หลังจากทีม Sanook Hitech ได้สัมผัส Huawei MatePad รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไม่นานมานี้ ก็ถึงเวลาที่ได้ทดลองใช้งานจริงๆ สักที เพราะตอนนี้เครื่องได้มาอยู่ในมือแล้ว กับการเปลี่ยนแปล่าแค่ Wi-Fi 6 และ ปรับสเปกให้ดีขึ้นจะน่าใช้แค่ไหน มารับชมรีวิวกันเลยครับ
แกะกล่อง Huawei MatePad ประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง Huawei MatePad
- สายชาร์จไฟ USB-C
- Adapter กำลัง 22.5W (ในประเทศไทยปลั๊กจะเป็นแบบ 2 ขากลม)
- คู่มือ
- เข็มจิ้มถาดใส่การ์ดความจำ
- ตัวแปลก USB-C เป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
และนอกจากนี้ยังมี Huawei Smart Keyboard มาให้คุณได้เลือกใช้อีกด้วย และยังมี Huawei M-Pencil 2 ให้เลือกใช้เช่นเดียวกัน Huawei MatePad Pro
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Huawei MatePad
เริ่มต้นกับหน้าจอของเครื่องรุ่นนี้มีขนาด 10.4 นิ้วความละเอียด 2000×1200 พิกเซล หรือเทียบเท่ากับ 2K ถือว่าละเอียดขึ้นจากเดิม ส่วนบนของหน้าจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนล่างจะเป็นปุ่มควบคุมที่สามารถกดเปลี่ยนได้ง่าย ทั้งรูปแบบปุ่มกดปกติ หรือ จะเป็น การปัดขึ้นลง หรือ เป็นแบบปุ่มก็ได้
ข้างซ้ายและขวาจะมีลำโพงมาให้อย่างละ 2 ข้างรวมกันทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือฝั่งซ้ายมีปุ่มสำหรับเปิด / ปิดดตัวเครื่อง อีกฝั่งจะเป็น USB-C สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
ส่วนบนสุดของเครื่องจะมีไมโครโฟนทั้งหมด 4 จุดและมีปุ่มสำหรับปรับระดับเสียง
ส่วนด้านล่างจะมีแค่ช่องใส่ความจำแบบ Micro SD ที่ต้องเปิดออกมา
ด้านหลังออกแบบดีด้วยกรใช้วัสดุอลูมิเนียมพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมกับ LED Flash
ส่วน Huawei Smart Keyboard เมื่อมีการใส่กับเครื่อง ยกตัวแท่นขึ้นมา ไม่ต้องกดอะไร สามารถเชื่อมต่อได้ทันที และสามารถชาร์จไฟผ่าน USB-C ครับ
ภาพรวมการออกแบบ
จากภาพรวมการออกแบบของ Huawei MatePad ถือว่าน้ำหนักเครื่อง เบามากเพียง 450 กรัม เท่านั้น ไม่ได้แตกงอะไรมานักและยังเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และขุมพลังที่แรงขึ้กว่าเดิม แต่สเปกจะเป็นอย่างไร รอดูกันต่อไปครับ
เปิดเครื่องทดลองประสิทธิภาพของ Huawei MatePad
สเปกของ Huawei MatePad
- ขนาด : 245.2 x 155 x 7.45 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก: 450 กรัม
- หน้าจอความละเอียด 1200×2000 พิกเซล ขนาดหน้าจอ 10.4 นิ้วเป็นแบบ Panel แบบ IPS LCD
- ชิปเซ็ตประมวลผล Kirin 820 | GPU Mali G52
- แรม 6GB
- ความจุภายในเครื่อง 128GB
- ความจำภายนอก รองรับ Micro SD
- การเชื่อมต่อ เครือข่ายมือถือ : WiFi 802.11 B/G/N/AC/6 , Bluetooth 5.0
- ช่องเสียบ USB-C, ช่องเสียบหูฟัง
- ระบบเสียง / ไมโครโฟน : ลำโพง Stereo บนล่างทั้งหมด 4 ตัวจูนโดย Harman / Kardon และ ไมโครโฟนมาให้ 4 ตัว
- กล้องถ่ายภาพด้านหลังตัวเดียว 8 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus + LED
- กล้องถ่ายภาพด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาด 7250mAh รองรับ Fast Charge กำลัง 20W
- ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบด้วย EMUI 10.1 ใช้ Huawei Mobile Service
- สีตัวเครื่อง ที่จำหน่ายในประเทศไทย : เทา
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ / การเชื่อมต่อไร้สาย
คะแนนประสิทธิภาพจาก AnTuTu = 370,807 คะแนน
เมื่อเห็นแบบนี้การทดลองเล่นเกม Asphalt 9 Legend ภาพออกมาตอบสนองได้ดี การสัมผัสถือว่าครบเครื่องเลยครับ อย่างไรก็ตามในเรื่องการทำงานทั่วไปถือว่ารวดเร็วกว่าตัวเดิมครับ
และนอกจากนี้ Huawei MatePad ในรุ่นใหม่นี้มีการอัปเกรดชิป Wi-Fi มาตรฐานใหม่ล่าสุดอย่าง Wi-Fi 6 ด้วยครับ และ Bluetooth 5.1 พร้อมกับ GPS มาให้ด้วยแต่การทำงานกับ Maps จะต้องต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้นถึงจะใช้งานได้
การแสดงผล / ระบบเสียง
