กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้งสำหรับรอบนี้ทีมได้รับมือถือใหม่ล่าสุดจาก Vivo ถึง 2 รุ่นซึ่งเน้นกล้องและการถ่ายภาพชนิดว่า ยกระดับมากกว่าการ Selfie เลยครับ ในรุ่น vivo X70 / X70 Pro นั่นเอง รุ่นนี้มันจะมีดีแค่ไหน เรามาดูกันเลยดีกว่า
แกะกล่อง vivo X70 Series
ทั้งคู่จะมีอุปกรณ์เหมือนกันคือ
- ตัวเครื่อง vivo X70 / vivo X70 Pro
- หูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร พร้อมกับตัวแปลงจาก 3.5 mm to USB-C
- สายชาร์จไฟ USB-C to USB-C
- Adapter 44W
- เคสใส
- คู่มือ / เข็มจิ้มถ่ายใส่ซิมการ์ด
รูปลักษณ์ดีไซน์
เริ่มต้นกับทั้งคู่จะมีหน้าจอแบบ AMOLED คล้ายกันเลยครับ โดยมีความละเอียด Full HD+ เหมือนกัน เพียงแต่ว่าสิ่งที่น่าสนใจและแยกความแตกต่างชัดเจนคือ ความโค้งของหน้าจอในตัว X70 Pro และความยาวเมื่อเป็นหน้าจอแบบราบนั้นทำให้ vivo X70 ปกติ ดูยาวกว่าเล็กน้อย
ส่วนบนสุดของหน้าจอจะมีกล้องหน้าไว้ตำแหน่งตรงกลางความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และบนสุดจะเป็นลำโพงสำหรับสนทนาเท่านั้น
ล่างสุดจะเป็นที่อยู่ของปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ Android พื้นฐานแล้วจะมาแบบ 3 ปุ่ม คุณสามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ ตั้งค่า (Setting) > การนำทางของระบบ (Navigation) ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ
- แบบ 3 ปุ่มที่สามารถจัดรูปแบบได้
- การนำทางแบบสัมผัสลักษณะแบบ Android ทั่วไป
รอบตัวเครื่องทำจากวัสดุอะลูมิเนียมที่มีคุณภาพสูง โดย X70 Pro จะมีความโค้งทำให้เห็นหน้าจอด้านหน้าที่ขอบได้แต่ขอบก็จะเหลือพื้นที่น้อยกว่า ซึ่งฝั่งซ้ายไม่มีปุ่ม
ฝั่งขวาจะมีปุ่ม เพิ่ม / ลดระดับเสียง และ Power สำหรับเปิด / ปิดเครื่อง
ส่วนบนนอกจากคำว่า Professional Photography พร้อมกับไมโครโฟน 1 จุด แต่เซอร์ไพรส์กว่า มี IR Blaster ไว้สั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย
ส่วนล่างมีช่องใส่ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง, USB-C ไมโครโฟนตัวหลัก และ ลำโพงตัวหลักตัวเดียวของเครื่อง
พลิกมาทางด้านหลังจะพบการวางตำแหน่งกล้องที่คล้ายกัน โดย vivo X70 จะมีกล้องทั้งหมด 3 ตัว ส่วน vivo X70 Pro จะมีกล้องทั้งหมด 4 ตัว เคลือบด้วย Zeiss T* นอกจากนี้ด้านหลังออกแบบเรียบแต่มีการปรับใช้เทคโนโลยี fluorite AG ที่มีการสัมผัสที่ดีเพราะผิวเหมือนกับกล้องราคาแพง และดูเป็น Sand Stone เลยครับ
ภาพรวมการออกแบบ
ทั้งคู่มีขนาดที่ไม่ได้เล็กและใหญ่เกินไปแต่แยกความแตกต่างออกได้ง่ายไม่มากไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้หน้าจอโค้งสำหรับรุ่น Pro และรุ่น X70 จะมีน้ำหนักเบากเพราะกล้องน้อยกว่า แต่ที่เหลือก็ให้วัสดุที่ดีมีความจับแล้วราบรื่นอยู่ ฉะนั้นใครอยากได้มือถือจอเรียบก็คงต้องเอารุ่นปกติ ส่วน X70 Pro จะได้สเปกที่จัดเต็มกว่า
สีสันทั้งคู่จะมีให้เลือกคือสีดำ Cosmic Black ผมว่าสีสวยกว่า Aurora Dawn ที่สีฟ้าออกน้ำทะเลครับ
เปิดเครื่องลองใช้งาน vivo X70 Series
รายละเอียดสเปกของ vivo X70
- ขนาด: 160.1 x 75.4 x 7.6มิลลิเมตร
- หนัก: 181 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : AMOLED ความละเอียด 1080×2376 พิกเซล ขนาดประมาณ 6.5 นิ้ว รองรับ Refresh Rate 120Hz HDR10+
- มาตรฐานกัน : ไม่ระบุ
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 1200 Octa Core vivo Edition | GPU Mali-G77 MC9
- RAM : 8 GB
- ROM : 128 GB
- ความจำเสริม : ไม่สามารถเพิ่มความจำได้
- ระบบปฏิบัติการ: Android 11 + FunTouch OS 12
- WiFi 802.11 B/G/N/AC/6 (Dual Band)
- Bluetooth 5.2
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G/5G
- กล้องหลัง 3 ตัว:
ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล F/1.9 1 1.0µm, PDAF + Gimbal
ตัวที่ สอง เป็นเลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/2.0, 50mm (telephoto), 1/2.93″, 1.22µm, PDAF, ซูมได้ 2 เท่า แบบ Optical Zoom
ตัวที่ สาม กล้องมุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 116 องศา
มาพร้อมกับ เลนส์ Zeiss และเคลือบด้วย Zeiss T* ลดแสดงสะท้อนพร้อมกับ Pixel Shift, Dual LED Flash และมี HDR รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30/60 1080p@30/60fps, gyro-EIS, HDR10+ - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 32 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ 4K
- รองรับระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วในหน้าจอ และ สแกนใบหน้า
- ชนิดซิมการ์ด : nano SIM Dual SIM
- ช่องเสียบ : USB-C
- แบตเตอรี่ : Li-Po 4400 mAh + Flash Charge 44W ติดมาให้กับที่กล่อง
- สี : Cosmic Black, Aurora Dawn
รายละเอียดสเปกของ vivo X70 Pro
- ขนาด: 158.3 x 73.2 x 8 มิลลิเมตร
- หนัก: 185 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : LTPS AMOLED ความละเอียด 1080×2376 พิกเซล ขนาดประมาณ 6.5 นิ้ว รองรับ Refresh Rate 120Hz HDR10+ จอโค้ง
- มาตรฐานกัน : ไม่ระบุ
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 1200 Octa Core vivo Edition | GPU Mali-G77 MC9
- RAM : 12 GB
- ROM : 256 GB
- ความจำเสริม : ไม่สามารถเพิ่มความจำได้
- ระบบปฏิบัติการ: Android 11 + FunTouch OS 12
- WiFi 802.11 B/G/N/AC/6 (Dual Band)
- Bluetooth 5.2
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G/5G
- กล้องหลัง 4 ตัว:
ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.8 1.0µm, PDAF + Gimbal
ตัวที่ สอง กล้องมุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 116 องศา
ตัวที่ สาม เป็นเลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/2.0, 50mm (telephoto), 1/2.93″, 1.22µm, PDAF, ซูมได้ 2 เท่า แบบ Optical Zoom
ตัวที่ 4 เป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 125 mm. ซูมได้ 5 เท่า (Periscope) PDAF + OIS
