กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง สำหรับในรอบนี้ทีมจะมารีวิวมือถือใหม่ล่าสุดจาก Motorola ที่กลับมาทั้งทีก็เอาอาวุธหนักมาแบบจัดเต็มเลยครับ นั่นคือ Motorola EDGE 20 Pro นั่นเอง มาสำรวจกันว่ามือถือเรือธงที่ทำราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาท มาเริ่มกันเลย
แกะกล่อง Motorola EDGE 20 Pro ประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง Motorola EDGE 20 Pro พร้อมเคส
- คู่มือ
- ปลั๊กชาร์จไฟ USB-C กำลัง 30W
- สาย USB-C to USB-C
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
หมายเหตุ : Motorola EDGE 20 Pro ไม่ได้ติดตั้งฟิล์มกันรอยมาให้และไม่มีฟิล์มกันรอยมาให้ในกล่อง
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Motorola EDGE 20 Pro
เริ่มต้นกับดีไซน์ด้านหน้าของเครื่องมาพร้อมกับจอ OLED ให้สีคมชัดมากระดับ 1 พันล้านสีและยังสว่างมากอีกด้วย หน้าจอไม่ได้โค้ง
ส่วนบนของหน้าจอจะมาพร้อมกับกล้อง, การแจ้งเตือนต่าง, และมีลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา รุ่นนี้ไม่ได้เป็นลำโพงแบบ Stereo ครับ
ส่วนล่างจะมาพร้อมกับปุ่มกดสำหรับสั่งงานระบบปฏิบัติการ Android แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ มันสามารถเปลี่ยนได้ โดยเลือกได้ที่ ตั้งค่า (Setting) > ระบบ (System) > การนำทาง สามารถเปลี่ยนได้ทั้ง
- ปุ่มกดปกติ ของ Android
- การสั่งงานด้วยการปัด
รอบตัวเครื่องออกแบบได้ดูสมดุลดี มาพร้อมกับปุ่มสำหรับ เรียก Google Assistant เพื่อให้คุณสั่งงานได้ และยังรองรับกับฟีเจอร์ Walkie Talkie
อีกฝั่งจะมีปุ่มสำหรับปรับระดับเสียง และ Power Button ที่สามารถใช้เป็นระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างด้วยครับ
ส่วนบนของเครื่องจะมาพร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ซึ่งข้างบนถือว่าเป็นไมโครโฟนตัวที่ 2
ส่วนล่างมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM รองรับทั้งหมด 2 ซิมพร้อมกัน, USB-C, ไมโครโฟน สำหรับใช้สนทนา และ ลำโพงของเครื่องที่มีจุดเดียวเท่านั้นเอง
พลิกมาด้านหลังออกแบบโค้งรับกับมือที่และมีแผนตรงกลางทำให้ด้านหลังไม่อูมกับมือเกินไป ส่วนบนจะมาพร้อม กล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว และมาพร้อมกับไมโครโฟนของเครื่องจะมาพร้อมฟีเจอร์ Audio Zoom
ภาพรวมการออกแบบ
เมื่อได้สัมผัสบอดี้ทั้งหมดความรู้สึกหากไม่ได้สวมใส่เคยก็มีขนาดเครื่องที่เหมาะมือ และน้ำหนักไม่ได้มากอะไร เมื่อเทียบกับสิ่งที่ให้มา กล้องด้านหลังไม่ได้ยื่นออกมากจนน่าเกลียด แต่ว่าสิ่งที่เป็นข้อสังเกตคือ กล้องมีความคมอาจจะทำให้มือถือหรือสิ่งอื่นๆ ที่วางทับเป็นรอยได้ จะต้องระวังในจุดนี้หน่อยนะ
สำหรับมือถือ Motorola EDGE 20 Pro จะมีสีเข้ามาจำหน่ายเพียงสีเดียวคือ Midnight Blue
เปิดเครื่องลองใช้งาน Motorola EDGE 20 Pro
รายละเอียดสเปกเครื่อง Motorola EDGE 20 Pro (สำหรับเครื่องที่ได้ทดลอง)
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) 163 x 76 x 8 มม.
- น้ำหนัก: 190 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ได้ระบุ
- หน้าจอ: OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล Refresh Rate 144Hz รองรับ HDR 10+
- กระจกเลือกใช้ : Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและหลัง เฟรมเครื่องจะเป็นแบบอลูมิเนียม
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 870 Octa Core | GPU Adreno 650
- แรม : 12 GB
- ความจำภายใน : 256GB
- ความจำภายนอก : ไม่รองรับ
- การเชื่อมต่อไร้สาย : 5G SA/NSA, 4G LTE, WiFi 802.11 B/G/N/AC/6, Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 (Pure Android)
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 3 ตัว :
- กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล (f/1.9) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (Ultra Wide) มุมมองกว่าง 126 องศา สามารถใช้เข้าใกล้ได้
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (Periscope Telephoto) ซูมได้ 5x Optical | 50x Digital Zoom
- LED Flash
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K 24 FPS / 4K 30 FPS, Full HD 30/60FPS Slowmotion 960 FPS แบบ FHD
- กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K แบบ 30 FPS, Full HD 30 / 120 FPS
- ลำโพงของเครื่อง : Dual Stereo
- แบตเตอรี่ : 4500 mAh + Fast Charge 30W (Motorola Turbo Power)
- ช่องเสียบ ช่องเสียบ USB-C
- สี : Moonlight Blue
ผลการทดลองประสิทธิภาพของเครื่อง
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ AnTuTu = 697,388 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ Geekbench = 958 คะแนน (Single Core) | 3,066 คะแนน (Multi Core)
เมื่อเห็นคะแนนการทดสอบออกมาพบว่า Motorola EDGE 20 Pro ให้การตอบสนองการทำงานได้ดีมาก และคะแนนที่ออกมาถือว่าทำได้ดี เรียกได้ว่าไม่ผิดหวังเลยครับ หลายคนคงถามอีกเรื่องคือ ความร้อนของเครื่อง จากที่ได้ทดลองเล่นเกมนานๆ ก็พบว่ายังมีอยู่ อย่างไรก็ดี เมื่อลองปิดเกมและใช้งานปกติ พบว่าไม่ได้มีความร้อนสะสมให้น่ากังวลใจ
สำหรับในเรื่องของการเล่นเกมนั้นจะมีฟีเจอร์ Game Time จะเพิ่มในเรื่องของประสิทธิภาพของเครื่อง, ปิดการแจ้งเตือน รวมไปถึงการเรียกฟีเจอร์บันทึกหน้าจอให้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น
การเชื่อมต่อไร้สาย / ระบบการเชื่อมต่อไร้สาย
ในเรื่องของการเชื่อมต่อไร้สาย มาพร้อมกับ 5G / 4G, Wi-FI มาตรฐาน 802.11 AX หรือ Wi-FI 6 รองรับ Bluetooth 5.1 ใหม่และที่สำคัญคือการใช้งาน GPS, A-GPS ที่ทำงานได้ดีไม่น้อยเลยครับ
การแสดงผล / ระบบเสียงของเครื่อง
การแสดงผลของหน้าจอมือถือ Motorola EDGE 20 Pro เลือกใช้ Panel แบบ OLED การแสดงผล 1 พันล้าน สี แต่สิ่งที่โดดเด่นคือหน้าจอรุ่นนี้รองรับค่า Refresh Rate 144Hz และปรับเป็นแบบ Adaptive ได้ด้วย ทำให้การแสดงผลลื่นไหลและยังแตะสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว จนเรียกว่า มันแทบจะเป็น Gaming Smart Phone เลยครับ
