนท์ซึ่งคือเพื่อนของรุ้งได้ชูสามนิ้วในห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่คนแรกเดินมากระซิบข้างหูแต่ณัฐชนนไม่เอามือลง เจ้าหน้าที่อีกคนจึงเดินเข้ามากระซิบและจับมือให้เอาลงวางข้างลำตัว หลังจากอ่านเสร็จศาลขอให้ส่งถ้อยแถลงนี้ที่เป็นลายมือของรุ้งเข้ามาในคดี ทนายความจึงฉีกกระดาษจากสมุดจด และยื่นให้ศาลเก็บไว้

กีดกันญาติพบปะผู้ต้องขัง-จับตาทนายความ

ไอลอว์ ระบุอีกว่าสำหรับบรรยากาศในห้องพิจารณาค่อนข้างวุ่นวาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พยายามจะไม่ให้ญาติ และเพื่อนที่มาฟังการพิจารณาได้พูดคุยกับจำเลยที่มาจากเรือนจำ อนุญาตเพียงให้ทนายความปรึกษาคดีเท่าน้ัน แต่เมื่อทนายความบางคนไปพูดคุยกับจำเลยในเรื่องอื่น ก็จะถูกสั่งห้ามและถูกนั่งฟังอย่างใกล้ชิด ทำให้มีการโต้เถียงกันเป็นระยะ และต้องแถลงต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งอนุญาตให้คุยกันได้เป็นกรณีไป โดยเพื่อนของเพนกวินที่เป็นจำเลยในคดีนี้ และจะขอคุยกับเพนกวิน แต่ศาลไม่อนุญาต

เลื่อนตรวจพยานเป็นวันที่ 8 เม.ย.

หลังจากนั้นศาลอ่านรายงานกระบวนพิจารณาในเวลาประมาณ 15.10 ในรายงานระบุว่า การนัดตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ฝ่ายจำเลยขอเลื่อนออกไปก่อน และกำหนดวันนัดใหม่เป็นวันที่ 8 เมษายน 2564 เวลา 9.00 และให้จำเลยที่ถูกขังระหว่างการพิจารณามาศาลเพื่อดูหลักฐานที่เป็นวิดีโอจากฝั่งโจทก์ในวันที่ 7 เมษายน 2564 

โดยจำเลยที่ 4 คือ สมยศ และจำเลยที่ 7 คือ ไผ่ แถลงว่าหากได้รับการประกันตัวจะไม่พูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์อีก ส่วนจำเลยที่ 3 คือ หมอลำแบงค์ แถลงว่าหากได้รับการประกันตัวจะไม่พูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่เข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง จะไปประกอบอาชีพเป็นหมอลำ ยินยอมติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ และจะมาศาลตามนัดทุกนัด หากไม่มาศาลนัดใดขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวได้