กลับมาแล้วพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech สำหรับรอบนี้เราพาคุณมาพบกับ HMD Pulse ในประเทศไทยที่วางจำหน่าย 2 รุ่นคือ HMD Pulse+ และรุ่นนี้ HMD Pulse Pro รอบนี้มีความน่าสนใจแค่ไหน และน่าใช้จริงไหม เรามาดูกันครับ
รายละเอียดสเปก HMD Pulse Pro
- ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 163.2 x 75 x 8.6 มม.
- น้ำหนัก 196 กรัม
- หน้าจอ ขนาด 6.65 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด 1612 x 720 พิกเซล, ความสว่าง 600 nits
- ชนิดกระจกกันรอย ไม่ได้ระบุแต่คาดว่า Gorilla Glass
- ชิปเซ็ตประมวลผล Unisoc T606 Octa Core
- กราฟิก : Mali-G57 MP1
- RAM ขนาด 6GB
- พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256GB
- พื้นที่จัดเก็บภายนอก : MicroSD
- การเชื่อมต่อ 4G WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, A-GPS, GPS
- ลำโพง : เฉพาะด้านล่าง
- กล้องดิจิทัลด้านหน้า
- ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
- วิดีโอ : 1080p@30fps
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 2 ตัว
- กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.9 PDAF
- กล้อง Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- วิดีโอถ่ายได้ที่ 1080p 30 FPS
- LED Flash
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น : ไม่ได้ระบุ
- ระบบปลดล็อค : สแกนนิ้วมือด้านข้าง / ระบบสแกนใบหน้า
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 20W
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 14 (อัปเกรดได้ 2 ปี)
- สี Black Ocean
- ในกล่องประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง HMD Pulse Pro
- คู่มือ
- สายชาร์จไฟ USB-C To USB-A
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
ดีไซน์ของ HMD Pulse Pro
เริ่มต้นกับหน้าจอของ HMD Pulse Pro มีขนาด 6.65 นิ้วความละเอียด HD+ พร้อมกับ Refresh Rate 90Hz ถือว่าทันยุคกับเพื่อนบ้านอยู่ โดยรอบนี้มาพร้อมกับปุ่มกดอยู่ด้านล่าง และมีกล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล! อยู่ด้านบน ก็ลองคิดดูว่ามือถือในงบไม่เกิน 4,500 บาทให้กล้องขนาดนี้เลย แต่จะดีแค่ไหน รออ่านกันต่อในส่วนของกล้องได้
รอบตัวเครื่องเป็นแบบพลาสติกที่มีการออกแบบเรียบง่ายพร้อมกับถาดใส่ซิมทางข้างซ้าย
ฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียงพร้อมกับปุ่ม Power และระบบสแกนลายนิ้วมือ
ด้านบนไม่มีอะไร แต่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟัง, USB-C ไมโครโฟน และลำโพงด้านหลัง
การออกแบบด้านหลังเป็นแบบเรียบง่ายและมีแผ่นที่ดูเงางามพร้อมกับลวดลายภายในและมีโลโก้ HMD ตรงกลาง พร้อมกับ กล้องที่อยู่ด้านบนทั้งหมด 2 กล้องและมี LED Flash
น้ำหนัก / การพกพา
เมื่่อได้ลองจับถือน้ำหนักของเครื่องที่ 209 กรัม ไม่ได้หนักอะไรมาก แต่ว่าความที่บอดี้เป็นแบบเงางามก็อาจจะทำให้เป็นรอยได้ง่าย แนะนำว่าใส่เคสที่ให้มาในกล่องก็จะช่วยได้เยอะ
การแสดงผลภาพ / เสียง
การแสดงผลภาพและเสียงอาจจะไม่ได้หวือหวามากนัก ภาพที่ออกแบบถือว่าสีสันสวยและการทัชสัมผัสกำลังดี แต่ว่าลำโพงให้ด้านล่างตัวเดียวเท่านั้นเสียงดังดีแต่ถ้าใครบ่นว่าเสียงเรียกเข้า HMD เบา แนะนำเปลี่ยนเสียงได้เลย
ประสิทธิภาพ / ระบบการเชื่อมต่อ / พลังงาน
ด้วยสเปกเครื่องที่เลือกใช้ Unisoc T616 ซึ่งเหมาะกับมือถือกลุ่มเริ่มต้นคะแนนที่ออกมาจึงเท่าได้เท่าที่เห็นนี้อาจจะไม่ได้หวือหวา แต่ความเร็วของเครื่องในการใช้งานถือว่าทำได้ดี เล่นเกมพอได้แต่อย่าปรับกราฟิกสูงนะ
การเชื่อมต่อรุ่นนี้รองรับ Wi-Fi 5 (802.11 AC), 4G, Bluetooth และ GPS ในการใช้นำทางเลยไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
ทั้งนี้แบตเตอรี่ของเครื่องมีขนาด 5000 mAh การใช้งานทั่วไปมี 2 วันทำได้แต่ถ้าใช้งานหนักเปิดหน้าจอเยอะ จะใช้งานแบบหมดวันแบบฉิวเฉียดเลยครับ ส่วนระบบชาร์จไฟรุ่นนี้รองรับกำลัง 18W ก็ถือว่าเร็วสำหรับมือถือในเกรดนี้
ฟีเจอร์โดดเด่นของ HMD Pulse Pro
HMD Pulse Pro มาพร้อมกับ Android 14 มีการยืนยันแล้วว่าอัปเดตได้ 2 เวอร์ชั่นและ Patch ความปลอดภัย 4 ปี แม้ไม่เยอะ แต่ก็ยังอยู่ในระดับมาตรฐาน ด้วยความที่เป็น Pure Android ลูกเล่นอาจจะไม่ได้มีความแตกต่างจากมือถือทั่วไปแต่คุณสามารถหา Launcher มาลงได้ แถมยังใช้งานได้ 2 หน้าจอในเวลาเดียวกัน และระบบความปลอดภัยมีทั้งสแกนใบหน้า และ สแกนลายนิ้วมือ
และลูกเล่นกล้องมีการปรับใช้ UI แบบเดียวกับ Nokia ทำให้ไม่ต้องปรับตัวมากนัก และมีลูกเล่นครบเช่นปรับฟิลเตอร์, การละลายหลัง และรวมไปถึงวิดีโอที่ทำได้ระดับหนึ่งแต่ ไม่มีระบบกันสั่น
ตัวอย่างภาพจาก HMD Pulse Pro
(กล้องหลัง)
(กล้องหน้า)
สรุปหลังจากทดลองใช้ HMD Pulse Pro มาสักพักหนึ่ง
สรุปแล้ว HMD Pulse Pro ที่มีราคาไม่ได้แพงมากตแ่ได้ทั้งความจำเยอะ ระบบปฏิบัติการลื่นไหล สเปกถือว่าให้มาทุกอย่างถือว่าคุ้มอยู่ เน้นกล้องความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล แต่เน้นราคาคุ้มค่าเพราะจริงๆ รุ่นนี้คือตัวท็อปของ Pulse แล้วที่ทำให้สเปกที่โดดเด่นอยู่ และเน้นความเชื่อถือสำหรับคนที่เคยทำ Smart Phone ผมว่าการเลือกซื้อรุ่นนี้มาใช้ก็ถือว่าไว้ใจได้
ราคาของ HMD Pulse Pro
สำหรับ HMD Pulse Pro เคาะราคาแล้วอยู่ที่ 4,299 บาท สำหรับรุ่นที่ประเทศไทยนำเข้ามาจะเป็นรุ่น RAM 6GB และความจำภายใน 256GB ถือว่าเป็นมือถือรุ่นที่มีความคุ้มค่าอยู่เช่นเดียวกัน หากคุณต้องการมือถือที่เน้นความคุ้มและเชื่อถือได้ นี่เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าใช้อยู่ครับ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องเรียบแต่สวยดูดี
- สเปกให้มาครบ
- ได้ความจำเยอะในราคาไม่เกิน 4,500 บาท
- ชาร์จไฟ 18W กำลังดี
- ได้อัปเดตยาว
- ใช้งานแล้วลื่นไหลกำลังดี
ข้อสังเกต
- ภาพของกล้องมีการเร่งสีมากไปหน่อย
- การหาซื้อยังทำได้เฉพาะออนไลน์ในเวลานี้