การแสดงผลเสียงของเครื่องรุ่นนี้จะให้ลำโพงด้านล่างเท่านั้น แต่คุณภาพเสียงถือว่าทำได้ดีและให้คุณภพาเสียงที่ดีมากอยู่ และยังรองรับระบบเสียง Dolby ATMOS คุณภาพเสียงถือว่าดังดีใช้ได้ครับ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ระบบความปลอดภัย
สำหรับมือถือ Motorola EDGE 20 Pro รุ่นใหม่ล่าสุด จะมาพร้อมกับ Android 11 ที่ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย ทั้งนี้มือถือรุ่นนี้สามารถอัปเดตต่อไปได้ 2 – 3 รุ่นด้วยกันครับ รองรับการใช้งาน Multi Window
สำหรับฟีเจอร์ของ Motorola EDGE 20 Pro ไม่ว่าจะเป็น
- Gesture Control ลูกเล่นที่สามารถใช้งานได้ดี
- พลิกเครื่องหน้าหลัง = เปิดเครื่อง
- การเปิดไฟฉาย = ทำเหมือนกับหมู
- การ Capture หน้าจอ = ใช้สามนิ้วกดที่หน้าจอ
- การยกเครื่องเพื่อปลดล็อก
- การพลิกเครื่องเพื่อเข้า Do Not Disturb
- หยิบเพื่อปิดเสียง / ระบบเสียง
- ใช้นิ้วกวาดแยกเพื่อแบ่งหน้าจอ
- Ready For จะมีฟีเจอร์ต่างๆ แบบครบเครื่องไม่ว่าจะเป็น
- PC Mode เมื่อเชื่อมต่อกับ Keyboard และ Mouse เพื่อใช้สั่งงานได้ง่าย
- TV สามารถเชื่อมต่อแสดงผล
- Game Mode หากลองเข้าเกมจะแสดงผลออกหน้าจอเลย และสั่งควบคุมผ่านมือถือ เทียบกับมือถือ จะเป็นเล่นผ่านและแสดงผลมือถือ
- การประชุมออนไลน์
ระบบความปลอดภัยของเครื่องจะมาพร้อมกับ สแกนลายนิ้วมือด้านข้างของเครื่อบ และมาพร้อมกับสแกนใบหน้า ทั้งนี้สามารถในเรื่องของ Android Security Patch ที่อัปเดตให้กลับมาเสมอ
เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย Motorola EDGE 20 Pro พร้อมกับสเปกของกล้องมีดังนี้
- กล้องหลัง 3 ตัว :
- กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล (f/1.9) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (Ultra Wide) มุมมองกว่าง 126 องศา สามารถใช้เข้าใกล้ได้
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (Periscope Telephoto) ซูมได้ 5x Optical | 50x Digital Zoom
- LED Flash
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K 24 FPS / 4K 30 FPS, Full HD 30/60FPS Slowmotion 960 FPS แบบ FHD
- กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K แบบ 30 FPS, Full HD 30 / 120 FPS
ฟีเจอร์ของกล้อง Motorola EDGE 20 Pro
สำหรับลูกเล่นของ Motorola EDGE 20 Pro อาจจะต้องทำความเข้าใจเพราะไม่ได้เหมือนกับมือถือถรุ่นอื่น โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ปุ่ม ซ้ายจะเป็น Video กลางโหมดปกติเป็น Photo ถ่ายภาพนิ่ง และ 3 ขีดสำหรับเปลี่ยนเมนู แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถกำหนดปุ่มลัดออกมาตามที่ต้องการได้ ลูกเล่นถือว่าเยอะพอตัวเล่นได้ครบครันเลยครับทั้งหมดนี้สามารถปัดจากล่างที่ปุ่ม Shutter เพื่อเรียกฟีเจอร์อื่นๆ ได้
ส่วนโหมดวิดีโอนั้นจะมีการตั้งค่าลูกเล่นทั้งหมด 6 ลูกเล่นทั้ง ปรับเอง, ฟีลเตอร์สี, กล้องคู่ Slowmotion, Timelapse ละลายหลัง เรียกได้ว่าครบอยู่ แต่ทั้งหมดจะมีของกล้องหน้าหายไปลูกเล่นหนึ่งคืออะไรนั้น ไว้ดูในส่วนนั้นต่อไป
ตัวอย่างภาพจาก Motorola EDGE 20 Pro
ภาพกลางวัน / สภาพแสงปกติ
ภาพกลางคืน / สภาพแสงน้อย
ภาพรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถถ่ายได้
ลองใช้กล้องหน้าของ Motorola EDGE 20 Pro
สำหรับกล้องหน้าของ Motorola EDGE 20 Pro ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับลุกเล่นแบบจัดเต็ม ทั้งละลายหลัง เลือกจุดสีของภาพได้ แต่น่าเสียดายแค่ไม่สามารถถ่ายวิดีโอละลายหลัง หรือ Portrait Video ได้
การใช้พลังงาน / ระบบชาร์จไฟของ Motorola EDGE 20 Pro
เรื่องสุดท้ายที่จะพูดถึงคือ แบตเตอรี่ของมือถือรุ่นนี้ที่มีขนาด 4500 mAh เมื่อทดลองใช้งานจริงพบว่า ถ้าไม่ได้ใช้งานหนัก สามารถอยู่ได้ทั้งวันได้สบาย แต่ถ้ามีการเล่นเกมหนัก หรือใช้ระบบนำทางตั้งแต่เช้า ในเวลา 10 โมง จนถึง 3 ทุ่ม พบว่าแบตเตอรี่จะเหลืออยู่ราวๆ 34% ถือว่าพอเอาตัวรอดได้ ส่วนการทดสอบ PCMark ทำได้ที่ 9:51 ชั่วโมง ถือว่าอยู่ในระดับ พอใช้ เท่านั้น
ส่วนระบบการชาร์จไฟของ Motorola EDGE 20 Pro รองรับกำลังชาร์จไฟ 30W หรือทาง Motorola เรียกว่า Turbo Power ทำให้จ่ายไฟได้เร็ว นอกจากนี้หากเทียบกับการชาร์จ Adapter ที่มีกำลังสูงแต่ไม่ใช่ของทาง Motorola ที่ให้มาภายในกล่อง ยังคงเข้าสู่ระบบชาร์จเร็วในลักษณะเดียวกัน
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้งาน Motorola EDGE 20 Pro มาสักระยะเวลาหนึ่ง
เรียกได้ว่าเป็นมือถืออีกรุ่นที่ให้สเปกและความคุ้มเกินราคา โดยเฉพาะเรื่องของความจำที่เยอะ ฟีเจอร์ที่เหนือกว่าในเวอร์ชั่นของ Pure Android ที่สามารถใช้การแสดงผลหน้าจอได้ดี และรวมไปถึง กล้องที่สามารถซูมไกลถ่ายภาพสวย ระบบกันสั่นวิดีโอดี เรียกได้ว่าครบเครื่องจริงๆ
สำหรับราคาของมือถือรุ่นนี้เปิดตัวที่ความจำแบบเดียวคือ RAM 12GB / ROM 256GB จะได้ราคาอยู่ที่ 17,999 บาท หากคุณใช้กับผู้ให้บริการรายหนึ่ง สามารถซื้อได้ในราคาต่ำกว่านั้นได้ครับ สุดท้ายนี่ก็เป็นอีกมือถือเรือธงที่มีราคาไม่แพงและทำความสามารถจนเรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้คุณแล้วจริงๆ ครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์เหมาะมือ น้ำหนักไม่มากเกินไป
- ขุมพลังใหม่และแรงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
- ความจำของเครื่องถือว่าเยอะ
- ประสิทธิภาพของกล้องเรียกว่าจัดเต็ม
- หน้าจอสวยสว่างกำลังดี
ข้อสังเกต
- พบว่ายังกินพลังงานมากเมื่อใช้งานหนัก
- ระบบการทำงานของเครื่องบางจุดรู้สึกช้าเกินไปเช่น การซูม เป็นต้น
- พบปัญหาเรื่องการทัชสกรีนไม่ตรงอยู่บ้าง
- ยังไม่รองรับมาตรฐานกันน้ำ