มาพร้อมกับ เลนส์ Zeiss และเคลือบด้วย Zeiss T* ลดแสดงสะท้อนพร้อมกับ Pixel Shift, Dual LED Flash และมี HDR รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30/60 1080p@30/60fps, gyro-EIS, HDR10+ - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 32 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ 4K
- รองรับระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วในหน้าจอ และ สแกนใบหน้า
- ชนิดซิมการ์ด : nano SIM Dual SIM
- ช่องเสียบ : USB-C
- แบตเตอรี่ : Li-Po 4450 mAh + Flash Charge 44W ติดมาให้กับที่กล่อง
- สี : Cosmic Black, Aurora Dawn
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม
ผลการทดสอบประสิทธิภาพจาก AnTuTu (ซ้าย vivo X70 / ขวา vivo X70 Pro)
ผลการทดสอบประสิทธิภาพจาก Geekbench 5 ซ้าย vivo X70 / ขวา vivo X70 Pro)
เท่าที่เห็นพูดชัดเจนเลยว่า RAM นั้นมีผลกับประสิทธิภาพค่อนข้างมาก แม้ว่าทั้งคู่จะใช้ขุมพลังตัวเดียวกันก็ตาม แต่ผลที่ออกมานั้นก็ทำให้คุณนั้นแปลกใจว่า vivo X70 Pro จะแรงกว่า vivo X70 อยู่ประมาณหนึ่ง
ส่วนโหมดช่วยในการเล่นเกมนั้นก็มีการติดตั้ง 2 ลูกเล่นเข้ามาทำให้การเล่นเกมของคุณทำได้ดีมากขึ้นได้แก่
- Ultra Game Mode จะมีการควบคุมในการเล่นเกมได้ โดยสามารถเข้าได้ลึกถึง E-Sport Mode คือปรับประสิทธิภาพ และ ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด แถมเปิดโหมดสั่นเล็กๆ ที่ให้ความรู้สึกได้ดี
- Multi Turbo Mode จะทำงานเมื่อเข้าเกม โดยปัดทางซ้ายมือออกมาสามารถปรับรายละเอียได้ดครบ และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีระดับหนึ่ง
ภาพรวมถ้าเล่นเกมแล้วผมชอบ X70 ปกติมากกว่าเพราะคุณไม่ต้องห่วงเรื่องขอบหน้าจอลั่นเลยครับ แต่ว่า สิ่งที่ X70 Pro จะเหนือกว่าแบบชัดเจนคือ การตอบสนองที่ทันใจกว่านั่นเอง
การเชื่อมต่อ / ระบบนำทางของ vivo X70 Pro
ในเรื่องการเชื่อมต่อต่างๆ นั้นยังคงทำได้ครบทั้ง Wi-Fi 6 / 5G รองรับทั้ง AIS, True และ dtac เรียบร้อยอย่างเป็นทางการ พร้อมกับ A-GPS / GPS สามารถนำทางได้ดีอยู่บอกความแน่ยำได้ดีเหมือนกันครับ
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียงของเครื่อง
หน้าจอของทั้งคู่จะมาพร้อมกับ Panel แบบ AMOLED ให้สีสันที่ดี พร้อมกับ Refresh Rate 120 Hz และยังตอบสนองได้ดี และเวลาใช้ดูหนังผ่านทางออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นช่องทางอะไรก็ตาม พบว่า มันตอบสนองได้ดีมากพอสมควรเลยครับ
ส่วนระบบเสียงของเครื่องนั้นถ้าต้องต่อกับ Bluetooth รองรับทั้ง aptX, A2DP ได้แต่ถ้าให้คุณภาพเสียงออกมาเป็นอย่างไรนั้นต้องบอกว่า ก็ทำได้ดีแต่ว่ามันให้ลำโพงแค่ตัวเดียวผมว่ามันเป็นจุดด้อยของรุ่นนี้ไป แต่ความดังถือว่า ดังดีใช้ได้เลยครับ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
ในส่วนระบบปฏิบัติการมาพร้อมกับ Android 11 ครอบทับด้วย FunTouch OS 12 รุ่นใหม่ล่าสุดการสั่งงานถือว่าไม่ได้แตกต่างจาก Android ทั่วไป การทำงานต่างๆ มาแบบครบเครื่อง ลูกเล่นและฟีเจอร์ต่างๆ มาครบ และยังสามารถใส่ Widget ทำได้ครบเครื่องอยู่
