เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 พ.ค. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ว่ามีครอบครัวในพื้นที่มีความยากจนและมีบุตรจำนวนมาก ซึ่งคนโตสุด อายุ 16 ปี และคนเล็กสุด อายุ 20 วัน โดยครอบครัวนี้มีฐานะไม่ดีและมีความกังวลในเรื่องของการเลี้ยงดูเด็กๆ จึงต้องการให้ทางหน่วยราชการให้ความช่วยเหลือ

จากกการลงพื้นที่ดังกล่าว พบบ้านในสภาพเป็นเพิงสังกะสีเก่าและเด็กเล็ก จำนวน 6 คน นั่งเล่นกันอยู่โดย 1 ในเด็กเล็กนั้นมีอายุ 20 วัน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามยังมารดาของเด็กทราบว่า เด็กทั้ง 6 คน เป็นลูกของตนท้ังหมด แต่ต่างบิดา ลูกคนเล็กสุดที่มีอายุ 20 วันนั้นเป็นสามีคนปัจจุบัน

เจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงการเลี้ยงดูบุตรทราบว่า เด็กทั้งหมดเข้ารับการศึกษาเพียง 1 คนคือคนโตที่มีอายุ 16 ปี และ ที่เหลือไม่ได้เข้ารับการศึกษา ทางสำนักงานพม.จังหวัด จึงดำเนินการนำเด็กที่ถึงเกณฑ์เข้ารับการศึกษามายังบ้านพักเด็กเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามสิทธิ์ จำนวน 2 ราย

จากนั้นจึงสอบถามถึงนมที่ให้เลี้ยงหนูน้อยวัย 20 วัน โดยให้นำนมที่ชงให้หนูน้อยมาให้เจ้าหน้าที่ดู ปรากฏว่าเป็นนมข้นหวานที่นำมาใช้ชงให้หนูน้อยกิน ทางด้าน นางสาวเมธาวี บุญพิทักษ์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ สำนักงานพม.จังหวัด ฉะเชิงเทรา จึงได้นำหนูน้อยดังกล่าวไปเข้าเต้าบนรถเพื่อให้หนูน้อยได้ดื่มนมจากอกของจนเอง

น.ส.เมธาวี เปิดเผยว่า รู้สึกเห็นใจมารดาของเด็กและสงสารเด็ก ประกอบกับตนก็เพิ่งคลอดบุตรได้ประมาณ 1 เดือนซึ่งยังพอมีน้ำนมเหลืออยู่จึงตัดสินใจขออนุญาติทางมารดาเด็กเพื่อให้นมกนูน้อยดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ ถึงมารดาเด็กว่ายังสามารถให้นมแม่ได้อยู่ไหมซึ่งปรากฏว่าแม่ของหนูน้อยยังมีน้ำนมอยู่จึงทำการสอนวิธีการ ในการให้นมและการทำความสะอาดอย่างถูกต้องถูกวิธี สำหรับหน่วยราชการในพื้นที่เมื่อทราบเรื่องจึงได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้การช่วยเหลือเด็กต่อไป