กลับมาพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech กันอีกครั้ง ในครั้งนี้ถ้าพูดถึงมือถือที่เป็นที่สุดของกล้องในช่วงปลายปี ก็มีทั้งหมด 4 รุ่นที่เปิดตัวกันไปหนึ่งในนั้นคือรุ่นที่เราจะมารีวิวให้ดูกันกับ vivo X200 ทั้ง 2 รุ่นมาให้ได้ดูกัน พร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลย

สำหรับรายละเอียดสเปกและการเปรียบเทียบนั้นเราได้ทำบทความให้ได้อ่านสามารถกดอ่านได้ที่บทความด้านล่าง

• vivo X200 VS vivo X200 Pro เรือธงที่ถ่ายภาพได้ดี แต่!!! รุ่นไหนจบกว่ากัน
• เปิดราคา vivo X200 Series การกลับมาของมือถือกล้องดีที่อัปเกรด เริ่มต้น 29,999 บาท

ดีไซน์ของ vivo X200 Series

vivoX200

vivo X200 Pro

หากเอาทั้งคู่มาวางข้างกันแบบจะต้องบอกว่าความแตกต่างของ vivo X200 Series ที่ต่างจากรุ่นเดิมอย่าง X100 ชัดเจนคือไม่มีส่วนของหน้าจอโค้งชัดเจนสิ่งที่ต่างกันชัดเจนคือขนาดหน้าจอ vivo X200 จะมีขนาด 6.67 นิ้ว และเป็นแบบเรียบกว่า ส่วน vivo X200 Pro จะได้หน้าจอ 6.78 นิ้ว แต่ความละเอียดเท่ากันคือ 2800 x 1260 พิกเซล นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Refresh Rate 120Hz และกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล อ้อ หน้าจอ X200 Pro เป็นแบบ LTPO AMOLED นะ จะสว่างกว่า X200 แบบชัดเจน

รอบตัวเครื่องถ้าสังเกตว่าถ้าแยกให้ต่างกันรุ่นปกติและรุ่น Pro คือความหนาและความเงา โดยรุ่นปกติจะได้ขอบเงาในสีน้ำเงิน แต่รุ่น Pro จะขอบด้านทั้งหมด ไม่ว่าจะซื้อสีอะไร องค์ประกอบของเครื่องมีดังนี้

• ข้างซ้ายไม่มีอะไร, ข้างขวามีปุ่ม Power และ ปุ่มปรับระดับเสียง
• ส่วนบนจะมีลำโพงตัวเครื่อง, ไมโครโฟน
• ส่วนล่างจะมีช่องใส่ซิม, USB-C, ไมโครโฟนหลัก และ ลำโพงตัวเครื่อง

ด้านหลังจากออกแบบต่างกันหากเป็นสีฟ้าจะมีลวดลายด้านหลังที่สวยงาม แต่สีที่เหลือจะออกแบบให้เรียบมากขึ้น นอกจากนี้จะมีการติดตั้งกล้องไว้ด้านบนเหมือนกัน พร้อมกับโลโก้ ZEISS* ซึ่งสิ่งที่ต่างคือ X200 Pro จะได้เลนส์ ZEISS APO ที่มีเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า ในขณะรุ่น X200 จะได้เลนส์ ZEISS เกรดปกติ แถมเลนส์จะใหญ่กว่า

น้ำหนัก / การจับถือ

เมื่อจับถือแล้วต้องยอมรับ vivo X200 ปกติจะเบากว่า X200 Pro ค่อนข้างมาก ดังนั้นถ้าใครอยากได้มือถือเน้นความเบา X200 เป็นอีกรุ่นที่เหมาะสมกับคุณ

ภาพ / เสียง

ทั้งคู่ให้หน้าจอที่ความละเอียดเท่ากันดังนั้นการแสดงผลสีของภาพผมถือว่าให้เกรดใกล้เคียงกัน แต่ถ้าต้องออกแดด vivo X200 Pro จะทำได้ดีกว่าเล็กน้อย

ส่วนเรื่องเสียงเนื่องจาำสัดส่วนของลำโพงมีขนาดพอๆ กันดังนั้นในเรื่องการให้พลังเสียงให้เกรดเท่ากัน คือดังทั้งด้านบนและล่างพอๆ กันครับ

ประสิทธิภาพ / การเชื่อมต่อ / การเล่นเกม

ทั้งคู่ใช้ขุมพลัง Dimensity 9400 เป็นอีกมือถือที่ให้ประสิทธิภาพที่โดดเด่นทั้งขนาดเล็ก แต่ Core ประสิทธิภาพรอบนี้ให้ 2 แกนเลยครับ คะแนนที่ออกมาต้องยอมรับว่าเป็นรอง Snapdragon 8 Elite เล็กน้อยเท่านั้น แต่การเล่นเกมทำได้ดี 

ฟีเจอร์การเล่นเกมของ vivo X200 Series มีการแยกระหว่างการปรับประสิทธิภาพและฟีเจอร์ควบคุมทำให้สามารถกดเลือกใช้สะดวกมากขึ้น โดยมีชื่อเรียกว่า Ultra Gaming 2.0 

ส่วนการเชื่อมต่อรองรับทั้ง Wi-Fi 7, 5G, Bluetooth และ GPS ซึ่งได้ทดลองแล้วพบว่าการนำทางของแผนที่ถือว่าไม่ได้ทำได้แย่ครับ สามารถนำทางได้แม่นยำอยู่

แบตเตอรี่ / การใช้พลังงาน

สิ่งที่ vivo X200 Series เปลี่ยนแปลงคือแบตเตอรี่เป็นแบบ Silicon/Carbon (Si/C) ทำให้มีพื้นที่ใส่ปริมาณแบตเตอรี่ได้มากกว่า (ซึ่งมือถือทั้ง HONOR และ OPPO ก็ใช้) ทำให้ vivo X200 จะมีความจุที่ 5800 mAh และ vivo X200 Pro จะได้ความจุ 6000 mAh เมื่อใข้งานจริงต้องยอมรับว่าทั้งคู่ใช้งานได้จบวัน แต่ถ้าใช้กล้องหรือเล่นเกมเยอะ เผื่อเรื่องที่ชาร์จสักหน่อยก็ดีนะ

ส่วนระบบการชาร์จไฟแม้จะลดลงจากรุ่นเดิม แต่ก็ได้กำลังสูงถึง 90W อยู่ ทั้งนี้คู่แต่ X200 Pro จะได้ระบบ Wireless Charge เพิ่มเข้ามา

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ vivo X200 Series

ทั้งคู่มาพร้อมกับ Funtouch OS 15 พื้นฐาน Android 15 โดยสามารถอัปเกรดได้นานสุดที่ 4 ปี ในระบบปฏิบัติการและ และ 5 ปี กับ Patch ความปลอดภัย สำหรับลูกเล่นเด่นของ FunTouch OS 15 มีดังนี้

เร็วแรง ลื่นไหลกว่าเดิม

• เปิดแอปเร็วขึ้น 15%: ด้วยเทคโนโลยี Memory Enhancement และการจัดการทรัพยากรแบบใหม่ ทำให้เปิดแอปได้เร็วขึ้น แม้ใช้งานหนักก็ยังลื่นไหล
• สลับแอปเร็วขึ้น 30%: สลับไปมาระหว่างแอปต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุด

สวยงาม ทันสมัย

• แอนิเมชันแบบใหม่: เอฟเฟกต์แสงเงา สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ
• ไอคอนแอป: ออกแบบใหม่ ดูทันสมัย เข้ากับดีไซน์โดยรวม

อัจฉริยะ ใช้งานง่าย

• AI Image Lab: รวมเครื่องมือแต่งรูปด้วย AI ใช้งานง่าย ได้ภาพสวย
• Ultra Game Mode: ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม ปรับแต่งประสิทธิภาพได้ตามต้องการ
• Live Transcribe: ถอดเสียงแบบเรียลไทม์ สะดวกสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน
• AI Eraser: ลบสิ่งรบกวนในภาพ แก้ไขภาพได้อย่างมืออาชีพ
• การแชร์หน้าจอบางส่วน: เพิ่มความเป็นส่วนตัว แชร์เฉพาะส่วนที่ต้องการ

และอื่นๆ อีกมากมาย

• การเชื่อมต่อดาวเทียม: โทรออก ส่งข้อความ แม้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
• พื้นที่ส่วนตัว: ซ่อนแอป ไฟล์ส่วนตัว มั่นใจในความปลอดภัย

ส่วนเมนูของกล้อง คล้ายกับ vivo ที่ใช้เลนส์ ZEISS แต่จะไปทิศทางเดียวกับ vivo X100 ก่อนหน้านี้ที่ปรับให้การแสดงผลการซูมมีขนาดใหญ่และากรใช้งานคล่องตัวมากกว่าเดิม

ผลงานภาพนิ่ง vivo X200

ผลงานภาพนิ่ง vivo X200 Pro

สรุปหลังได้ทดลองใช้งาน vivo X200 Series

เรื่อว่าจะเลือกตัวไหนก็คุ้มสำหรับ vivo X200 และ vivo X200 Pro ซึ่งมาพร้อมกับเลนส์ ZEISS และยังมีขุมพลัง Dimensity 9400 ที่เน้นความแรง พร้อมกับจุดเด่นเกี่ยวกับการออกแบบตัวเครื่องที่เรียกว่ารุ่นปกติดูดี รุ่น Pro ก็เน้นความโปรสมชื่อ กับราคาของเครื่องดังนี้

• Vivo X200 (RAM 12GB / 256GB) = 29,999 บาท
• Vivo X200 Pro (RAM 16GB / 512GB) = 39,999 บาท

ดังนั้นถ้าใครชอบมือถือเล็กคล่องถ่ายภาพดี X200 เป็นอีกทางเลือกที่ดี และ vivo X200 Pro จะเป็นคนที่อยากได้เสปกที่ดีกว่าและซูมได้นี่เป็นทางเลือกที่ใช่สำหรับคุณครับ

สเปกอย่างเป็นทางการ vivo X200 Series