นอกจากนี้ลูกเล่นต่างๆ ของ vivo เองถือว่ามาให้แบบจัดเต็มเลยครับ เพราะพูดเลยว่ามีทุกอย่างให้คุณแล้วเช่นเครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, รีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
ส่วนความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบสแกนนิ้ว, ระบบสแกนใบหน้ามาให้ด้วยครับ
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
สำหรับกล้องของ vivo X70 จะมีสเปกกล้องดังนี้
- ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล F/1.9 1 1.0µm, PDAF + Gimbal
- ตัวที่ สอง เป็นเลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/2.0, 50mm (telephoto), 1/2.93″, 1.22µm, PDAF, ซูมได้ 2 เท่า แบบ Optical Zoom
- ตัวที่ สาม กล้องมุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 116 องศา
- มาพร้อมกับ เลนส์ Zeiss และเคลือบด้วย Zeiss T* ลดแสดงสะท้อนพร้อมกับ Pixel Shift, Dual LED Flash และมี HDR รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30/60 1080p@30/60fps, gyro-EIS, HDR10+
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
สำหรับกล้องของ vivo X70 Pro มีสเปกดังนี้
- ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.8 1.0µm, PDAF + Gimbal
- ตัวที่ สอง กล้องมุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 116 องศา
- ตัวที่ สาม เป็นเลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/2.0, 50mm (telephoto), 1/2.93″, 1.22µm, PDAF, ซูมได้ 2 เท่า แบบ Optical Zoom
- ตัวที่ 4 เป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 125 mm. ซูมได้ 5 เท่า (Periscope) PDAF + OIS
- มาพร้อมกับ เลนส์ Zeiss และเคลือบด้วย Zeiss T* ลดแสดงสะท้อนพร้อมกับ Pixel Shift, Dual LED Flash และมี HDR รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30/60 1080p@30/60fps, gyro-EIS, HDR10+
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
ความแตกต่างคือเรื่องของการซูมมากกว่าครับ
ฟีเจอร์การถ่ายภาพของกล้องหลัง
ลูกเล่นของกล้องนั้นเหมือนกันเลย ถ้าแตกต่างคือเรื่องของการซูมโดยรุ่น X70 Pro จะซูมได้มากกว่า และมีปุ่ม 5x มาให้ในการซูมและมีการปรับ AI Mode, Macro Mode แบบอัตโนมัติ และมีลูกเล่นครบ โหมดกลางคืนสามารถใช้ถ่าย Panorama ได้และสแกนเอกสารได้มีการถ่ายดาวล่าทางช้างเผือกได้และโหมโปรตอบโจทย์ได้ดี ถ้าเป็นคนชอบถ่ายคนรุ่นนี้ปรับได้ทั้งการแต่งหน้าและความเนียนละลายหลังและฟิลเตอร์แถมด้วย สไตล์ของภาพและท่าทางได้ครบเลยครับ
การซูมนั้นถ้าเป็น vivo X70 Pro หากซูมมากกว่า 30X จะมีช่องมองที่บอกว่าภาพขนาดเต็มบอกว่าภาพอยู่ตรงไหน แต่ไม่มีมีตัวล็อกให้ภาพนิ่งนะครับ แต่ยังดีที่มันควบคุมได้ง่ายอยู่
