เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมทั้งเคาะราคาจำหน่ายไปแล้วนะครับสำหรับ HUAWEI MatePad Pro 12.6นิ้ว รุ่นใหม่ แท็บเล็ตท็อปคลาส ดีไซน์พรีเมียม อัดแน่นครบทุกฟังก์ชันการทำงาน พร้อมอัปเกรดฟีเจอร์ใหม่ๆ
บอกเลยว่ารอบนี้หัวเว่ยเขาเจาะลึกทุกรายละเอียดของมันจริงๆ รับรองว่าหากคุณได้สัมผัสหรือทดลองเล่น HUAWEI MatePad Pro 12.6 นิ้ว ก็จะต้องเปิดใจหลงรักมันเหมือนผมครับ
เพราะ HUAWEI MatePad Pro 12.6นิ้ว สามารถตอบโจทย์คุณในทุกๆ ด้านจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการวาดเขียน ทำงาน เรียน และความบันเทิง บอกเลยครบสูตร
แน่นอนครับหากผมไม่ได้ลองเล่นเองก็คงไม่กล้าพูดว่ามันดีจริงได้ขนาดนี้ เอาเป็นว่ามาอ่านรีวิวที่ผมกำลังจะเล่าให้อ่านกันดีกว่าครับ สำหรับบทความรีวิวนี้ผมขอพูดเรื่องการใช้งานจริงและฟีเจอร์สำคัญๆ ที่เราสามารถดึงมันออกมาใช้งานได้จริงๆ เป็นหลักนะครับ ส่วนเรื่องของข้อมูลเชิงลึกไว้มีเวลาที่จะมานั่งเล่นลองใช้กันแบบเต็มๆ อีกครั้งหนึ่ง
เอาจริงๆ จะมีสักกี่คนที่ต้องการอ่านข้อมูลลึกๆ แบบนั้น ผมว่าส่วนใหญ่คงอยากรู้เรื่องความสามารถของมันในการใช้งานจริงๆ ในชีวิตประจำวันมากกว่า และเรื่องสำคัญที่ว่าเมื่อมันไม่มี Goolge แล้วจะสามารถทำงานได้ดีขนาดไหน ตรงนี้ขอพูดว่า แทบจะไม่มีผล แม้มันจะไม่มี Google แต่เราก็สามารถค้นหาข้อมูลสำคัญและสามารถใช้ Googe Map รวมไปถึงการใช้งานแอปพลิเคชั่นพื้นฐานได้ตามปกติ!!!
สรุปสเปค HUAWEI MatePad Pro 12.6นิ้ว รุ่นใหม่
- ขนาดเครื่อง 286.5×184.7×6.7 มม.
- น้ำหนัก ประมาณ 609 กรัม (รวมแบตเตอรี่)
- หน้าจอแสดงผล ขนาด 12.6 นิ้ว FullView OLED ความละเอียด 2K QHD (2560 x 1600px) อัตราส่วน 16:10
- โปรเซสเซอร์ Kirin 9000E (5nm) ประมวลผล Octa-core
- ระบบปฏิบัติการ Harmony OS 2.0
- หน่วยความจำและความจุ RAM 8GB+ROM 256GB รองรับหน่วยความจำเสริม NM Card สูงสุด 256GB
- รองรับหน่วยความจำภายนอก: NM memory card, รองรับสูงสุดที่ 256GB
- แบตเตอรี่ 10050 mAh (ความจุปกติ)
- กล้องหน้า: 8ล้านพิกเซล f/2.0 FF
- กล้องหลัง: 13ล้านพิกเซล Primary camera with f/1.8 AF, Wide 8MP, F/2.4, FF, มุมมองรับภาพ 120 องศา, กล้อง 3D Depth Sensing Camera
- ระบบเสียง ลำโพง 8 ชุด Stereo Speakers (tuning tech by Harman/Kardon), ไมโครโฟน 4 ชุดเพื่อการสนทนา บันทึกวิดีโอ และบันทึกเสียง
- รองรับเครือข่าย WiFi 6+
- รองรับการเชื่อมต่อ WLAN: 802.11 a/b/g/n/ac (wave2), MIMO, VHT160, 2.4GHz และ 5GHz
- รองรับ Bluetooth 5.2
- เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง GPS / AGPS/ GLONASS / Beidou / Galileo / QZSS
- สี Olive Green (Vegan leather) / Matte Gray
- ราคา รุ่น 8+256GB เคาะในไทยที่ 28,990 บาท โดยเบื้องต้นมีขายเฉพาะสี Matte Gray พิเศษ ส่วน Olive Green (Vegan leather) กำลังจะนำเข้ามาในอนาคต
อุปกรณ์พื้นฐานที่ให้มาภายในกล่อง
- แท็บเล็ต (แบตเตอรี่ในตัวเครื่อง)
- Adapter Charger (หัวชาร์จ) เป็น HUAWEI SuperCharge 40 w
- ชุดหูฟัง Type-C to 3.5 มม.
