รื้อประวัติสถานสงเคราะห์โหดสระบุรี มูลนิธิช่วยสาววัย 24 อดีตเด็กขอทาน ได้เจอพ่อหน้าครั้งแรกในชีวิต
(3 มิ.ย.66) มูลนิธิวินวิน ได้พา น.ส.อังกอร์ อายุ 24 ปี อดีตเคยอยู่ สถานสงเคราะห์ที่จังหวัดสระบุรี มาเจอกับนายบุญหลาย อายุ 62 ปี ที่บ้านหนองแสง ต.ศรีสว่าง อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ พ่อของน้องหลังไม่เคยเจอกันมานานกว่า 23 ปี
การนำตัวน้องอังกอร์ มาพบพ่อดังกล่าว สืบเนื่องจากมูลนิธิวินวิน ซึ่งเข้าไปช่วยเด็กที่ถูกทำร้ายในสถานสงเคราะห์ และต้องการหาข้อมูลว่าสถานสงเคราะห์เด็กสระบุรี มีพฤติกรรมทำร้ายเด็กมาตั้งแต่ยุคไหน นำมาสู่การค้นหาเด็กที่เคยอยู่สถานสงเคราะห์แห่งนี้ จนกระทั่งไปพบน้องอังกอร์ ที่ไม่ได้เห็นแม่มานานกว่า 13 ปี และไม่เคยรู้จักและเห็นหน้าพ่อมาตั้งแต่ยังเล็ก ก่อนมูลนิธิจะสืบหาพ่อและเอาตัวมาส่งดังกล่าว
บรรยากาศที่มูลนิธิ นำตัวน้องอังกอร์ มาส่งที่บ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่น หลังจากพ่อลูกเจอหน้ากันต่างสวมกอดกัน มองหน้ากันลักษณะแปลกใจและดีใจไปพร้อมๆ กัน โดยมีชาวบ้านมาคอยให้กำลังใจ นำด้ายมาผูกแขนรับขวัญกันเป็นจำนวนมาก
น.ส.อังกอร์ เล่าว่า มีเจ้าหน้าที่เอามาส่งที่สถานสงเคราะห์ เมื่ออายุได้ 9 ปี ตอนนี้จำหน้าแม่ไม่ได้แล้ว แต่พ่อไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน รู้สึกดีใจที่มูลนิธิ พามาพบพ่อ และอยากให้มูลนิธิ ทำแบบนี้อีก เพราะยังมีเด็กอีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่มาก่อน และไม่รู้ว่าจะตามหาได้ที่ไหน
นายบุญหลาย พ่อน้องอังกอร์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้เห็นและพบหน้าลูกเป็นครั้งแรก ตอนน้องเป็นเด็กกำลังคลาน ภรรยาก็พาน้องหนีไป ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน พยายามตามหาแต่ไม่พบ จนกระทั่งมาทราบว่าภรรยาเอาลูกไปขอทานกินจนถูกทางการจับได้ แล้วเอาลูกมาไว้ที่สถานสงเคราะห์
ด้าน นางชลิดา พะละมาตย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิ วินวิน กล่าวว่า หลังจากมูลนิธิ เข้าไปช่วยเหลือเด็กที่ถูกทำร้ายในสถานสงเคราะห์สระบุรี จึงอยากจะรู้ข้อมูลเชิงลึก จึงค้นหาเด็กเก่าที่ออกไปแล้ว จนกระทั่งไปพบน้องอังกอร์ และอยากจะเห็นหน้าพ่อ จึงพามาส่ง สำหรับข้อมูลของน้องอังกอร์ โดยชื่อเดิม ด.ญ.สุรี เกิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2542 ที่โรงพยาบาลชลบุรี ส่วนแม่ คือ นางหนูชุน มีภูมิลำเนาอยู่ ต.เกาะลอย อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งน้องอังกอร์ ตอนนี้มีครอบครัว มีงานทำแล้ว จึงอยากจะเจอพ่อกับแม่เพื่อทดแทนบุญคุณ