ส่วนวิดีโอนั้นรองรับการถ่ายความละเอียดสูงสุด 4K และถ้าเปิดระบบ Gimbal และยังมีโหมดถ่ายวิดีโอกลางคืน แถมยังสามารถกดปรับภาพที่เยอะมากผ่านโหมดโปร และมี Timelaspse และ Slowmotion 240 FPS ถือว่าเยอะอยู่นะครับ
ภาพตัวอย่างจากกล้อง vivo X70 / vivo X70 Pro
vivo X70
vivo X70 Pro
สภาพกลางวัน / แสงปกติ
vivo X70
vivo X70 Pro
สภาพกลางคืน / แสงน้อย
vivo X70
vivo X70 Pro
ภาพรูปแบบอื่นๆ
ลองถ่ายภาพกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
มาถึงกล้องหน้ากันบ้าง vivo ยังคงไม่ทำให้คุณผิดหวังเพราะมีกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซลเลยครับ โดยกล้องนั้นมีลูกเล่นถ่ายภาพเหมือนกล้องหลังเลยครับ แต่ว่าในโหมดของวิดีโอนั้น ไม่ได้ให้ Mode กันสั่นมาครับ
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ vivo X70 มีขนาด 4400 mAh และ vivo X70 Pro มีขนาด 4450 mAh เมื่อลองใช้งานจริงแล้วพบว่าทั้งคู่ให้ประสิทธิภาพที่ดี คือใช้งานได้นานถ้าไม่ได้เล่นเกมหรือเปิดกล้องเยอะเกินไป ซึ่ง PC Mark ทำได้คะแนนใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ตัวช่วยเกี่ยวกับการจัดการพลังงานนั้นก็มี Adaptive Battery, โหลด Power Saving และจัดการเกี่ยวกับ Apps ที่กินไฟได้ผ่านระบบ AI
ส่วนระบบการชาร์จไฟทั้งคู่รองรับ Flash Charge กำลัง 44W เท่ากัน และมีให้ในกล้องแทบไม่ต้องหาเพิ่ม ถ้าใช้ที่ชาร์จแล้วไม่ใช้สายของมัน ก็สามารถให้กำลังเท่ากับสายติดกล่องได้ แต่สายต้องหนาสักหน่อยไม่งั้นมันจะลดกำลังเพื่อความปลอดภัย
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้งาน vivo X70 / vivo X70 Pro มาสักระยะเวลาหนึ่ง
มาถึงข้อสรุปหลังลองครับ vivo X70 Series ยังคงเป็นมือถือเน้นเรื่องกล้องมากพอตัวและมีการนำเลนส์ Zeiss T* มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเลย แต่ลูกเล่นที่เหลือก็เริ่มเอาใจคนที่ไม่ได้เน้นภาพถ่าย และวิดีโอนิ่งกว่าเดิมมากเช่นเดียวกันครับ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกันไปแล้วคงต้องทำใจกับฟีเจอร์ว่าไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ครับ
สำหรับราคาของ vivo X70 Series มีดังนี้
- Vivo X70 RAM 8GB / ROM 128GB = 21,999 บาท วางจำหน่าย 16 ตุลาคม 2021
- Vivo X70 Pro RAM 12GB / ROM 256GB = 27,999 บาท วางจำหน่าย 16 ตุลาคม 2021
- Vivo TWS ANC 2 = 2,999 บาท
- Vivo TWS 2e = 2,499 บาท
เห็นแบบนี้แล้วคงถามว่ารุ่นไหนน่าสนใจกว่ากัน คำตอบคือ ถ้าคุณต้องการมือถือจอเรียบกล้องถ่ายเพียงพออย่างได้เลนส์ Zeiss T* ในราคาไม่แพงมาก vivo X70 คือคำตอบ
แต่ถ้ากล้องที่ครบกว่ารับได้กับจอโค้งและมีความจำเยอะกว่า vivo X70 Pro คือคำตอบของคุณครับผม
จุดเด่น
- มือถือรุ่นใหม่นี้น้ำหนักเบามาก
- สเปกของเครื่องถือว่าแรงกำลังดี
- การถ่ายภาพกล้องหลังความละเอียดสูง
- ระบบกันสั่นทำงานได้ดีมากขึ้น
- ลูกเล่นของกล้องมาแบบเต็มที่
- อุปกรณ์ในกล่องครบทุกชิ้น
ข้อสังเกต
- ไม่รองรับ Wireless Charge
- ยังไม่มีมาตรฐานกันน้ำ
- ลำโพงยังมีมาให้แค่เฉพาะด้านล่าง