กลับมาพบกับรีวิว Gadget สุดล้ำจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง หากกล่าวถึง โน็ตบุ๊ก ตระกูล Expertbook ของทาง ASUS ที่ปรากฏตัวไปนั้นก็คงจะมีคอมพิวเตอร์เน้นการทำงานจริงจังพกพาอย่างตระกูล B Series แต่ที่จริงพวกเขามีหลายรุ่นและราคาถูกกว่านั้น วันนี้ก็เลยจะพาคุณมาพบกับ Expertbook L Series ที่มีราคาย่อมเยา แต่ได้สเปกคุ้มค่าไม่แพ้กัน พร้อมแล้วมารับชมกันเลยกับ ASUS Expertbook L1400

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ ASUS Expertbook L1400

เริ่มต้นกับดีไซน์ของเครื่องยังคงมีขนาดของเครื่องเท่ากับกระดาษ A4 แต่ถ้าเป็น L1500 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่านั้น พร้อมกับโลโก้ ASUS ตรงกลางเครื่องที่มีความโดดเด่นไม่น้อย ตัวเครื่องจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม

ใต้เครื่องจะมีลำโพงที่มุมซ้ายและขวา พร้อมกับช่องระบายอากาศ และแผ่นยางกันลื่น

รอบตัวออกแบบด้วยวัสดุแข็งแรงมากดูคงทนอย่างมากครับ ประกอบด้วยช่องเสียบครบครันไม่ว่าจะเป็นฝั่งซ้ายจะมีทั้ง DC-IN สำหรับชาร์จไฟ, USB-C, VGA, HDMI, USB-A ทั้งหมด 2 ช่องเป็นมาตรฐาน 3.2

ฝั่งขวาจะมาพร้อมกับไฟสถานะการทำงานของเครื่อง, ชาร์จไฟ, การประมวลผล, ช่องเสียบแบบ Combo Port, USB-A, LAN และ ตัวล็อคเครื่อง

ส่วนหลังของจะมีแผนยาง 2 อันไว้สำหรับดัน Keyboard ขึ้นทำให้สามารถพิมพ์งานได้ง่ายมากขึ้น โดยเอียงที่ 5 องศา และหน้าจอสามารถเปิดได้สูงสุด 180 องศา

ด้านหน้าที่หันมาทางคุณ จตะมีช่องสำหรับสอดนิ้วเพื่อยกหน้าจอขึ้นและบานพับค่อนข้างมีน้ำหนักที่เบาดีไม่ต้องใช้ 2 นิ้วในการยกเครื่อง

เมื่อเปิดหน้าจอมาแล้วพบกับหน้าจอแบบด้านขนาด 14 นิ้ว Wide Screen ถือว่ามีขนาดกำลังดี พร้อมโลโก้ Expertbook ไม่รองรับระบบ Touch Screen และมีปุ่มสำหรับปิด / เปิด Web Cam ให้คุณเลือกใช้งานได้เลยตามสะดวก และมีการติดตั้งไมโครโฟนรอบตัว

แผน Keyboard จะมีไฟเรืองแสงมีขนาดใหญ่พิมพ์ได้ง่ายและรองรับการทำงานได้อย่างดีและมี Touchpad ขนาดใหญ่ ส่วนระบบความปลอดภัยจะมีระบบสแกนนิ้วที่ปุ่ม Power ที่มุมขวาของเครื่องเท่านั้น แป้นพิมพ์ทนกับการทำน้ำหกได้ครับ

ภาพรวมการออกแบบ

การออกแบบของเครื่องจะคล้ายกับทาง ASUS Zenbook และ Expertbook B Series แต่เน้นเรื่องความครบเครื่องที่มีช่องเสียบ และน้ำหนักของมันเบาพอสมควร ทำให้การพกพาไปทำงานได้ดี และใช้พิมพ์งานนานๆ ไม่เมื่อยด้วยครับ