- สายเคเบิล Type-C
- อุปกรณ์สำหรับถอดซิมการ์ด
- คู่มือเริ่มต้นใช้งาน
เริ่มด้วยการออกแบบดีไซน์ภายนอกของ HUAWEI MatePad Pro 12.6” รุ่นใหม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะเลย
สำหรับ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch รุ่นที่นำมารีวิวนี้ เป็นตัวเครื่องสี Matte Gray HUAWEI MatePad Pro 12.6” มาพร้อมกับดีไซน์ที่พรีเมียมและบางเฉียบทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 609 กรัมเท่านั้น แม้จะใช้ควบคู่กับ HUAWEI Smart Keyboard ก็ยังคงมีน้ำหนักรวมไม่ถึง 1 กิโลกรัม
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน ใช้เทคนิคพิเศษทำให้รอยนิ้วมือติดบนตัวเครื่องน้อยลง ทั้งยังออกแบบโดยซ่อนเสาอากาศไว้ภายในตัวเครื่องอีกด้วย
HUAWEI MatePad Pro 12.6 นิ้ว มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 12.6 นิ้ว จอแสดงผลแบบ 2K QHD คมกริบ ด้วยหน้าจอความละเอียดสูง 2560 x 1600 พิกเซล ให้ภาพชัดเต็มตาด้วยอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่สูงที่สุดในโลกถึง 90% และมีขอบจอบางพิเศษเพียง 6 มิลลิเมตร
ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ จะทำให้สะดวกต่อการพิมพ์งาน แก้ไขงาน ยิ่งเป็นหน้าจอแบบ OLED FullView รองรับอัตราส่วนคอนทราสต์ได้มาก และมีช่วงสี DCI-P3 ที่กว้างก็ยิ่งดี จะช่วยตรวจงานได้ละเอียดยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะที่ต้องใส่ใจต่อดีเทลแค่ไหนก็เอาอยู่ และด้วยหน้าจอที่ใหญ่ ให้ภาพและสีที่คมชัด จะช่วยยกระดับการดูหนัง ดูซีรีส์ได้ดีราวกับใช้งานแล็ปท็อปอยู่เลยทีเดียว
นอกจากนี้การเพ่งสายตานานๆ บนจออาจทำให้เกิดอาการปวดท้ายทอย ปวดบริเวณขมับ เวียนหัว และอาจลามไปถึงขั้นคลื่นไส้ได้ ซึ่งส่วนหนึ่งของอาการบ่งบอกว่ากล้ามเนื้อตาของคุณกำลังรับภาระหนักเกินไป ดังนั้นจอแท็บเล็ตในปัจจุบันควรมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดแสงสีฟ้าจากหน้าจอ ปรับแสงสว่างและความคมชัดของหน้าจอให้รู้สึกสบายตา และควรได้รับการการันตีคุณภาพจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น มาตรฐานการรับประกัน TÜV Rheinland Certified
ส่วนของการซ่อนกล้องหน้าไว้บริเวณกึ่งกลางตรงกรอบหน้าจอด้านบนอย่างกลมกลืน ไม่รบกวนสายตาระหว่างการใช้งานแน่นอน กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8ล้านพิกเซล f/2.0
ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย ปุ่มกดแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับเหมือนอย่างบนสมาร์ทโฟน
ด้านบนของตัวเครื่องประกอบด้วยปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ ลำโพงเสียงภายนอกวางเป็นแนวยาวจำนวน 2 (จริงๆ แล้วมีทั้งหมด 4 ตัวด้านบน 4 ด้านล่าง 4 แต่หัวเว่ยออกแบบมาให้เราเห็นเพียงฝังละ 2 ตัวเท่านั้นครับ )
