นอกจากมือถือ Redmi Note 10 5G ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ คราวนี้เรามาดูกันอีกรุ่นอย่าง Redmi Note 10S จะมีความแตกต่างอย่างไรและน่าสนใจแค่ไหน เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไร มาดูกันเลย
แกะกล่อง Redmi Note 10S
- ตัวเครื่อง Redmi Note 10S
- สายชาร์จแบบ Quick Charge USB-C to USB-A
- Adapter กำลัง 33W
- เคสใส่
- คู่มือ / ใบรับประกัน
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Redmi Note 10S
เริ่มต้นกับดีไซน์ของ Redmi Note 10S พูดเลยว่าดีไซน์ทั้งหมดเหมือนกับ Redmi Note 10 ที่ได้ทดลองไปก่อนหน้านี้ตั้งแต่หน้าจอขนาด 6.43 นิ้ว แบบ SuperAMOLED พร้อมกับความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล และมีกล้องตรงกลางแบบ Dots Display
ส่วนบนของหน้าจอเป็นแบบ Dots Display ไม่มีขอบและติ่งให้กวนใจ แต่มีลำโพงตัวเครื่องมาให้แบบครบเครื่องเลยครับ และจำมีลำโพงสำหรับฟังสายสนทนา หรือ Ear Peach
ส่วนล่างจะเป็นปุ่มควบคุมของระบบ Android เบื้องต้นจะเป็นค่า การนำทางแบบปุ่ม แต่สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Home Screen (หน้าจอหลัก) > Navigation การนำทาง สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ
- ปุ่ม
- การปัดด้วยท่าทาง
นอกจากนี้ยังมีการทำปุ่มลัดและการปิดใช้งานปุ่มลัดอัตโนมัติอีกด้วย
รอบตัวเครื่องจะเป็นวัสดุเงาขึ้นรูปที่สวยงามประกอบไปด้วยฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot สามารถใส่ซิมกได้พร้อมกัน 2 ช่องแบบ Nano SIM และ MicroSD
ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power สำหรับไว้กดปิดเท่านั้น และส่วนนี้จะเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างด้วยครับ
ส่วนบนมาพร้อมกับลำโพงตัวที่ 2, ไมโครโฟน, IR Blaster สำหรับใช้ร่วมกับ Application Mi Remote
ส่วนล่างยังคงมาพร้อมกับ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พร้อมกับ USB-C, ไมโครโฟนหลัก และลำโพงตัวหลักที่มีขนาดใหญ่
พลิกมาด้านหลัง จะมาพร้อมกับผิวสัมผัสที่มันวาวเงางามโดยเฉพาะสีที่ทีมได้รับมาอย่าง Onxy Gray ซึ่งให้รายละเอียดของสีและการสะท้อนทำได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีกล้องอยู่ทางด้านบนที่จัดว่าออกแบบสวยงามอย่างมากเลยครับ
ภาพรวมการออกแบบ
ภาพรวมของมือถือรุ่นนี้เหมือนกับ Redmi Note 10 ทุกประการถือว่าเป็นมือถือรุ่นใหม่ แต่การตกแต่งกล้องจะสวยกว่า ถ้าใครชอบความหรูหรา นี่เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
เปิดเครื่องทดลองใช้งาน Redmi Note 10S
รายละเอียดสเปกของ Redmi Note 10S
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) 160.5 x 74.5 x 8.3 มม.
- น้ำหนัก: 178.8 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : IP53
- หน้าจอ: Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล Refresh Rate 60Hz
- ชิปเซ็ต Mediatek Helio G95 Octa-core | GPU Mali G76 MC4
- แรม : 6 GB (เครื่องจำหน่ายจริงจะเป็น RAM 8GB)
- ความจำภายใน : 128GB
- ความจำภายนอก : MicroSD
- การเชื่อมต่อไร้สาย : 4G LTE, WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 + MIUI 12.5
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 4 ตัว :
- กล้องหลัก 1 ล้านพิกเซล (f/1.7) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2, Ultra-Wide)
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Macro Lens)
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Detph Sensor)
- LED Flash
- กล้องหน้า:13 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี : 5000 mAh + Fast Charge 33W
- ช่องเสียบ ช่องเสียบ USB-C และ หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- สี : Deep Sea Blue (Ocean Blue), Shadow Black (Onyx Gray), (Frost White) Pebble White
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Redmi Note 10S
ผลการทดสอบประสิทธิภาพจาก AnTuTu =
ผลการทดสอบประสิทธิภาพจาก Geekbench 5 =
แม้ว่าหน้าตาของ Redmi Note 10S จะเหมือนกับ Redmi Note 10 แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างกันคือขุมพลังที่แรงกว่าแบบชัดเจนทำให้เวลาเล่นเกมทำได้ดีไม่น้อยเลยครับ ถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่น่าสน และยังมี Mi Game Turbo ที่ไว้จัดการเรื่องของการแจ้งเตือนได้ด้วย
การเชื่อมต่อไร้สาย / ระบบนำทาง
มือถือรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อแค่ 4G, Wi-Fi AC, Bluetooth 5.1 และสามารถใช้นำทางได้อย่างสบายๆ เช่นเดียวกันเลยครับ การตอบสนองถือว่าทำได้ดีเลยครับ