การแสดงผลหน้าจอรุ่นนี้แม้ว่าจะใช้จอ IPS LCD ความละเอียด 2000×1200 พิกเซล ให้สีสันที่คมชัดจับรายละเอียดดีอยู่ และนอกจากนี้ยังมียังสามารถปรับการลดแสงสีฟ้าและโทนสีด้วยครับ
ส่วนระบบเสียงคมชัดเพราะมีลำโพงถึง 4 จุดด้วยกัน ปรับจูนจาก Harman / Kardon มาให้เช่นเดียวกัน และ สามารถปรับแต่งเสียงผ่าน Huawei Histen ได้เช่นเดียวกันครับ
ส่วนระบบเสียงของ Huawei MatePad จะมีลำโพงทั้งหมด 4 ตัวพร้อมกับจูนโดย Harman Kardon เช่นเดียบกัน แต่สามารถปรับจูนเรื่องคุณภาพของเสียงมาให้แต่ต้องเสียบหูฟังเท่านั้น
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของ Huawei MatePad / ระบบความปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการของ Huawei MatePad จะใช้ Android 10 ครอบด้วย EMUI 10.1 ไม่มี Google แต่มี Desktop Mode ทำให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบทำให้เหมาะกับการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนฟีเจอร์ก็ยังคงมีเครื่องมือมาให้ครบและสามารถใช้งานโหลด Application ผ่าน Huawei AppGallery และยังดีที่ตอนนี้ Microsoft Office สามารถใช้งานได้ผ่าน Huawei Tablet แล้ว แต่สิ่งที่เป็นข้อสังเกตคือ การตั้งค่าเปลี่ยนภาษาที่ Keyboard อาจจะยังเข้าใจยากไปพอสมควร
สำหรับการตั้งค่าเปลี่ยนภาษาของ Keyboard จะต้องเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > System (ระบบ) > ภาษาและการพิมพ์ (Language & Input) ตั้งให้มีภาษาไทยสำหรับ Microsoft SwiftKey และ ต้องกดที่หัวข้ออื่นๆ และก็ต้องมีการเชื่อมต่อ Huawei Smart Keyboard จากนั้นกดเพิ่มภาษาเข้าไปครับ และวิธีการเปลี่ยให้กดปุ่ม Ctrl + รูปโลก
ระบบความปลอดภัยมีเพียงแค่ สแกนใบหน้าเท่านั้นและถ้าใส่หน้ากาก ก็จะต้องใช้ Pin หรือ การลาก หรือจะเป็นรหัส เป็นต้น
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
กล้องของ Huawei MatePad ติดตั้งมาให้เพียง 2 ตัวเท่านั้นคือด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับ AutoFocus และมี LED Flash เช่นเดียวกัน
ฟีเจอร์ของกล้อง Huawei MatePad
โหมดของกล้องของ Tablet อย่าง Huawei MatePad จะมีตัวเลือกทั้ง Photo, Beauty, Video, ปรับละลายหลัง, โหมดโปร, และมีการปรับฟิลเตอร์ ส่วนวิดีโอรองรับในแบบ Timelapse แต่ไม่มีระบบ Slowmotion มาให้ครับ อย่างไรก็ตาม กล้องหน้าจะมีลูกเล่นพอกันครับ
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟกลับ
ด้วยขนาดแบตเตอรี่ขนาด 7250 mAh เรียกได้ว่าใหญ่มากสำหรับ Tablet ทำให้การใช้งานนั้นสามารถทำได้ข้ามวัน แต่ว่าถ้าเป็นการใช้งานแบบ
ส่วนระบบชาร์จไฟ Huawei ยังคงมีระบบ SuperCharge 22.5W มาให้เหมือนเดิม ทำให้สามารถชาร์จไฟ Tablet รุ่นนี้ทำได้รวดเร็วทันใจมากขึ้น
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ลองใช้งาน Huawei MatePad รุ่นใหม่มาสักระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากได้ทดลองใช้งานแล้วก็พบว่า Huawei MatePad รุ่นใหม่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ แค่สเปก ความจำ, ขุมพลัง, การรองรับ Wi-Fi 6 ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ MatePad ตัวที่แล้วขาดไป ก็ถือว่าทำให้มันมีอะไรที่น่าใช้มากขึ้น แถมยังมีการเชื่อมต่อกับ Smart Keyboard อีกด้วยเท่ากับ นี่เป็นอีกเครื่องที่น่าใช้ โดยคุณสามารถมองข้ามเรื่องของ Google ไปได้ แต่ก็มีข้อสังเกตที่ผมได้เขียนไว้ส่วนข้างล่างนี้ครับ
สำหรับราคาของ Huawei MatePad จะมีอยู่ที่ 9,990 บาท ถือว่าไม่แพงแต่ก็ได้เทคโนโลยีล่าสุดในราคาจับต้องได้งาน ถ้าใครที่กำลังมองหา Tablet ที่มีราคาไม่แพงและได้ครบเครื่องแบบนี้ รุ่นนี้น่าสนใจอยู่ครับ และมองข้าม Google ได้เลยครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์บางเบาถืองาน
- อัปเกรดประสิทธิภาพสูงขึ้น
- หน้าจอสวยแสดงผลดีมากขึ้น
- รองรับ Wi-Fi 6
- รองรับทั้ง M-Pencil และ Smart Keyboard
- แบตเตอรี่ทนมาก
ข้อสังเกต
- การตั้งค่าเปลี่ยนภาษาดูซับซ้อน
- ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดได้