กลับมาพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech อีกครั้ง รอบนี้เรามาพูดถึง ROG Ally X กันครับ เพราะเป็นอุปกรณ์พกพารุ่นหนึ่งที่ออกมาปรับโฉมที่แก้จากรุ่นที่แล้ว เห็นว่ามันน่าสนใจแค่ไหน เรามาดูกันครับ
สเปกของ ROG Ally X
สเปก |
ROG Ally X |
มิติตัวเครื่อง |
28.0 x 11.1 x 2.47 ~ 3.69 เซนติเมตร |
น้ำหนัก |
678 กรัม |
หน้าจอ |
ขนาด 7 นิ้ว IPS-LCD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD) สี sRGB 100%, รองรับ Touch Screen, Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 500 nits รองรับ Touch Screen |
ขุมพลัง |
AMD Ryzen™ Z1 Extreme Processor (“Zen4” architecture with 4nm process, 8-core /16-threads, 24MB total cache, up to 5.10 Ghz boost) |
กราฟิกการ์ด |
AMD Radeon สถาปัตยกรรม RDNA 3 |
RAM |
24GB (12GB x 2) LPDDR5x |
พื้นที่ความจำ |
1TB M.2 NVMe™ PCIe® 2280 4.0 SSD |
การเชื่อมต่อไร้สาย |
Wi-Fi 6E 802.11AX (Dual band) + Bluetooth v5.2 |
พอร์ต |
1x 3.5mm Combo Audio Jack1x USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort™ / power delivery 1x Type C support USB 4 (Thunderbolt™ 4 compliance, DisplayPort™ 1.4 with Freesync support, Power Delivery 3.0) 1x UHS-II microSD card reader (supports SD, SDXC and SDHC) |
กล้อง |
ไม่มีกล้อง |
ลำโพง |
ลำโพง 2 จุด รองรับ Dolby Audio |
ไมโครโฟน |
เป็นแบบ Array Microphone 2 จุด |
ปุ่มควบคุม |
วางตำแหน่งปุ่มคล้ายกับจอยของ X Box Controller |
ระบบปฎิบัติการ |
Windows 11 |
แบตเตอรี่ |
4 CELL ขนาด 80Wh |
Adapter |
AC Adapter กำลังสูงสุด 65W |
สีสัน |
ดำ |
จุดเด่น / ข้อสังเกต
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
ขนาดตัวเครื่องเท่าเดิมแต่จับได้ดี | ราคาแพงมากขึ้น |
ปุ่มกดที่ออกแบบให้กดได้ง่าย | น้ำหนักมากกว่าเดิม |
มีช่อง USB-C เพิ่มขึ้น | ตัวที่ชาร์จเหมือนเดิม |
สีดำใหม่ดูเข้ม | |
แบตเตอรี่อึดขึ้น |
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ ROG Ally X
เรามาดูที่ดีไซน์ของเครื่องกันก่อนดีกว่าสำหรับ ROG Ally X มีการปรับปรุงจากเดิมพอสมควร แต่หน้าจอของรุ่นนี้ยังคงได้ขนาด 7 นิ้วแบบ IPS-LCD รองรับทัชสกรีนทั้งหมด 10 จุดด้วยกัน แต่สิ่งที่ดีไซน์ต่างจาก ROG Ally ที่สังเกตจากด้านหน้ามีดังนี้
- ตำแหน่งปุ่มควบคุมทั้งฝั่งซ้ายและขวามือลดลงมา
- ตัวเรื่องจะหนาขึ้นจากเดิม โดยของเดิมหนาที่ 2.12 เซนติเมตร แต่ของใหม่จะหนาขึ้นนับจากจุดบางสุด 2.47 เซนติเมตร
- แต่ตำแหน่งของลำโพงยังอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือขนาดของช่องใหญ่ขึ้นให้เสียงดังมากขึ้น
แต่ส่วนที่เหลือที่ไม่ได้กล่าวมายังคงอยู่ตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมทุกประการ ทำให้สามารถควบคุมได้ง่ายมากขึ้น
ด้านบนนอกจากปุ่ม RT, RB, LT, LB ยังมีการใส่ระบบระบายความร้อนด้านใต้ที่หนามากขึ้น พร้อมกับพอร์ตเป็น USB-C ทั้งหมด 2 ช่องวางไว้มุมซ้าย, ช่องเสียบการ์ด MicroSD, ช่องเสียบหูฟัง, ปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงย้ายมาตรงกลางและมีไฟสถานะพร้อมปุ่ม Power ที่จัดวางให้สามารถกดเปิดตัวเครื่องได้ง่าย
พลิกมาด้านหลังมีการลดขนาดปุ่ม M1 และ M2 ไวทาด้านใน และทำให้ช่องระบายอากาศใหญ่และชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีลวดลายที่สวยงามตามสไตล์ ROG พร้อมกับน็อตที่สามารถถอดมาปรับแต่งได้
การจับถือ
ROG Ally X มีน้ำหนักที่มากขึ้นกว่าเดิมแต่ด้วยความที่ออกแบบให้ลงตัวทำให้การถือเครื่องเล่นเกที่หนัก 678 กรัม เป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมากเลยครับ
ประสิทธิภาพ / การเชื่อมต่อ / ระบายความร้อน
