หลังจากทั่วโลกอกหักกับ Xiaomi 13 Ultra ที่ใช้คำว่าสวยหรอไม่ขาย!!! และเราเคยได้ทดลองใช้งานแบบสั้นๆ กันไปแล้ว ล่าสุดนี้ Xiaomi ก็มีการพลิกความคาดหมายของผู้ใช้งานทั่วโลกที่รอคอยโดยมาพร้อมกับ Xiaomi 14 Ultra วางจำหน่ายพร้อมกับ Photography Kit ด้วย (แต่มีจำกัด) รอบนี้เรามาดูกันว่า มือถือในงบ 40,990 บาท จะมีดีอะไรให้คุณเป็นเจ้าของ ร่วมไปกับทีม Sanook Hitech กันครับ

รายละเอียดสเปกเครื่อง Xiaomi 14 Ultra

สเปก	Xiaomi 14 Ultra
ขนาดเครื่อง	161.4 x 75.3 x 9.2 มิลลิเมตร
น้ำหนัก	224 กรัม
ขนาดหน้าจอ	จอโค้งขนาด 6.73 นิ้ว LTPO AMOLED  ความละเอียด 3200 x 1440 พิกเซล Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 3,000 nits + Dolby Vision, HDR 10+ ,กระจกเป็น Xiaomi Shield Glass
CPU	Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
GPU	Adreno 750
กล้องหน้า	ความละเอียด 32 + 4K@30/60fps, 1080p@30/60fps
กล้องหลัง	ตัวหลัก : 50 MP F/1.63 , Sony LYT-900 รูรับแสงปรับได้ตั้งแต่ F/1.63 – F/4.0 พร้อมกับระบบ PDAF + OIS กล้องมุมกว้าง 50 MP รองรับระบบ Dual Pixel PDAF กล้อง Telephoto : 50 MP F/1.8 Dual Pixel PDAF ระยะ 75 มิลลิเมตร OIS  กล้อง Telephoto ชุด 2 : 50 MP F/2.5 Dual Pixel PDAF ระยะ 120 มิลลิเมตร OIS + PDAF LED Flash + Aura Lighting ถ่ายวิดีโอ 8K@24/30fps, 4K@24/30/60/120fps, 1080p@30/60/120/240/480/960/1920fps, gyro-EIS, Dolby Vision HDR 10-bit rec. (4K@60fps, 1080p)
RAM	12 / 16GB คาดว่ามี VRAM
หน่วยความจำ	256GB / 512GB
การเชื่อมต่อ	4G, 5G, Wi-Fi 7 Dual Band (2.4GHz, 5GHz), Bluetooth 5.4, GPS
ระบบเสียง	ไมโครโฟนด้านล่างคู่ + ลำโพงหลักด้านล่าง รองรับระบบ Hi-Res Audio
พอร์ต	USB-C 3.2 Gen 2
ระบบปฏิบัติการ	Android 14 + HyperOS
ระบบความปลอดภัย	สแกนใบหน้า / ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ
แบตเตอรี่	5000 mAh
ระบบชาร์จไฟ	ชาร์จไฟสายน 90W, ชาร์จไฟไร้สาย 80W
สีสัน	สีดำ และ สีขาว

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Xiaomi 14 Ultra

เรามาเริ่มกับด้านหน้าจอขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD+ แต่รอบนี้ขอบหน้าจอโค้งเล็กน้อยและพื้นที่หน้าจอใช้คำว่า ให้เยอะเหมือนกัน และมีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลทางด้านบน และด้านล่างมีปุ่มควบคุม แต่ข้อสังเกตหนึ่งของหน้าจอคือ ความไว! มันค่อนข้างไวมากกับ Refresh Rate 120Hz แต่การสัมผัสหน้าจอเล็กน้อย สามารถทัชสัมผัสติดแบบไม่รู้ตัว ดังนั้นต้องระวังนะ

รอบตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียม สำหรับสีที่ได้รับมาทดลองครั้งนี้คือสีดำ กลมกลืนไปกับแผ่น Vegan Leather สีดำ แต่ถ้าเป็นเครื่องสีขาวขอบจะเป็นสีเงินครับ ฝั่งซ้ายไม่มีปุ่ม

จะมีก็คือฝั่งขวามือเท่านั้น ได้แก่ปุ่มเพิ่ม / ลดระดับเสียง

ส่วนบนมีเพียงลำโพงเท่านั้น 

ส่วนล่างจะมีช่องเสียบ USB-C, ลำโพงขนาดใหญ่, ไมโครโฟน และ ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ต้องพลิกถึงจะได้ 2 SIM