ด้านล่างประกอบก็มีลำโพงเสียงภายนอกอีก 2 ตัว(แม้ว่าเราจะเห็นเพียงแค่ 2 ตัวแต่ภายในคือการใส่ลำโพงไว้ด้วยกันทั้งหมด 4 ตัวครับ เท่ากับลำโพงของเครื่องจะมีทั้งหมด 8 ตัวด้วยกัน) และพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ส่วนใครที่มองไม่เห็นช่องเสียบหูฟังไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะในกล่องเขาแถมตัวแปลงสายเสียบหูฟังมาให้พร้อม สามารถหูฟังเก่ามาเสียบได้เลย
ลำโพงเสียงมากถึง 8 ชุด แบ่งเป็นลำโพงความถี่สูง 4 ตัว และลำโพงความถี่ครบทั้งสูง-กลาง-ต่ำ 4 ตัว (ลำโพง harman/kardon เสียงชัด 360 องศา)
ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบด้วยปุ่มปรับระดับเสียงรวมไปถึงการเรียกงาน Setting แบบเร็ว นอกจากนั้นจะเป็นส่วนของไมโครโฟนตัวหลักจำนวน 3 ตัว
มาต่อกันที่ส่วนของตัวข้างซ้ายตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของช่องสำหรับใส่ Memory Card 1 ช่อง โดยรองรับความจุถึง 256GB สำหรับขอบด้านนี้ไม่มีปุ่มของการทำงานอะไรมากกว่านี้ คาดว่าอาจเป็นเพราะเขาดีไชน์มาไว้สำหรับเป็นจุดเชื่อมต่อกับ Keyboard Cover ทำให้ไม่จำเป็นที่ต้องมีปุ่มอะไรพิเศษเพราะเมื่อเชื่อมต่อแล้วการเรียกใช้งานจะลำบาก
ต่อกันที่ด้านหลังของ HUAWEI MatePad Pro 12.6” ที่มากับกล้องหลังติดตั้งมา 3 ตัว เลนส์หลัก ความละเอียด 13ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8ล้านพิกเซล, และอีกตัวเป็นเซนเซอร์ ToF ทั้งหมดมีการทำงานร่วมกับ AI และใกล้ๆ กันเราจะเห็นว่ามีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนฝังอยู่อีก 1 ตัวครับ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าหัวเว่ยเขาจับมือกับ harman/kardon ในการพัฒนาลำโพง ดังนั้นส่วนของตัวเครื่องด้านหลังจึงมีการสกรีนโลโก้ harman/kardon ไว้ให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน ใน
แบตเตอรี่ให้ใหญ่กว่าที่เคย พร้อมรองรับ HUAWEI SuperCharge 40 วัตต์
HUAWEI MatePad Pro 12.6” มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 10,050 mAh สามารถเล่นวิดีโอแบบออฟไลน์ติดต่อกันได้ยาวนานถึง 14 ชั่วโมง เพียงพอต่อการใช้งานทั้งวัน
รองรับชาร์จเร็วขนาด 40วัตต์ โดยใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มเครื่องเพียง 2 ชั่วโมง 10 นาทีเท่านั้น ขณะที่การชาร์จแบบไร้สายจะอยู่ที่ 27 วัตต์
ซึ่งในตลาดบ้านเราตอนนี้มี แท็บเล็ต น้อยมากที่รองรับการชาร์จไฟแบบนี้ และตัวมันเองยังรองรับฟีเจอร์ Reverse Wireless Charge ด้วยการเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่สำรองไร้สาย คอยจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับระบบการชาร์จไฟไร้สายได้ที่ 10 วัตต์
โดยการตั้งค่าง่ายๆ ที่ settings นั้นเองครับ
ต่อกันที่อุปกรณ์เสริมหลักอย่าง “ปากกา HUAWEI M-Pencil” และ “HUAWEI Smart Magnetic Keyboard”
ปากกา HUAWEI M-Pencil มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Double Tap ซึ่งจะสลับใช้งานระหว่างเครื่องมือปัจจุบันและยางลบ หรือสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ปัจจุบันและอุปกรณ์ก่อนหน้า หรือใช้เพื่อเรียกเปิดชุดสี (รองรับเฉพาะแอปฯ HUAWEI NotePad, Noteshelf) เพียงแค่ใช้นิ้วชี้เคาะตรงหัวปากกา 2 ครั้งเท่านั้นเองครับ