ถึงแม้ว่าสเปกของ ROG Ally X ไม่ได้เปลี่ยน CPU แต่จากการที่ทดลองออกมาพบว่าการที่เปลี่ยนระบฃบายความร้อนใหม่ทำให้ช่วยให้การทำงานของเครื่องนั้นเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ ในเรื่อง SSD เปลี่ยนเป็นแบบ มาตรฐาน SSD M.2 2280 ให้ความเร็วสูง และรุ่นนี้จะแตกต่างจาก ROG Ally X นั้นคือ ไม่มีช่องเสียบ XG Mobile ได้อีกต่อไป แต่ถ้าคุณเสียบปลั๊กและเล่นในโหมด Turbo ก็เพียงพอแล้ว
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
อีกเรื่องของ ROG Ally X จะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือกำลัง 80W เพิ่มจากเดิมมากกว่าเดิม 50% ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น จากเดิมเปิด Turbo Mode สามารถเล่นเกมได้ 1:30 ชั่วโมง เพิ่มเป็น 3:20 ชั่วโมง โดยเกมทดสอบนั้นคือ Forza Horizon 5
ส่วนระบบชาร์จไฟของ ROG Ally X จะมาพร้อมกับกำลังชาร์จไฟ 65W เท่าเดิม
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย
ROG Ally X ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 เหมือนเดิม การควบคุมเอาเป็นว่าถ้าไม่ต่อ Mouse หรือ Keyboard จะต้องใช้นิ้วในการสั่งงาน หรือจะใช้ Controller ฝั่งขวาในการควบคุมเป็นเมาส์และกดลงไปคือการกดซ้ายค้างไว้ แต่การกดปุ่มขวามือจะต้องใช้ปุ่ม Controller ในการเล่นเกม สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ การได้ Armony Crate SE ที่แปลงร่างจากหน้าจอ Windows ธรรมดาให้เป็นเครื่องเล่นเกมได้
Armony Crate SE
ศูนย์รวมแหล่งเล่นเกมที่สามารถแยกความสามารถได้ทั้งหมด 2 เรื่องผ่าน 3 หน้าต่างได้แก่
เกม : จะแสดงผลเกมที่คุณติดตั้งมา นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ให้คุณติดตั้งเกมได้ผ่าน Steam, Xbox Game Pass, Epic, GOG และอื่นๆ มาแบบครบครันเลยครับ
การควบคุม / การตั้งค่า : ส่วนนี้จะมีการปรับแต่งแบบครบครันประกอบด้วย
- Control Mode สามารถเลือกจะตั้งค่าปุ่มควบคุมการเล่นเกมได้ด้วย หรือจะเป็น Windows เพื่อให้รู้ถึงการควบคุมได้ว่าแต่ละปุ่มกดอะไร
- Command Center เราสามารถกดให้ปุ่มต่างๆ ขึ้นมาให้เรากดได้ แต่ทั้งนี้เราสามารถเลือกได้ ทำได้ตั้งแต่
- ปรับประสิทธิภาพ
- การปรับ Game Visual
- AMD RIS ปรับให้ภาพละเอียด / AMD RSR เพิ่มความละเอียด
- ปรับ จำกัด FPS
- ปุ่ม Control Mode
- การตั้งค่าอื่นๆ ที่มาแบบครบครันได้แก่
- Operation Mode สามารถเลือกรูปแบบ Mode
- GameVisual สามารถปรับในเรื่องของ Scene ให้สามารถใช้งานกับเกม
- ปรับสีของไฟจะอยู่ที่ Controller (Lighting)
- Connection ปรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth
- Audio ปรับระดับเสียงที่สามารถเลือกคุณภาพเสียงได้ ลดเสียงรบกวน และปรับไมโครโฟนได้
- Aura Sync ปรับสี Profile ตามเครื่องของเราได้ทันที
- Gyro / Haptic Feed Back : ในตัว ROG Ally มีระบบการแจ้งเตือนการสั่นระหว่างทั้งซ้ายและขวาปรับแยกอิสระในเกมได้ด้วยผ่าน Armoury Crate SE ได้และรวมไปถึง Gyro ที่สามารถเคลื่อนไหวหมุนหรือโยกได้ด้วยและปรับความอ่อนไหวได้เช่นเดียวกัน
และอีกหน้าที่จะไม่กล่าวไม่ได้เพราะมันมี Community ที่คอยดูแลและเสิร์ฟข่าวสารให้คุณได้อยู่ตลอดเวลา ส่วนปุ่มควบคุมของ Marco นั้นจะเป็นยังสามารถสั่งงานได้เหมือนกับ Ally รุ่นเดิม
สรุปหลังจาก ROG Ally X ได้ทดลองใช้งาน
เรามาสรุปกันดีกว่า ROG Ally X เป็นเครื่องเล่นเกมระบบปฏิบัติการ Windows ที่มีการปรับโฉมเพื่อทำให้คนที่ไม่ชอบรุ่นเดิมที่จับไม่ถนัด, แบตเตอรี่ที่หมดไว และ ปุ่มกดไม่ถนัดเนื่องจากสูงเกินไปโดยเฉพาะฝั่งขวาที่ใกล้กับ Controller มากเกินไป การปรับปรุงครั้งนี้ทำให้ตัวเครื่องหนักขึ้น แต่จับได้ถนัดมือกว่ารุ่นเดิมก็ตาม
ราคาของ ROG Ally X
สำหรับราคาของ ROG Ally X จะอยู่ที่ 29,990 บาท เท่ากับแพงขึ้นกว่าเดิม 6,000 บาท (นับจากราคาเปิดตัว)