รีวิว “Samsung Galaxy Z Flip5” มือถือสุดชิกที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าจอนอกใหญ่

Home » รีวิว “Samsung Galaxy Z Flip5” มือถือสุดชิกที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าจอนอกใหญ่
รีวิว “Samsung Galaxy Z Flip5” มือถือสุดชิกที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าจอนอกใหญ่

กลับมาพบกับรีวิวสมาร์ตโฟนและ Gadget จากทีม Sanook Hitech อีกครั้งสำหรับในรอบนี้เราได้รับมือถือสุดชิกอย่าง Samsung Galaxy Z Flip5 รุ่นใหม่สดๆ ร้อนๆ ที่หลายคนรอคอยว่ามันจะมีดีแค่ไหน นอกจากหน้าจอนอกใหญ่จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างไหม เรามาดูกันเลยครับ

batch_p1090450

รายละเอียดของ Samsung Galaxy Z Flip 5

  • ขนาดตัวเครื่อง(เมื่อพับ) 85.1 x 71.9 x 15.1 มิลลิเมตร (เมื่อกาง) 165.1 x 71.9 x 6.9 มิลลิเมตร  
  • น้ำหนัก 187 กรัม  
  • หน้าจอด้านใน DynamicAMOLED 2X 6.7″ 2640 x 1080 พิกเซล (HDR10+) Refresh Rate 120Hz เป็นแบบ Adaptive (1-120Hz)
  • หน้าจอด้านนอก 3.4 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 720×748 พิกเซล
  • กระจกกันรอย : Gorilla Glass Victus 2
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 | GPU Adreno 740
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB   
  • หน่วยความจำภายในความจุ 256 /512GB   
  • การเชื่อมต่อไร้สาย 4G, 5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (Wi-Fi 6E), Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS
  • กล้องดิจิทัลจอด้านในความละเอียด 10 ล้านพิกเซล  รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, 1080 30/60 FPS
  • กล้องดิจิทัลด้านนอกจำนวน 2 ตัว 
    • กล้องตัวหลัก 12 ล้านพิกเซล Dual Pixel F/1.8 มุมกว้าง 83 องศา
    • กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล F/2.2 ให้มุมกว้าง 123 องศา
    • LED Flash
    • วิดีโอ 4K@30/60fps, 1080p@60/240fps, 720p@960fps, HDR10+
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition และ สแกนนิ้วด้านข้าง  
  • แบตเตอรี่ความจุ 3700mAh  
  • ระบบลำโพง Dual Speaker พร้อมกับ Dolby ATMOS
  • รองรับ Fast Charge 25W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0  
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1.1
  • มาตรฐานกันน้ำ IPX8
  • สีที่จำหน่ายคือ : Mint, Graphite, Cream, Lavender และสีที่ขายใน Samsung.com ประกอบด้วย Gray, Blue, Green, Yellow

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Z Flip5

เริ่มต้นกับเมื่อน้องยังไม่ได้กางออกมาจะมีหน้าจอด้านนอกขนาด 3.4 นิ้วความละเอียด 720 x 748 นิ้ว ซึ่งสังเกตจให้ดีว่าทั้งด้านหน้าจะเป็นกระจกทั้งหมด แบบ Gorilla Glass Victus 2 และเป็นทรงรูปทรง Folder แต่คว่ำลง เพราะกล้องจะอยู่ทางมุมล่างขวาอยู่

batch_p1090373

รอบตัวเครื่องเป็นวัสดุอลูมเนียมและมีความบางจากรุ่นเดิมจากที่ได้ให้ดูตอนพรีวิวไปแล้ว โดยฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมการ์ด

batch_p1090375

ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง พร้อมกับปุ่ม Power ที่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ

ส่วนด้านบนจะมีบานพัน พร้อมกับโลโก้ Samsung

batch_p1090381

ส่วนล่างสุดจะมาพร้อมกับไมโครโฟนทั้งหมด 3 จุด, USB-C และลำโพงตัวหลักของเครื่อง

batch_p1090371

batch_p1090555

ด้านหลังจะมีสีตามเครื่องโดยสีที่ได้รับมาคือสี Mint Green โดยสีจะเป็ตไปตามของเครื่องทั้งหมด ภายใสติดตั้ง NFC และระบบ Wireless Charging

batch_p1090379

เปิดฝาเครื่องดีกว่า โดยจะมีส่วนบนของหน้าจอจะมีลำโพงสนทนาและเป็นลำโพงตัวเครื่องอีกตัวได้เช่นเดียวกัน และมารพร้อมกับหน้าจอพับได้ขนาด 6.7 นิ้ว ส่วนล่าสุดของหน้าจอจะมีปุ่มสั่งงาน