โดยการตั้งค่าเพิ่มเติมใน settings และ HUAWEI M-Pencil รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยังรองรับ Freescript อีกด้วยดังนั้นทำให้เราสามารถใช้ลายมือของเราในการเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอได้เลย ฉลาดมากจริงๆ
ส่วนการเชื่อมต่อปากกา HUAWEI M-Pencil กับแท็บเล็ต HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch เป็นครั้งแรก เพียงแค่แปะตัวปากกาที่ขอบด้านบนตัวเครื่อง จะมีหน้าต่างให้เชื่อมต่อปรากฏขึ้นมา ซึ่งการชาร์จปากกาก็แค่แปะที่ตัวเครื่อง
สำหรับปากกา M-Pencil จะมีสีเดียวกับตัวเครื่อง กับขนาดพอดีมือ และเบา คล้ายกับการถือปากกาจริง เชื่อมต่อ Bluetooth ซึ่งเมื่อนำมาติดกับแถบแม่เหล็กที่ด้านหลังตัวเครื่องจะถือเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ไปในตัว
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Double-tap ที่สามารถสลับการใช้งานอุปกรณ์ปัจจุบันกับอุปกรณ์ก่อนหน้า อุปกรณ์ปัจจุบันกับยางลบ หรือสลับเปลี่ยนชุดสีได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้นิ้วเคาะตรงหัวปากกาที่จับสองครั้ง จะวาดเขียนหรือจดโน้ตก็เพลิดเพลินได้เต็มพิกัด ช่วยให้การจดบันทึกและการวาดภาพตามแรงบันดาลใจทำได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด แรงกดของปากกาทำได้ที่ 4,096 ระดับ
HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดแบบไร้สายรุ่นใหม่ ที่ถูกออกแบบให้เป็นเคสพร้อมคีย์บอร์ดในตัว (**HUAWEI Smart Magnetic Keyboard รุ่นที่วางจำหน่าย จะมีสกรีนแป้นพิมพ์ภาษาไทย)
ในการพิมพ์ทดสอบนั้น Huawei ได้เผยว่าพวกเขาได้ยก Keyboard จาก Huawei MateBook มาใช้เลยซึ่งเมื่อทดลองพบว่าการทำงานมีความคล้ายกันคือ การพิมพ์ติดนิ้วกำลังดี แต้ว่าจะแข็งกว่า เพราะพื้นสัมผัสของ Keyboard ในตัว MatePad Pro จะใกล้พื้นมากกว่านั่นเอง ด้วยการออกแบบลักษณะนี้ผมว่ามีความใกล้เคียงกับ Tablet ตัวอื่นๆ ในตลาด แต่ทั้งหมดคุณไม่ต้องซื้อเพราะเห็นว่า ใครซื้อล็อตแรกก็จะได้แถมมาเลย
ต่อกันที่การทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ เบื้องต้น
อย่างที่เราเกริ่นไปบ้างแล้วว่าสเปคภายใน Huawei MatePad Pro 12.6 จะใช้ชิปเซ็ต Kirin 9000E ซึ่งเป็นขุมพลังระดับเรือธง ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรันบนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0 (แต่ก็แอบมีกลิ่นอายของ Android เบาๆ )
ดังนั้นมันจึงเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของ HUAWEI ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ทาง HUAWEI พัฒนาขึ้นเองของหัวเว่ยและ HUAWEI MatePad Pro 12.6” คือผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ถูกนำมาใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS บอกเลยอินเทอร์เฟสคลีนน่าใช้งานมาก
