ก่อนหน้านี้ทีม Sanook Hitech ได้มีบทความทดลองใช้ Huawei Watch 3 ในรุ่นปกติกันแล้ว แต่ความจริงแล้ว Huawei Watch 3 มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกัน แต่รุ่นหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ Huawei Watch 3 Pro ที่มีจุดเด่นในเรื่องการออกแบบที่แตกต่าง กับราคาที่ต่างกันเยอะ เรามาดูกันว่ามันมีดีอย่างไร
แกะกล่อง Huawei Watch 3 Pro ข้างในประกอบด้วย
- ตัวเรือน Huawei Watch 3 Pro
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบ Wireless Charging
- คู่มือ / ใบรับประกัน / ใบ QR Code โหลดโปรแกรม Huawei Health
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Huawei Watch 3 Pro
ของ Huawei Watch 3 Pro จะเลือกใช้หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 464×464 พิกเซล ที่แตกต่างคือกระจก sapphire และมีล้อมรอบด้วยเลขเวลาด้วยกัน
รอบตัวเครื่องทำจากวัสดุไทเทเนียม ฝั่งซ้ายจะมีเพียงแค่ลำโพงตัวเครื่อง และไมโครโฟนไว้สำหรับสนทนา และมีปุ่มฝั่งขวาทั้งหมด โดยประกอบด้วย เม็ดมะยมพร้อมกับปุ่มกดที่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นปุ่มกดสำหรับ Quick Menu สามารถตั้งค่าได้
ด้านใต้จะเป็นเซรามิก เหมาะกับคนที่แพ้โลหะ เพราะส่วนนี้แนบกับผิวแล้วจะไม่ละคายเคืองเลย และมีเซนซอร์วัดชีพจรมาให้ข้างใน และจุดนี้รองรับ ชาร์จไฟไร้สายได้ด้วย
ส่วนสายของรุ่นนี้จะให้มาเป็นแบบหนัง โดยมีออฟชั่นสามารถซื้อสายเหล็กเพิ่มเติมได้ทั้งนี้ใครอยากใช้สายเรซิน แนะนำว่า ซื้อสายขนาด 22 มิลลิเมตร
ต่ด้วยข้างล่างเป็นเซรามิกจะมาพร้อมกับเซนเซอร์วัดชีพจรพร้อมกับรองรับระบบ Wireless Charge
ภาพรวมเท่าที่ลองใช้งาน การออกแบบของเครื่องดูดีไม่น้อยเลยครับ วัสดุดูแพงและสเปกของเครื่องที่เรียกว่ามันดีกว่าแต่ด้วยน้ำหนักที่มากกว่าถึง 63 กรัมก็อาจจะรู้สึกหนักไปสำหรับบางคนครับ แต่ในกล่องเนื่องจากมีสายหนังมาให้อย่างเดียว น่าจะมีสายเรซินหรือโลหะมาให้สักหน่อย เพราะเชื่อว่าบางคนไม่ชอบสายหนังก็มีอยู่เยอะเหมือนกันครับ
อีกเรื่องที่น่าสนใจอง Huawei Watch 3 Pro คือเรื่องการการกันน้ำ รุ่นนี้รองรับมาตรฐานกันน้ำได้ระดับ 5 ATM ตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 ซึ่งหมายความว่าอาจใช้สำหรับกิจกรรมน้ำตื้น เช่น การว่ายน้ำในสระหรือมหาสมุทร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้สำหรับการดำน้ำลึก สกีน้ำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่มีความเร็วสูง หรือการจมใต้น้ำที่ระดับความลึกมากๆ
สวมใส่และลองใช้งาน Huawei Watch 3 Pro
รายละเอียดสเปกของ Huawei Watch 3 Pro
- กรอบนาฬิกา : 48 มม. x 49.6 มม. x 14 มม. (ไม่รวมเซ็นเซอร์) วัสดุ เฟรมทำจากไทเทเนียม + เซรามิก
- น้ำหนัก : ประมาณ 63 กรัม (ไม่รวมสายรัดข้อมือ)
- หน้าจอ : AMOLED 1.43 นิ้ว 466×466 พิกเซล PPI 326
- ROM ภายใน : 16 GB
- RAM ภายใน 2 GB
- ตัวเรือน : ไทเทเนียม + เซรามิก
- วัสดุสายนาฬิกา : Leather (สายหนัง), สายเหล็ก Titanium
- ปุ่มกด : ปุ่มแบบหมุนได้
- การเชื่อมต่อ : บลูทูธ: 2.4 GHz รองรับ BT5.2 และ BR+BLE
- เซ็นเซอร์ : บลูทูธ: 2.4 GHz รองรับ BT5.2 และ BR+BLE Wifi: รองรับ (2.4 GHz เท่านั้น) NFC: รองรับ