พลิกด้านหลังจะมาพร้อมกับแผ่นหนัง Vegan Leather ทำให้จับและดูพรีเมียมมากขึ้น และมีกล้องขนาดใหญ่ที่มีการใช้เลนส์ Leica สเปกกล้องอ่านได้จากด้านบน

Photography Kit

ไม่พูดถึงไม่ได้เลยครับสำหรับ Photography Kit ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมตัวเด่นของ Xiaomi 14 Ultra จะประกอบไปด้วย

• เคสที่ทำให้ตัวเครื่องดูโปรฯ และมีกรออกแบบให้ใส่กรอบเลนส์เพื่อใส่กับฟิลเตอร์ได้
• ปุ่มถ่ายภาพที่จะต้องใส่กับด้านหลังเครื่อง ปุ่มนี้สั่งถ่ายภาพ, ปรับตั้งค่ากล้องในโหมดโปร และ อัดวิดีโอ แถมมีแบตเตอรี่สำรองขนาด 1500 mAh ฉะนั้นอย่าแอบใส่ในกระเป๋าเดินทางที่ต้องนำไปเก็บใต้เครื่องเด็ดขาดนะครับ
• ชุดกรอบเลนส์มีให้เลือกตั้งแต่ กรอบปิดหน้าเลนส์สีเงิน, สีส้ม และ ครอบเลนส์เพื่อใส่ฟิลเตอร์ จะต้องมีหน้าเลนส์ขนาด 67 มิลลิเมตร

เมื่อทดลองใส่แล้วพบว่าน้ำหนักของเครื่องก็จะมากขึ้น แต่ก็ช่วยทำให้เครื่องจับได้ถนัดมือมากขึ้นด้วย

น้ำหนัก / การพกพา

หากไม่รวมชุด Photography Kit การพกพาถือว่าไม่ได้ลำบากมากแต่น่าเป็นห่วงที่เลนส์กล้องเพราะมันจะยื่นพอสมควรอาจจะทำให้เกิดรอยได้ในอนาคตถ้าเก็บไม่ดี แต่ถ้าใส่เคสติดเครื่องก็เบาใจได้หน่อย ส่วน Photography Kit จะทำให้เครื่องหนักขึ้นเล็กน้อย

การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง

เรามาพูดเรื่องหน้าจอของ Xiaomi 14 Ultra กันหน่อย กับการแสดงผลความละเอียดสูงสุดระดับ 2K ทำให้การเก็บรายละเอียดถือว่าทำได้ดี และยังรองรับการแสดงผล Dolby Vision ความสว่างทำได้ดีและชมภาพยนตร์ให้ภาพที่สวยงาม

ส่วนลำโพงของเครื่องถือว่าดังมากทั้งด้านบนและด้านล่าง แต่ทิศทางของเสียงจะมาทางจากด้านล่างมากกว่า ทั้งนี้ยังปรับแต่งเสียงให้รองรับกับเทคโนโลยี Dolby ATMOS ได้ด้วยครับ

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Xiaomi 14 Ultra

Xiaomi 14 Ultra มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดของ Xiaomi นั่นคือ HyperOS พื้นฐาน Android 14 จุดเด่นแบบสัมผัสได้คือความคล่องตัวลื่นไหลและการแจ้งเตือนที่มีการปิดส่วนบนที่อยู่ของกล้องคลุมลงมาทำได้สวยงามและไม่เหมือนกัน

นอกจากนี้ความเร็วในการใช้งานถือว่ามากขึ้นด้วยและแทบไม่มี Apps อื่นมากวนใจ ช่วยให้การทำงานลื่นไหลมากขึ้นด้วยครับ ส่วนระบบความปลอดภัยคือ การสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และ สแกนใบหน้าพร้อมกับการแยกพื้นที่ได้ด้วย

 

รูรับแสงกว้างสุด

รูรับแสงแคบสุด

ย้ายมาดูที่ฟีเจอร์กล้องของมือถือรุ่นนี้กลายเป็นของที่อยากพูดปิดท้าย แม้ว่าจะเหมือนกับมือถือร่วมค่ายที่สามารถปรับแต่งภาพนิ่งและวิดีโอได้โดยการปัดลงมา แต่ถ้าเป็นโหมดโปรถือว่า ให้มาแบบครบครัน และเต็มที่มากๆ แล้ว

และโทนสีของภาพมีให้เลือกทั้ง Leica Authentic จะโทนสีเข้มมหน่อย และ Leica Vibrant ให้สีที่สดใสและ พร้อมกับ Leica Portrait เป็นต้น

