ภายหลังจากที่ ได้รีวิวมือถือ Redmi Note 13 Series จริงๆ แล้วยังมีอีก 2 Gadget ที่เปิดตัวในงานนี้ โดยบทความรีวิวนี้พาคุณมาพบกับ Redmi Watch 4 ใหม่ล่าสุดกันก่อน โดยรุ่นนี้มีดีที่จอใหญ่แต่จริงๆ มันน่าสนใจอยู่เยอะ จะเป็นด้านไหนเรามาดูกัน
รายละเอียดสเปกของ Redmi Watch 4
- ขนาด : 47.6 x 41.1 x 10.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 31.5 กรัม
- วัสดุ : อลูมิเนียม
- หน้าจอ : ขนาด 97 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 390 x 450 พิกเซล
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth, GPS 5 ระบบ (GPS/GLONASS/Galileo/QZSS/Beidou)
- เซ็นเซอร์ : วัด Heart Rate Sensor ที่สามารถวัดการนอน, ระดับ Oxygen ในเลือด, เข็มทิศ
- มาตรฐานกันน้ำ : 5ATM
- แบตเตอรี่ใช้ได้ 20 วัน
เปิดกล่อง Redmi Watch 4
- ตัวเรือน Redmi Watch 4
- สายชาร์จไฟ
- คู่มือการใช้งาน
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Redmi Watch 4
เรามาเริ่มต้นกับหน้าตาของ Redmi Watch 4 รอบนี้มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่มากถึง 1.97 นิ้ว ถ้านัดว่าเป็นหน้าจอเหลี่ยนถือว่าใหญ่ที่สุดแล้ว และหน้าจอเป็นแบบคมชัดตามสไตล์ AMOLED ความละเอียด 390 x 450 พิกเซล สู้แสงได้ดี แต่ก็มี Sensor วัดแสงในตัว
รอบตัวเรือนทำจาก อะลูมิเนียมอัลลอยด์ (aluminum alloy middle frame) สั่งงานผ่านเม็ดมะยมด้านล่าง ที่สามารถหมุนได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีลำโพงอยู่ด้านล่างฝั่งขวาและมีไมโครโฟนในตัว
พลิกมาด้านล่างจะมีเซนเซอร์วัดชีพจรแบบใหม่ PPG 4 ช่องด้วยกัน และยังมีปุ่มสำหรับถอดสายนาฬิกาเพื่อเปลี่ยนได้ในอนาคต
สำหรับสายนาฬิกา คือเวลาสวมใส่เราต้องทาบกับแขนให้พอดีแล้วกดลงไป ซึ่งแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไป ข้อดีคือมันแน่นเมื่อใส่พอดี แต่ก็มีจุดอ่อนคือ การใส่นั้นทำได้ค่อนข้างยากและเสี่ยงที่จะหลุดได้ง่าย
น้ำหนัก / การสวมใส่ / กันน้ำไหม
เห็นหน้าจอใหญ่แบบนี้น้ำหนักของมันอยู่ที่ 31.5 กรัม อาจจะไม่ได้เบาที่สุดแต่ว่าแลกกับการมองเห็นหน้าจอที่ชัดเจนมากขึ้น แต่อาจจะแปลกๆ สำหรับคุณผู้หญิงที่หน้าปัดมันดูใหญ่ไปนิด จะไม่เหมาะกับคนแขนเล็กเท่าไหร่ ทั้งนี้กันน้ำในแบบ 5ATM หรือคิดง่ายๆ คือลงน้ำได้ แต่อย่าลืมขึ้นจากน้ำ กดโหมดให้ลำโพงได้นำน้ำออกจากช่องด้วยนะครับ
สายเปลี่ยนได้ไหม
มาถึงเรื่องสายนั้นเดิมทีจะมีให้เลือกแค่ Silver Grey และ Obsidian Black และมีสายที่เข้ากัน โดยสายนั้นเราสามารถเปลี่ยนสีได้ แต่ต้องซื้อเพิ่มเช่นสี Pastel Purple, Dark Cyan และ Mint Green เป็นต้น
ฟีเจอร์ทั่วไป
สำหรับฟีเจอร์โดดเด่นของ Redmi Watch 4 นั้นก็จะมาพร้อมกับการสั่งงานแบบเม็ดมะยมที่สามารถหมุนเพ่อลื่นขึ้นและลงได้ โดยระบบปฏิบัติการเป็นของ Xiaomi โดยตรง ที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน Application ที่มีชื่อว่า Mi Fitness โดยความสามารถทั่วไปทำได้ตั้งแต่
- สามารถดูการแจ้งเตือน
- ดูเข็มทิศผ่านเครื่อง
- ตั้งเวลาปลุก
- ตั้งสิ่งที่ต้องทำ
- ดูสภาพอากาศ
- ดูข้อมูลออกกำลังกายย้อนหลัง
- สามารถโทรผ่าน Bluetooth ได้
- เป็นปุ่ม Shutter สำหรับมือถือได้ แทบทุกยี่ห้อ
- เปิดหน้าจอแบบ Always On Display
และยังสามารถควบคุมได้ผ่าน Application Mi Fitness สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าและเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาได้หลากหลายเช่นเคย
ฟีเจอร์สุขภาพ
รอบนี้ Redmi Watch 4 มีการปรับปรุงเรื่องการดูแลสุขภาพที่จัดเต็มมากขึ้นกว่าเดิมนอกจาที่บอกว่าเปลี่ยนเซนเซอร์แบบ PPG4 ที่ทำให้วัดหัวใจได้แม่นยำขึ้น ยังสามารถใช้ออกกำลังกายได้ 150 รูปแบบพร้อมกับมีระบบ GPS แบบ GNSS ที่ทำให้เกิดความแม่นยำในการบอกพิกัดและเส้นทางในการออกกำลังกาย
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
อีกจุดเด่นหนึ่งของ Redmi Watch 4 คืออายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยเคลมว่าสามารถใช้งานได้นานสุด 20 วันเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็น Always On Display ก็จะอยู่ได้สั้นลงครับ
ส่วนระบบชาร์จเป็นแบบสายเท่านั้น หัวชาร์จคุ้นเคยเพราะสามารถใช้กับนาฬิกาของค่ายนี้เป็นจำนวนมากอยู่ครับ
สรุปหลังได้ทดลองใช้ Redmi Watch 4 มาสักพักหนึ่ง
ถือว่าเป็น Smart Watch รุ่นใหม่ที่มีฟีเจอร์ครบครัน ยกระดับการออกแบบให้มีความแข็งแรงลงน้ำได้ลุยได้และยังมีการสั่งงานผ่านเม็ดมะยมที่หมุนได้ ช่วยให้เกิดความสะดวก อาจจะมีข้อสังเกตเรื่องสายที่ยังใส่ยากไปหน่อย ต้องใช้เวลาปรับให้ชิน
ราคาของ Redmi Watch 4
Redmi Watch 4 พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ววันนี้ในราคา 3,690 บาท สามารถหาซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
จุดเด่น
- วัสดุดีมากเหมือนนาฬิการาคาแพง
- เปลี่ยนสายได้
- ความเร็วการทำงานดี
- ฟีเจอร์ออกำลังกายครบ ดูแลสุขภาพได้ 24 ชั่วโมง
- แบตเตอรี่อึดใช้ได้นาน
ข้อสังเกต
- สายชาร์จเป็นแบบเฉพาะ
- สายนาฬิกาออกแบบให้ใส่ยากต้องปรับตัวเยอะ
- ตัวเรือนค่อนข้างใหญ่ไม่เหมาะกับคนแขนเล็ก