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง
การแสดงผลภาพของ Redmi Note 10S มีการแสดงผล Super AMOLED และยังมาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง Full HD และมี Refresh Rate 60 Hz และยังมี ฟีเจอร์เกี่ยวกับลดแสงสีฟ้าด้วยครับ
ส่วนระบบเสียงอขเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงคู่ด้านบนและล่างมาหแบบครบเครื่องเช่นเคย
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ระบบความปลอดภัย
จุดเด่นของระบบปฏิบัติการมาพร้อมกับ Android 11 และมาพร้อมกับ MIUI 12.5 รุ่นใหม่ มีความโดดเด่นในเรื่องของความเบาและสามารถตอบสนองได้รวดเร็วมาก และนอกจากนี้ยังมีการลบโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออกจนทำให้มีความเบาในตัวระบบปฏิบัติการ แต่ยังคงมีฟีเจอร์แบ่ง 2 หน้าจอ และ Popup แบบลอยอยู่
ฟีเจอร์หลักๆ ของ Redmi Note 10S จะมาพร้อมกับลูกเล่นครบในแบบฉบับของ Xiaomi ยังเน้นเรื่องของการใช้งานจริงเช่น เครื่องอัดเสียง, เครื่องอัดภาพหน้าจอ, Mi Remote ไว้สำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องคิดเลข และ Application ของ Google หากไม่พอ สามารถโหลดเพิ่มด้วย Google Play Store
นอกจากนี้ระบบความปลอดภัยในการเข้าเครื่องมี 2 ระบบคือ ระบบสแกนใบหน้า โดยใช้กล้องหน้า และ ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง และยังมีโหมดการซ่อน Apps หรือ รูปที่ไม่ต้องการเปิดเผยภายในเครื่องเป็นชั้นที่ 2 ได้
เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย Redmi Note 10S ประกอบด้วย
- กล้องหลัง 4 ตัว :
- กล้องหลัก 1 ล้านพิกเซล (f/1.7) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2, Ultra-Wide)
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Macro Lens)
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Detph Sensor)
- LED Flash
- กล้องหน้า:13 ล้านพิกเซล
ฟีเจอร์ของกล้อง Redmi Note 10S
แม้ว่าสเปกกล้องจะมีการอัปเดตที่เลนส์หลักก็จริงแต่ว่าเมื่อใช้งานฟีเจอร์กล้องต่างๆ พบว่ายังคงเหมือนกับ Xiaomi ทั่วไปโดยสามารถซูมได้ทั้งมุมกว้าง Ultra Wide, และสามารถซูมได้สูงสุด 10 เท่าในแบบภาพนิ่ง และยังมี AI ที่ปรับ Scene ในการถ่ายภาพมาให้เลือกใช้อีกด้วย ส่วนการละลายหลังรุ่นนี้ถือว่าดีเหมือนกัน
นอกจากในเรื่องของการถ่ายภาพนิ่งที่ดีแล้วการถ่ายวิดีโอของกล้องรุ่นนี้ก็ทำได้สุดเช่นเดียวกันครับ โดยกล้องรุ่นนี้รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K 30 FPS และ FHD ได้แบบ 60 FPS แถมยังถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion และ Timelapse เช่นเดียวกับมือถือทั่วไป
ภาพจากการทดลองถ่ายจาก Redmi Note 10S
สภาพแสงปกติ / ภาพกลางวัน
สภาพแสงน้อย / ภาพกลางคืน
ภาพรูปแบบอื่นๆ
ลองใช้กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซลของ Redmi Note 10S
มาถึงกล้องหน้าของ Redmi Note 10S มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ถือว่าให้คุณภาพที่ดีและยังรองรับการถ่ายภาพผ่านโหมดแสงน้อยได้แต่ไม่สามารถถ่ายด้วย Night Mode ได้ และยังมีลูกเล่นเช่นการปรับความฟรุ้งฟริ้ง และ ฟิลเตอร์ได้อีกด้วยครับ ทำให้กล้องรุ่นนี้ตอบโจทย์การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าแบบครบเครื่อง
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ของ Redmi Note 10S จะมีขนาดเท่ากัน แต่เมื่อทดลองประสิทธิภาพแบตเตอรี่ด้วย PCMark ทำได้ราวๆ 14 ชั่วโมง น้อยกว่า Redmi Note 10 เล็กน้อยแต่ก็ยังใช้งานได้ยาวนานพอๆ กัน
ส่วนระบบการชาร์จไฟก็ยังคงให้กำลัง 33W เหมือนเดิม พร้อมกับที่ชาร์จที่เป็นกำลัง 33W เช่นเดียวกัน แต่ว่ายังไม่ได้รองรับ GaN Charge มาให้
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้งาน Redmi Note 10S มาสักระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากที่ได้ทดลองมานั้นก็พบว่า Redmi Note 10S เป็นร่างอัปเกรดของ Redmi Note 10 นั่นเองที่จะได้สเปกกล้องที่เหนือกว่า ขุมพลังที่เหมาะกับการเล่นเกม แต่ว่าอาจจะไม่ได้ประหยัดไฟเท่า แต่ความหงุดหงิดในเรื่องของ Interface ลดลงแบบเห็นได้ชัดอย่างมาก
ส่วนราคาของ Redmi Note 10S อยู่ที่ 7,499 บาท (RAM 8GB / ROM 128GB) ถือว่าขยับให้แตกต่างมากขึ้นและเน้นกลุ่มที่ต้องการมือถือที่มีกล้องความละเอียดสูงจริงๆ และนี่ก็เป็นอีกรุ่นคุ้มค่าที่น่าสนใจหากเงินไม่ถึง Redmi Note 10 Pro
จุดเด่น
- บอดี้การออกแบบสวยและดูดี
- สเปกอัปเกรดให้แรงขึ้นกว่าเดิม
- ระบบชาร์จไฟไว
- ระบบปฏิบัติการใหม่เน้นความลื่นไหลมากขึ้น
ข้อสังเกต
- ช่องความแตกต่างของ Redmi Note 10 น้อยไปหน่อย
- ไม่รองรับ 5G