ส่วนวิดีโอนอกจากจะถ่ายวิดีโอได้ 8K แล้วยังสามารถถ่ายวิดีโอในแบบโหมด Director Mode ต่อเชื่อมกับมือถือหลายตัวกำกับเป็นภาพชนเดียวกันได้ (แต่ต้องเป็นมือถือที่รองรับและเป็นรุ่นเดียวกัน) และ วิดีโอยังเรียก Master Cinema ปรับแต่งได้ 

ผลงานภาพนิ่งของ Xiaomi 14 Ultra

(กล้องหลัง)

 

(กล้องหน้า)

 

ประสิทธิภาพ / การเชื่อมต่อ / การใช้พลังงาน

สำหรับรีวิวรอบนี้จะแปลกหน่อย เพราะเราจะมาปิดท้ายด้วยประสิทธิภาพกันครับ คะแนนไม่ต้องพูดอะไรเยอะให้เจ็บคอ มันแรงมาก แต่กว่าจะได้ผลการทดสอบแบบนี้พูดเลยว่า ต้องทดสอบทีละตัว ไม่สามารถกดต่อกันได้ เนื่องจากเครื่องจะเกิดความร้อนสูงเวลาทดสอบเสมอ

การเล่นเกมก็เลยจะส่งผลเวลาที่เราอยู่ในที่อุณหภูมิปกติ ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศทำได้ มันจะร้อนจนทำให้ตัดการทำงาน หากเล่นเกมจนถึงขีดจำกัดนั้น ตัว Xiaomi 14 Ultra จะหยุดการทำงาน พร้อมกับตัดสัญญาณมือถือ เหมือนกับ Flight Mode แต่ระยะเวลาการตัดนั้นจะอยู่ราว 15 วินาที ส่วนโหมดการเล่นเกมยังมี Game Turbo ให้ได้กดใช้งานอยู่

 

ส่วนการเชื่อมต่อ รองรับแบบล้ำๆ ทั้ง Wi-Fi 7, 5G, GPS มาแบบครบครัน

และการใช้พลังงานของ Xiaomi 14 Ultra ในโหมดการใช้งานปกติ พบว่าถ้ามีการเล่นโหดๆ กับกล้องหรือใช้งานหนัก พบว่าเพียงแค่ 10 ชั่วโมงก็อาจจะทำให้เครื่องดับได้ การทดสอบ PCMark ที่ทำได้เลยออกมาอยู่ที่ 8:30 ชั่วโมง

ส่วนระบบชาร์จไฟของเครื่องจะรองรับที่ 90W แบบสายและไร้สาย 50W แต่เนื่องจากเราไม่ได้มีอุปกรณ์ที่รองรับขนาดนั้น การทดสอบเราเลยใช้ที่ชาร์จกำลัง 65W ข่าวดีคือชาร์จไฟได้ แต่ถ้าชาร์จกับอุปกรณ์มาตรฐานอื่น จะไม่ได้ทำได้เร็วขนาดนั้น

สรุปหลังทดลองใช้ Xiaomi 14 Ultra มาพักหนึ่ง

ต้องยอมรับว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่มีผลงานภาพนิ่งที่ดีมากๆ ออกแบบได้จับได้ถนัดมืออย่างมากแต่น้ำหนักอาจจะมากไปสักหน่อย ถ้าคุณรักการถ่ายภาพรุ่นนี้ก็น่ามองอีกตัวหนึ่ง กับราคา 40,990 บาท แต่ได้ทั้ง RAM 16GB / ความจำ 512GB 

น่าเสียดายที่เมื่อบทความนี้ขึ้นไปแล้ว ชุด Photography Kit จำหน่ายหมดแล้ว แต่ถ้าหาซื้อได้ก็ถือว่าคุ้มค่าสุดสำหรับสายโปร แต่ถ้าไม่คิดมากนัก ตัวมันเองมีดีจนอาจจะไม่ต้องพึ่งชุดนั้นก็ได้ในการใช้งานปกติครับ

จุดเด่น

• บอดี้สวยดูดี
• สเปกเครื่องครบและพร้อมใช้
• กล้องจบแบบไม่ต้องพูดเยอะ
• ชาร์จไฟไว
• อุปกรณ์เสริมต่อพ่วงมีให้เล่นเยอะ
• ราคาไม่แรงอย่างที่คิด

ข้อสังเกต

• กินแบตฯ โหดมาก
• ตัวเครื่องค่อนข้างร้อนง่ายเวลาใช้งานหนัก
• เลนส์ใหญ๋อาจจะเสี่ยงต่อการเป็นรอยได้ง่าย