- ประเภทแบตเตอรี่ : Built-in lithium-ion polymer battery
- ความจุแบตเตอรี่ : 475 mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 5 วัน
- เทคโนโลยีชาร์จ : ชาร์จไร้สาย
- มาตรฐานการกันน้ำ : 5ATM
- ระบบปฏิบัติการที่รองรับ : Android 6.0 หรือสูงกว่า, iOS 9.0 หรือสูงกว่า
ในส่วนนี้แทบไม่ได้มีความแตกต่างจาก Huawei Watch 3 ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ โดยขอเริ่มต้นกับ ระบบปฏิบัติการ Harmony OS 2.0 ที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น แถมยังมี Interface ที่คุ้นเคยและยังปรับแต่งได้ โดยมีโปรแกรมรองรับการดาวน์โหลดผ่าน Huawei AppGallery โดยสามารถดาวน์โหลดทั้งจาก Smart Watch หรือมือถือทั้ง iOS และ Android
สำหรับ Huawei AppGallery ในตัว Huawei Watch มีการรองรับ Application มากมายเช่น HUAWEI Music (พร้อมเพลงจาก GMM กว่า 20,000 เพลง), Coolism (แอปฟังวิทยุออนไลน์จากคลื่นคลูลิซึ่ม FM93), Thai Fast Dictionary (แอปฝึกคำศัพท์ภาษาอังกฤษ), Thai Airways (แอปตารางการบินของสายการบินไทย), Releep (แอปช่วยจัดการด้านสุขภาพ) และอื่นๆ อีกมากมาย
ภายในตัวของ Smart Watch สามารถวัดต่างๆ ไม่ว่าเป็น
- ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย
- วัดค่า SPO2 หรือระดับ Oxygen ในเลือด
- วัดจังหวะการเต้นของหัวใจ
- วัดความเครียด
- และการเคลื่อนไหวของผู้ใส่
ทั้งนี้คุณสามารถเชื่อมต่อและปรับตั้งค่าผ่าน Application Huawei Health ได้โดยตรงรวมถึงการรายงานการออกกำลังกายที่จับจาก Smart Watch, วัดการนอน และการตั้งค่าอื่นๆ ของ Smart Watch รวมถึงการอัปเดต Smart Watch ได้
นอกจากนี้ Huawei Watch 3 Pro เพื่อให้เป็นรุ่นท็อปก็ต้องออกแบบให้รองรับการใส่ eSIM 4G เพื่อให้สามารถ การแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่น, ข้อความ, สายโทรเข้า เมื่อมีกิจกรรมหรืออะไรก็แล้วแต่เกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟนโดยที่ไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ
อีกเรื่องที่ Huawei Watch 3 Pro ทำได้ดีกว่าคือ แบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้นานถึง 5 วัน แต่ถ้ามีการออกกำลังกายอาจจะใช้ได้สั้นลงเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ระบบชาร์จไฟรองรับในแบบไร้สาย โดยสามารถ และสามารถรองรับกับการชาร์จกับ Tablet หรือมือถือที่มีเทคโนโลยี Reverse Wireless Charge ได้ด้วยครับ
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน Huawei Watch 3 Pro มาสักระยะเวลาหนึ่ง
ถือว่าเป็น Smart Watch ที่จัดว่าเต็มในเรื่องวัสดุเน้นความทนทานอย่างมาก มาพร้อมกับความสวยงามและการใช้งานที่ยอดเยี่ยม เพราะลื่นไหลดี และยังมีความหรูหรากับกาเลือกวัสดุ และใช้งานได้นานกว่าเดิม จนเรียกได้ว่าถ้าใครต้องการนาฬิกาที่เหนือกว่า Huawei Watch 3 ทั่วไปรุ่นนี้ถือว่าเลือกได้เลย
แต่คำถามคือ ราคาของ Huawei Watch 3 Pro นั้นเปิดตัวอยู่ที่ 21,990 บาท อาจจะดูสูงไปหน่อย แต่ถ้าแลกกับความพรีเมี่ยมแบบนี้ผมถือว่ายอมได้ ทั้งนี้สามารถเป็นเจ้าของได้ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ร่วมรายการอย่าง HUAWEI Online Store, Shopee, Lazada และ JD Central