จุดนี้ถือว่า HarmonyOS ทำออกมาได้ดีครับ แม้ว่าจะเป็นของใหม่แต่ก็ทำออกมาได้หน้าตาใกล้เคียงกับ Android มากๆ หมวดหมู่ต่างๆ ถูกแบ่งการใช้งานออกมาได้คลีนมากๆ เลยครับ ส่วนของไอคอนต่างๆ เราสามารถจัดแต่งจัดวางได้ตามหมวดหมู่ตามสไตล์ของเราได้เลย
ข้อเด่นของขุมพลัง Kirin 9000E ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร นั่นคือการคายความร้อนน้อยและชิปมีขนาดเล็กช่วยให้ประหยัดไฟได้ เมื่อเลือกใช้โหมดที่เหมาะสม, ส่วนความจำของตัวเครื่อง Huawei MatePad Pro 12.6 นิ้วจะมีทั้ง RAM ขนาด 8 GB ช่วยให้รองรับการเปิดโปรแกรมได้ต่อเนื่องได้ดี และหน่วยความจำ ROM ขนาด 256 GB ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ยังสามารถเพิ่มความจำผ่าน MicroSD ได้ด้วย
ด้วยความที่มันทำออกมาได้ไม่แตกต่างกับ เลยทำให้เราสามารถใช้งานได้แบบไม่สับสน สามารถปรับแต่ง Widget ได้ตามสไตล์การใช้งานเหมือนกับกำลังเล่นอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android
เปิดใจให้ HUAWEI AppGallery ที่มีแอปพลิเคชันมากมายให้คุณอย่างเพียงพอ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายนั้นคือเรื่องที่สำคัญมากและหลายคนกังวลนั้นก็คือการใช้งานแอปพลิเคชันในต่างๆ ใน HUAWEI อย่างที่บอกไปครับแม้ว่า HUAWEI จะไม่มี Google และไม่มี แอปพลิเคชันใน Google Play มันก็ไม่มีปัญหาเพราะทางหัวเว่ยเองเขามี HUAWEI AppGallery ทำงานในลักษณะเดียวกับแอปฯ สโตร์อื่น ๆ มีแอปพลิเคชั่นมากมายรองรับและให้ดาวน์โหลด เช่น Microsoft Office, Agoda, Joox, KPlus, SCB TikTok, Lazada, LINE, Twitter Facebook และอื่น ๆ ที่เราต้องใช้งานพื้นฐานเพียบ
แน่นอนครับว่าสำหรับใครที่กังวลเรื่องแอปพลิเคชันที่คิดว่าไม่สามารถใช้งานได้ใน เราขอบอกว่าหากคุณเปิดใจแล้วมันไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะแอปพลิเคชันใน HUAWEI AppGallery ยังคงมีเพิ่มมากขึ้นในทุกวันและมีการอัปเดตใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเสมออย่างต่อเนื่องเช่นกันครับ
แอปพลิเคชันพื้นฐานที่เราจำเป็นต้องใช้ทางหัวเว่ยก็จัดมาให้แล้วบางส่วน แต่ถ้าหาไม่พอเราก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ครับ
ทดสอบ Geekbench 5
มาทดสอบประสิทธิภาพของ Benchmark ด้วยโปรแกรม Geekbench 5 กันหน่อยครับถือ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ทำได้ Single-Core ออกมาได้ 922 คะแนน และ Multi-Core ทำออกมาได้ 3,099 คะแนน ถือว่าผลการทดสอบเบื้องต้นทำคะแนนออกมาได้ดีตามที่มันเป็นครับ
อย่างที่บอก แม้ว่าจะไม่ได้ทำงานร่วมกับ Google แล้วแต่บน HUAWEI ยังสามารถใช้งาน ของผลิตภัณฑ์ Goolge ได้เช่นเดิมโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลย การค้นหาผ่าน Google Search, การเข้าชมคลิปด้วย YouTube หรือการใช้งาน Google Maps ในการนำทางได้เช่นเดียวกัน
ฟีเจอร์หลักที่จะพบได้ใน HUAWEI MatePad Pro 12.6”
ฟีเจอร์ HUAWEI Share
เรียกได้ว่าฟีเจอร์ HUAWEI Share เป็นอีกความสามรถที่ทำออกมาให้ผู้ใช้งานของ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊คของหัวเว่ยสามารถทำงานได้ขึ้นครับ การทำงานทุกอย่างสามารถสั่งงานผ่าน Bluetooth โดยที่คุณไม่ต้องทำการเสียบอุปกรณ์เสริมต่างๆ ให้วุ่นวาย
ฟีเจอร์ HUAWEI Multi-screen Collaboration with laptop
ปัจจุบันในแท็บเล็ตนั้นมีฟังก์ชัน หรือฟีเจอร์ต่างๆ ที่สามารถใช้ในการทำงานเหมือนกับการทำงานบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้นระหว่าง
อุปกรณ์หัวเว่ย สามารถเชื่อมต่อกันได้ไม่ยุ่งยาก ทำงานง่ายในชีวิตจริง การแชร์ภาพ แชร์สกรีน เพียงแค่นำอุปกรณ์มาวางใกล้ๆ กันและสามารถกดยอมรับ เพิ่มความสะดวกของคนที่ทำงานบนแท็บเล็ตแต่มีงานสำคัญที่พลาดไม่ได้บนสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการคัดลอกไฟล์ข้ามกันไปมาได้
หรือจะทำการเชื่อมต่อกันระหว่างแท็บเล็ต HUAWEI MatePad Pro 12.6” และโน้ตบุ๊คก็สามารถทำได้ง่ายไม่แตกต่างกับการเชื่อมต่อระหว่างแท็บเล็ต HUAWEI MatePad Pro 12.6” กับสมาร์ทโฟนเลย
ซึ่งมีด้วยกัน 3 โหมดคือ Mirror Mode โหมดนี้จะตั้งค่าให้แท็บเล็ตเป็นเสมือนเงาสะท้อนที่สามารถควบคุมคำสั่งต่างๆ บนแล็ปท็อปผ่านเครื่องแท็บเล็ตได้เลย ไม่ว่าจะขีดเขียนอะไรไปบนแท็บเล็ต สิ่งเหล่านั้นจะไปปรากฏยังหน้าแล็ปท็อปทันที เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญสำหรับสายงานออกแบบที่ไม่ควรมองข้าม
ขณะที่ Extend Mode ให้แท็บเล็ตเป็นอีกหนึ่งหน้าจอที่ถูกขยายการใช้งานมาจากแล็ปท็อป กลายเป็นหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ขณะเดียวกันขนาดการแสดงผลก็ชัดเจนขึ้นตามไปด้วย สามารถเช็คงาน หรือแก้ไขงานในอีกหนึ่งหน้าจอไปพร้อมกัน ตอบสนองการทำงานที่หลากหลายได้อย่างรวดเร็ว
ส่วน Collaborate Mode โหมดที่เข้ามาทำให้การเชื่อมต่อข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ เพลง และไฟล์เอกสาร ระหว่างแท็บเล็ตและแล็ปท็อปเป็นเรื่องที่ง่ายดายกว่าเดิม ราบรื่นไม่มีสะดุดเพราะเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย HUAWEI Share นอกจากนี้เทคโนโลยี HUAWEI Share ยังช่วยให้โยนไฟล์งานไปมาระหว่างแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนได้ด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch คือ ฟีเจอร์ Multi-Window ที่สามารถใช้งานหน้าต่างได้สูงสุดถึง 4 แอปฯ 4 หน้าจอในเวลาเดียวกัน และเก็บหน้าต่างลอยในแท็บเมนูด้านข้างได้มากสุด 10 หน้าต่าง เช่นเดียวกันกับฟีเจอร์ App-Multiplier ที่เข้ามาช่วยให้การท่องแอปฯ ของคุณเป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น เพราะสามารถเปิดแอปฯ แบบสองหน้าต่างได้พร้อมกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ทดลองด้วยกล้องดิจิทัลของ HUAWEI MatePad Pro 12.6” ในโหมดและสภาวะแสงต่างๆ