batch_p1090383

น้ำหนัก / การจับถือ

batch_p1090398_1

จากการจับถือเรียกได้ว่าเบากว่ารุ่น Galaxy Z Flip4 พอสมควร และยังบางเบาทำให้ถือได้ง่ายมากขึ้น และที่สำคัญคือกางออกง่ายไม่ต้องใช้แรงมากสักเท่าไหร่ และนอกจากนี้ยังมี ที่สำคัญมือถือพับได้ตัวนี้ไม่กลัวน้ำเพราะสามารถกันน้ำได้ในระดับ IPX8 (เท่ากับฝุ่นอาจจะโดนได้แต่ไม่ได้บอกซึ่งคำแนะนำคือยังอยากให้หลีกเลี่ยงอยู่

batch_p1090450

ส่วนสีสันมีให้เลือกทั้งสีเขียว Mint Green, Cream (ออกสีขาว), Lavender, และ Graphite

kv_exclusive_pc

ส่วนสีพิเศษที่สั่งทางออนไลน์จะประกอบด้วย สีเขียว, เหลือง, น้ำเงิน และ เทา จะได้ขอบสีดำด้านเหมือนกัน ความน่ารักของน้องคือ เคสมีให้เลือกเยอะมากมายเลยครับ ก็ลองเลือกใช้กันดูตั้งแต่เคสรูปแบบพื้นฐานไปจนถึงแปะด้านหลังมีการตกแต่งงหน้าจอด้านหน้าผ่าน NFC

Update : ทุกคนคงอยากรู้ว่าบานพับมันแข็งแรงขนาดไหน จากช่อง YouTube แห่งหนึ่งทดสอบการพับแบบมารอทอนกว่า 7 วัน พบว่าสามารถพับได้เกิน 4 แสนครั้ง เรียกว่ารุ่นนี้บานพับแข็งแรงแน่นอน อ่านต่อกดที่นี่

การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง

batch_20230731_180303

สำหรับการแสดงผลของ Samsung Galaxy Z Flip5 นั้นถ้าเป็นด้านนอกจะเป็นแบบ SuperAMOLED ที่สู้แสงได้ดีและรองรับกับระบบทัชสกรีนสัมผัสได้อย่างดี และใช้คล่องตัว แต่ว่าเมื่อเปิดหน้าจอภายในเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X ที่มาพร้อมกับ Refresh Rate 120Hz แต่การสังเกตว่าหน้าจอมีความแข็งแรงขึ้นทำให้สามารถต่อกดเล่นเกมได้ และดูหนังได้ดี แต่ถ้าเอาจอนอกมาดูหนังก็ได้ตามภาพครับ

นอกจากนี้เรื่องที่คุณไม่รู้แน่นอนอคือ USB-C ของมันที่เสียบเป็น 3.0 สามารถออกหน้าจอด้านนอกได้ด้วยผ่านสาย USB-C to HDMI ได้แต่ไม่มีฟีเจอร์ Samsung DEX นะ

batch_p1090371

ส่วนระบบเสียงจะมาพร้อมกับ ลำโพงคู่ทั้งบนและล่างสามารถใช้ Dolby ATMOS ให้เสียงที่จัดเต็มไม่น้อยเลยครับ และยังเสียบ USB-C ออกเป็นช่องเสียบหูฟังได้

ประสิทธิภาพ / ฟีเจอร์ควบคุมการเล่นเกม / ลองใช้ระบบบอกพิกัดนำทาง

 batch_screenshot_20230731_160_1

คะแนน AnTuTu = 1,069,192 คะแนน

คะแนน Geekbench = 1962 คะแนน (Single Core) | 4862 คะแนน (Multi Core)

batch_screenshot_20230731_160_2

คะแนนที่ออกมาเห็นได้ชัดนว่าแรงกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัดว่าการเลือกใช้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 นั้นช่วยให้มีประสิทธิภาพทำได้ดีมากขึ้นรวมถึงการเล่นเกม

batch_screenshot_20230809_220batch_zflip5_game_laun

 

batch_20230728_105524

ส่วนในเรื่องฟีเจอร์การเล่นเกมนั้นก็ยังคงมี Game Launcher และ Game Booster มาให้เลือกใช้งานเช่นเดียวกัน

batch_20230803_092316

ส่วนการเชื่อมต่อจะรองรับทั้ง 5G, 4G, Wi-Fi 6e, Bluetooth 5.3, 5G, GPS และ A-GPS มาให้ในตัวด้วยกัน

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์เด่นภายใน / ระบบความปลอดภัย

batch_zflip5_ui

batch_zflip5_mulit

ด้านระบบปฏิบัติการของ Samsung Galaxy Z Flip5 รวมไปถึง Z Fold5 และ Tab S9 Series จะมาพร้อมกับ One UI 5.1.1 พื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 13 ที่ออกแบบมาเพื่อกับการใช้หน้าจอพับได้และหน้าจอใหญ่ ซึ่งจะมีเทคโนโลยีคือ Flex Mode คือพับหน้าหน้าจอด้านล่างสามารถไว้ใช้ประโยชน์ได้ ส่วนรุ่นอื่นๆ เช่น Z Fold5 จะสามารถใช้งานหน้าหลายโปรแกรมในเวลาเดียวกัน, Tab S9 ก็สามารถเปิดหน้าจอและหน้าต่างได้หลากหลายรูปแบบเป็นต้น

สำหรับรอบนี้จะมาเจาะลึกกับ Galaxy Z Flip5 โดยหน้าจอด้านนอกสามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้เช่น

batch_p1090593

batch_zflip5_out_screen

  • Cover Screen ที่สามารถปรับแต่งนาฬิกาได้หลากหลายรูปแบบทั้ง รูปภาพ, เวลา, หน้าตาที่สามารถเลือกการแจ้งเตือนได้
  • Quick Setting ที่เราสามารถปรับได้ตั้งแด่การเปิด / ปิด Wi-Fi, Bluetooth, ระบบ 5G, อัวิดีโอหน้าจอ, Routine เป็นต้น
  • เลือกฟีเจอร์เพิ่มเติมเช่นแสดงผลปฏิทิน, การนับก้าว, สั่งเปิด Apps ได้
  • และยังมีฟีเจอร์ Good Lock ในฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า MultiStar จะทำให้ Apps ที่อยู่ในจอหลักสามารถเปิดในหน้าจอด้านนอก และยังดึงเกมมาเล่นได้ในบางส่วนเช่นเดียวกัน โดยฟีเจอร์นี้สามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Galaxy Store
  • และยังสามารถเปิดความสามารถเพิ่มจากใน Labs ได้เช่นการพับแค่ครึ่งสามารถใช้เป็น Trackpad ได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยทำให้การใช้งานได้สะดวกเช่น เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, คำสั่งเสียงต่างๆ รวมถึงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของ Samsung Galaxy Eco System เช่น Smart Watch, Tablet และยังสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกันผานได้ทั้ง Galaxy Store หรือ Google Play Store

batch_zflip5_sec

ส่วนระบบความปลอดภัยจะมาพร้อมกับระบบสแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือ แต่ถ้าแนะนำจริงๆ สแกนลายนิ้วมือจะสะดวกกับการใช้งานมากกว่า

เปิดกล้อง Samsung Galaxy Z Flip5 ลองถ่ายภาพ

batch_p1090406

  • กล้องดิจิทัลจอด้านในความละเอียด 10 ล้านพิกเซล  รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, 1080 30/60 FPS

batch_p1090410

  • กล้องดิจิทัลด้านนอกจำนวน 2 ตัว 
    • กล้องตัวหลัก 12 ล้านพิกเซล Dual Pixel F/1.8 มุมกว้าง 83 องศา
    • กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล F/2.2 ให้มุมกว้าง 123 องศา
    • LED Flash
    • วิดีโอ 4K@30/60fps, 1080p@60/240fps, 720p@960fps, HDR10+

ภาพรวมสเปกกล้องไม่ได้มีความแตกต่างจากรุ่นเดิม แต่ว่าทีนี้เวลาใช้งานมีความต่างกันแค่ไหน มาดูกันต่อไป

ฟีเจอร์กล้องสุดเด่นของ Galaxy Z Flip5

batch_zflip5_ph

สำหรับลูกเล่นของกล้อง Samsung Galaxy Z Flip5 ยังคงเหมือนกับมือถือ Samsung ทั่วไปที่ประกอบด้วยโหมดถ่ายภาพที่มี Scene Optimizer ช่วยในการถ่ายภาพ โดยปรับโทนสีให้เหมาะสม ยังมีโหมด Portrait ให้เลือกใช้งาน โดยในสามารถปรับได้หลากหลายรูปแบบ ภาพนิ่งมีการเพิ่มฟิลเตอร์และปรับความ Beauty ได้แถมยังมีการเข้าถึง Pro RAW ได้ด้วย ส่วนกล้องด้านในก็มีลูกเล่นจะไล่ๆ กับกล้องหลัก แต่สิ่งที่มีความต่างของรอบนี้คือหน้าจอด้านนอกสามารถถ่ายภาพได้เช่นเดียวกันและมีลูกเล่นแค่พอประมาณเท่านั้น

