หากคุณกำลังมองหาหูฟังรุ่นหนึ่งที่จะต้องรองรับเทคโนโลยีเสียงที่ดี ถ้าปรับแต่งเสียงก็ควรจะมี, ไว้คุยสายก็ได้ และต้องมีระบบ ANC ที่ฉลาด แต่ในงบไม่ถึง 3,000 บาท พอจะมีให้เลือกหรือไม่นะ วันนี้คำตอบมาแล้วกับ Redmi Buds 5 Pro ที่ทีม Sanook Hitech จะรีวิวให้คุณได้ดูกันครับ
รายละเอียดสเปกของ Redmi Buds 5 Pro
- ขนาดหูฟัง: 6.5 มม. (สูง) × 6.5 มม. (กว้าง) × 29.7 มม. (ลึก)
- ขนาดกล่องชาร์จ: 61 มม. (สูง) × 46.8 มม. (กว้าง) × 25 มม. (ลึก)
- ตัวหูฟังหนักข้างละ 5.6 กรัม
- กล่องชาร์จ: 42.8 กรัม
- ขนาดของ Driver : 10 มิลลิเมตร
- เซนเซอร์: VPU sensor/IMU sensor/Hall sensor/CAP sensor
- ฟีเจอร์พิเศษ
- เทคโนโลยี Bluetooth Low Energy
- Hybrid ANC ประสิทธิภาพสูง 52dB/4kHz
- ไมโครโฟนทืรศัพท์สามารถลดด้วย AI และ 3 Mic
- รองรับระบบเสียง Hi-Res และ Coaxial Dual Driver, LDAC
- ความจุของแบตเตอรี่ หูฟัง: 54 mAh
- กล่องชาร์จ: 480 mAh
- การชาร์จแบบมีสาย: USB-C, ไร้สาย: สูงสุด 2 วัตต์
- กันฝุ่นและน้ำระดับ IP54 ที่หูฟัง
- สีสัน : ขาว (Midnight White), ดำ (Midnight Black), ม่วง (Aurora Purple)
แกะกล่อง Redmi Buds 5 Pro
- กล่อง / หูฟัง Redmi Buds 5 Pro
- สายชาร์จไฟ
- จุกเปลี่ยนขนาดทั้ง S, M, L
- คู่มือการใช้งาน
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Redmi Buds 5 Pro
การออกแบบกล่องเก็บของ Redmi Buds 5 Pro รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นดีไซน์เรียบหรู ซึ่งที่ได้มาทดลองรีวิวเป็นสี Aurora Purple ที่โดดเด่นคือขีดตรงกลางระหว่างฝาปิด เป็นที่อยู่ของไฟสถานะ ถ้าเปิดขึ้นมาแล้วติดแสดงว่าหูฟังมีไฟอยู่ครับ พลิกมาด้านหลังจะมีข้อความ “Redmi ”
ด้านล่างจะมีช่องเสียบ USB-C พร้อมปุ่มกดเพื่อ Pairing กับอุปกรณ์อื่นๆ ส่วนด้านขา้งปล่อยเรียบไม่มีอะไร
ส่วนฝาปิดนั้นจะออกแบบที่สวยงาม และสามารถเปิดพลิกแล้วดึงหูฟังออกได้
ที่ตัวหูฟัง Redmi Buds 5 Pro
จะเป็นแบบ In-Ear ที่คุณสมบัติที่โดดเด่น โดยมีจุกให้เปลี่ยนได้ทั้งหมด 3 ขนาด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวต่อข้างตำแหน่งจะอยู่ทั้งด้านบน, ด้านล่าง และมีชิ้นที่อยู่ภายใน และมีปุ่มควบคุมอยู่ด้านข้าง ทั้ง 2 ข้างโดยสามารถแต่สั่งงานได้ง่ายมาก
ขนาด Driver รุ่นนี้เป็นแบบ Coaxial Dual Driver ที่จะให้เสียงคมชัด ชัดเจนผ่าน woofer เคลือบไทเทเนียม 11 มม. (11mm titanium-plated woofer) และ piezoelectric ceramic tweeter 10 มม. (10mm piezoelectric ceramic tweeter) เรียกว่าใหญ่มากในระดับเดียวกัน
นอกจากนี้ยังกันน้ำตามาตรฐาน IP54 คือทนเหงื่อได้ แต่กล่องไม่ได้กันน้ำนะครับ
การสั่งงาน
หูฟัง Redmi Buds 5 Pro สามารถแตะสั่งงานที่ด้านสันที่หันออกมาด้านนอกเท่านั้น โดยเราสามารถแตะได้ทั้งหมด ดังนี้
- แตะ 1 ครั้ง = รับสาย / วางสาย, เปิดเพลง / หยุดเพลง
- แตะ 2 ครั้ง = เปลี่ยน Track เพลง
- แตะ 3 ครั้ง ที่คุณสามารถตั้งค่าได้
Application Xiaomi Ear Buds
สำหรับ Application Xiaomi Ear Buds นั้นก็มีให้ดาวน์โหลดและควบคุมหูฟังรุ่นนี้ได้เช่นเดียวกัน โดยสามารถปรับแต่งได้หลายจุดไม่ว่าจะเป็น
- เสียง
- ปรับระบบ ANC
- ระบบ DNN ของไมโครโฟน
- การตั้งค่าปุ่มกดตามใจคุณ
- อัปเดต Firmware
คุณภาพเสียง / ไมโครโฟน
มาถึงเรื่องการทดลองใช้งานกันบ้างครับ เมื่อเราใส่หูฟัง หากไม่ได้ลง Apps ระบบ ANC ยังทำงานแต่ว่าจะอยู่ระดับปานกลางเท่านั้น แต่มันก็ถือว่าดีเพราะ ค่าตัดเสียงของระบบ ANC ในรุ่นนี้ทำได้ที่ 52dB/4kHz ถือว่าเยอะเอาเรื่องอยู่
สำหรับ Driver ขนาด 10.8 มิลลิเมตรให้เสียงที่ดีในแทบจะทุกย่านและมีระบบการปรับแต่งเสียงได้สุดๆ ทั้งมี EQ ให้เลือก 4 โหมด และยังสามารถปรับแต่งเสียงเอง พร้อมกับโหมดจำลองในสถานการณ์เสียงต่างๆ ที่ลองแล้วพบว่า อย่าเปิดเลยครับ เพราะแค่ปกติมันก็เพราะอยู่แล้ว เปิดทีเสียงจะดูบีบเกินไปในทุกรูปแบบ แต่ยังดีที่รองรับ LDAC, Hi-Res Audio ในตัว
แล้วเรื่องไมโครโฟนของรุ่นนี้นอกจากการทำงานของ ANC ที่ดีแล้ว เวลาใช้คุยสายก็ดี เพราะมีไมโครโฟน 3 ตัวและ AI ที่วิเคราะห์เสียงออกมา ทำงานผลที่ได้คือเสียงเงียบสงบแบบไม่น่าเชื่ออยู่เหมือนกัน แต่ความละเอียดก็ยังคงเป็นสไตล์หูฟังไร้สาย เนื้อเสียงแอบก้องนิดหน่อย แต่เก็บรายละเอียดฟังชัดไม่ต้องทวนคำถามใหม่
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
ด้วยขนาดแบตเตอรี่ที่หูฟังที่ 55 mAh และกล่องที่ 480 mAh ทาง Xiaomi เคลมว่าใช้งานได้นานสุด 38 ชั่วโมง และหูฟังใช้งานได้นานสุดที่ 38 ชั่วโมง
แต่อย่างไรก็ตามระบบการชาร์จไฟแบบ USB-C เสียบสายใช้กำลังไฟ 10W
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลอง Redmi Buds 5 Pro สักพักหนึ่ง
หูฟังไร้สาย Redmi Buds 5 Pro เป็นหูฟังที่เน้นเรื่องคุณภาพเสียงที่เรียกว่ารอบนี้มาเต็มและยังมีหน้าตาที่ดูดี แม้ว่าจุดติจะเป็นเรื่องการปรับแต่งได้เยอะทั้งระบบเสียงการฟัง, ระบบลดเสียงรบกวน และปุ่มกดให้ตามใจมากขึ้น
ราคาอย่างเป็นทางการของ Redmi Buds 5 Pro
ราคาอยู่ที่ 2,690 บาท ถือว่าหูฟังที่มีคุณภาพเสียงที่ดีและลงตัวอีกรุ่นหนึ่ง โดยคุณสามารถหาซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยเรียบ
- เสียงดีมาก
- ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนระหว่างการโทรได้ดี
- มีฟีเจอร์ที่จัดหนัก
- ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าเงิน
ข้อสังเกต
- ไม่รองรับ Wireless Charge
- บอดี้ค่อนข้างเรียบจับแล้วค่อนข้างลื่น