ถึงแม้ว่า HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จะขึ้นชื่อว่าเป็น แท็บเล็ต แต่ทางหัวเว่ยก็ให้ความสำคัญกับเรื่องของกล้องไม่แพ้เรื่องอื่นๆ ครับ อย่างที่เราบอกไปบ้างแล้วว่ามันมาพร้อมกับกล้องหลักที่ความละเอียดสูง 13 ล้านพิกเซล และกล้องถ่ายภาพมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล และยังมี 3D Depth Sensor มาให้อีกเลนส์ด้วย การจัดวางกล้องคล้ายกับ Huawei P40 Series ไม่มีผิด
และกล้องของทำอ่านร่วมกับ AI อีกด้วยทำให้ภาพถ่ายทุกภาพเป็นที่น่าจดจำ เลนส์ 3D Depth-Sensing และ AR27 ให้คุณแสดงวัตถุจำลองในสภาพแวดล้อมจริงได้อย่างลงตัวครับ
จะดูหนัง ฟังเพลง เล่นวิดีโอเกม หรืออ่านนวนิยายก็สนุก
ด้วยคุณภาพลำโพง 8 ตัวที่ปรับแต่งคุณภาพเสียงด้วย Harman / Kardon ชื่อนี้ไม่ผิดหวังและยังสามารถปรับแต่งผ่าน Huawei Histen ที่ทำให้คุณภาพเสียงที่ออกมานั้นถือว่าทำได้ดีและให้เสียงที่ดี และนอกจากเสียงดีแล้วยังมีไมโครโฟนทั้งหมด 4 ตัวไว้หักลบล้างเสียงรบกวนเวลาใช้สนทนาได้เช่นเดียวกัน
เล่นและเล่าให้ฟังแบบบ้านๆ หลังจากได้ลองเล่น HUAWEI MatePad Pro 12.6” มาเกือบ 1 เดือน
เรื่องแรกเลยที่ต้องยอมยกให้เขาคือเรื่องของดีไชน์ที่ทำออกมาได้ลงตัวมากๆ แม้ว่ามันจะมาพร้อมกับขนาดหน้าจอที่กว้างถึง 12.6 นิ้ว แต่พอได้ลองเล่นและได้ใช้งานจริงๆ กลับไม่ทำให้รู้สึกว่ามันใช้งานยากและพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกมาก คงเป็นเพราะความบางและเบาเวลาถือรู้สึกมันไม่เทอะทะ เลย แต่ยให้ความรู้สึกบางเฉียบและน้ำหนักเบาอย่างที่ผู้บริหารหัวเว่ยพูดไว้เมื่อวันเปิดตัวจริงๆ
เรื่องต่อมาคงบอกเลยถูกใจคนคนชอบเล่นเกมและสตรีมมิ่งแน่นอน เพราะ HUAWEI MatePad Pro 12.6″ มาพร้อมหน้าหน้าจอ OLED FullView Display 12.6 นิ้ว1 พร้อมอัตราส่วนขนาดหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90% บอกเลยว่าเปิดโลกที่ไร้ขอบเขตกับความคมชัดและสีสันเต็มอิ่มแน่นอน
ยิ่งมาเจอกับระบบเสียงที่พัฒนาร่วมกับ harman/kardon ถือว่าเป็น Brand เสียงชั้นนำนั้นที่น่าเชื่อถือ และติดตั้งลำโพง 8 ตัวเพื่อให้เสียงคมชัดทุกความถี่ เสียงเคลียร์ใสในย่านเสียงสูง เก็บทุกรายละเอียดในย่านเสียงกลาง และหนักแน่นแต่นุ่มนวลในย่านเสียงต่ำ ดำดิ่งไปกับโลกแห่งเสียงดนตรีได้ตามใจคุณ ดังนั้นเราขอการันตีว่าเสียงของ HUAWEI MatePad Pro 12.6” ทำให้คุณสะใจไม่ผิดหวัง!
สุดท้ายคงไม่ต้องอวยเพราะเขาทำมาดีจริงๆ สำหรับการทำงามร่วมกับระหว่างผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยเองไม่ว่าจะเป็น มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน!
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดหวังว่ารีวิวล่าสุดนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่กำลังมองหาแท็บเล็ตใหม่ไว้ใช้งานนะครับ ถ้าใครสนใจก็สามารถเดินเข้าไปลองที่ Store ของหัวเว่ยก่อนตัดสิ้นใจได้
HUAWEI ประเทศไทย เคาะราคา MatePad Pro 12.6″ ที่ 28,990 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี คือ Olive Green และ Matte Grey และสามารถจับจองได้แล้ววันนี้