batch_zflip5_vdo

ส่วนวิดีโอนั้นในหาดของการถ่ายธรรมดาก็จะมีฟีเจอร์ Steady Shot เพิ่มให้กล้องนิ่งมากขึ้น แต่จริงๆ มี OIS อยู่แล้ว ส่วนโหมด Pro Video ยังปรับได้พอๆ กับ Galaxy S Series ส่วนโหมด Director View, Super Slowmotion, Slowmotion ก็มีให้เลือกใช้งานเช่นเคย

ผลงานจากกล้อง Samsung Galaxy Z Flip5

 (กล้องหน้า)

batch_20230729_123743
batch_20230729_185759
batch_20230729_185803
batch_20230801_102850

(กล้องหลัง)

batch_20230705_220806
batch_20230705_220808
batch_20230705_220810
batch_20230705_220812
batch_20230705_220815

batch_20230731_185800
batch_20230803_184520
batch_20230803_195401

batch_20230731_205453

batch_20230729_122947
batch_20230729_123104
batch_20230729_125912

 

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

zflip5_batt

เรื่องสุดท้ายที่เราจะพูดถึงกันคือ แบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy Z Flip5 จะมีขนาด 3700 mAh เท่าเดิม กับการทดลองใช้งานทั้งแบบใช้งานจริงๆ ทั้งวันพูดเลยว่า ไม่พอ! ต้องมีการชาร์จไฟระหว่างวันอย่างน้อย 1 – 2 รอบขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่ถ้าใช้งานยาวๆ ไปสามารถเปิดหน้าจอนานสุด 3:58 ชั่วโมง ส่วน PC Mark ทำได้ 9:54 ชั่วโมง

screenshot_20230727_221541_de

ส่วนระบบชาร์จไฟของ Samsung Galaxy Z Flip5 รองรับกำลังสูงสุด 25W แบบสาย, ไร้สายกำลัง 15W แถมจ่ายไฟให้อุปกรณ์เสริมผ่าน Wireless Reverse Power Share

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้ Samsung Galaxy Z Flip5 มาสักพักหนึ่ง

 

Samsung Galaxy Z Flip5 เป็นมือถือพับได้ทรงตลับแป้งที่เปลี่ยนแปลงเยอะอีกครั้งแม้ว่าจะไม่ได้เห็นจากสเปกแต่การเปลี่ยนหน้าจอด้านนอกที่ทำให้สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์มากขึ้นก็ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการอย่างมากเลยทีเดียว แม้อาจจะแลกกับกล้องที่ไม่ได้เปลี่ยนแต่ปรับจูน Software ดีขึ้น และยังมาพร้อมกับขุมพลังตัวแรงอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 ถือว่าลงตัว

batch_p1090410

แต่อย่างไรก็ตามราคาเปิดตัวนั้นก็อาจจะทำให้หลายคนถอนหายใจว่าสูง นั่นคือ 39,900 – 45,900 บาท แต่อย่าลืม!!! มันเริ่มต้นที่ 256GB นะครับ ซึ่งได้ความจำเยอะขึ้น แต่จริงเพิ่มแค่ 1,000 บาท สำหรับคนที่ต้องการมือถือพับได้และนำเทรนด์เรื่องนี้ ผมว่าน่าสนใจ แต่ถ้าความต้องการด้านอื่นเยอะกว่า Samsung ก็มีทางเลือกทั้ง S23 ที่ได้กล้องจบ, Z Fold5 ที่รวมร่างระหว่าง Tablet และมือถือ หรือ Tab S9 ที่จบในการทำงาน ก็ลองเลือกตามใจคุณได้ครับ

ข้อเด่น

  • ตัวเครื่องพกง่ายขึ้น บางและเรียบเสมอกัน
  • หน้าจอใหญ่สุดอเนกประสงค์
  • ขุมพลังแรงไว้ใจได้
  • กล้องแม้ไม่ปรับแต่ถ่ายภาพคมขึ้น
  • สีสันให้เลือกเยอะมากขึ้น

ข้อสังเกต

  • ราคาอาจจะพาคุณคิดหนัก
  • แบตเตอรี่ขนาดไม่ใหญ่อาจจะทำให้ไม่สะใจเวลาเล่นเกม
  • แม้เป็นขุมพลังที่จัดการความร้อนดีแต่ตัวเครื่องเล็กอาจจะร้อนง่ายถ้าเล่นเกมนาน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