เปิดเครื่องลองใช้งาน ASUS Expertbook L1400

รายละเอียดสเปกของ ASUS Expertbook L1400

• หน้าจอแสดงผลขนาด 14 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล  อัตราส่วน 16:9 พร้อมกับความสว่าง 220 nits
• ขนาด : 32.34 x 21.56 x 1.92 ~ 1.92 เซนติเมตร
• หนัก : 1.46 กิโลกรัม   
• ชิปเซ็ตประมวลผล : AMD Ryzen™ 3 3250U Mobile Processor (2 Core/4 เทรด, 5MB Cache, 3.5 GHz Max Boost)
• ชิปประมวลผลกราฟิก : AMD Radeon Graphics
• RAM : แบบ DDR4 4GB OnBoard สามารถอัปเกรดได้อีก 32GB 
• ความจุ : 256GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD,
• กล้องหน้า : HD Camera  พร้อมกับปุ่ม ปิด / ปิดกล้อง 
• ตัวเชื่อมต่อ (Port)   
• 1 x USB 2.0 Type-A
• 1x USB 3.2 Gen 2 Type-C
• 2x USB 3.2 Gen 2 Type-A
• 1 x HDMI 1.4
• 1x VGA Port (D-Sub)
• 1x 3.5mm Combo Audio Jack
• 1x RJ45 Gigabit Ethernet
• 1x DC-in
• 1x Micro SD card reader
• เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 AX + Bluetooth 5.2 Dual Band
• ลำโพง : 2 ด้านล่าง พร้อมกับปรับจูนโดย Harman / Kardon
• ไมโครโฟน : 2 ตัว   + AI Noise Cancellation
• ระบบปฏิบัติการ : Windows 10 64 Bit  รองรับการอัปเกรดสู่ Windows 11 
• แบตเตอรี่ขนาด 42 Wh  ที่ชาร์จแบบ 65W DC-IN 
• สีเครื่อง ดำ

ผลการทดสอบประสิทธิภาพ

ด้วยการออกแบบของเครื่องที่ไม่ได้เน้นเรื่องศักยภาพอะไรนักทำให้ผลการทดสอบทำได้ออกมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจแต่ถ้าเอาทันใจกว่านี้แนะนำว่าเพิ่ม RAM จะดีกว่าครับ อย่างไรก็ตามคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Wi-Fi 802.11 AX หรือ มาตรฐาน Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 ใหม่ล่าสุดเลยครับ

การแสดงผล / ระบบเสียง

การแสดงผหน้าจอถือว่าทำได้ดี และหน้าจอไม่ได้ออกแบบให้เนรอยนิ้วมือได้ง่ายความละเอียด Full HD ถือว่าเหลือเฟือครับ

ด้านระบบเสียง ด้วยความที่เน้นเรื่องของความเป็น Business Use ทำให้ไม่ได้ติดตั้งลำโพงมาตรฐานสูง แต่ก็ยังพอฟังเพลงได้ ถ้าเชื่อม Bluetooth กับลำโพงดีๆ และหูฟังดีๆ ก็จะได้คุณภาพที่ดีขึ้น ทั้งนี้ จุดเด่นคือ มันติดตั้งไมโครโฟนรอบตัวและมีระบบ AI Noise Canceling มาให้ด้วยนะครับ

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ระบบความปลอดภัย

สำหรับ ASUS Expertbook L1400 จะมาพร้อมกับ Windows 10 ที่พร้อมอัปเกรดเป็น Windows 11 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ไม่ได้ติดตั้ง Microsoft Office มาให้เหมือนกับเครื่อง Home Use

ฟีเจอร์โดยหลักๆ แล้วจะเน้นเรื่องของการตรวจสอบในเรื่องความผิดปกติของ Hardware ของ MyASUS โดยมีการทำงานดังนี้

• การตรวจสอบปัญหาเบื้องต้นของเครื่อง รวมถึงการขึ้น Blue Screen  
• อัปเดต Software ภายในเครื่อง  
• AppDeal สำหรับคนที่อยากได้ของถูกและเสียตังค์น้อย ASUS ก็จัดมาให้  

• ติดต่อกับ Call Center ผ่านเครื่องได้
• โปรแกรมจัดการแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน หรือต้องการถนอมแบตเตอรี่
• Link to MyASUS เชื่อมต่อกับมือถือได้แบบไร้รอยต่อไม่ว่าจะเป็นการแชร์หน้าจอ, File, แชร์หน้าจอ เป็นต้น
• สำหรับ Expertbook จะมีจะมีบริการ Onsite Service ถึงที่เลยครับ

ส่วนระบบบความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์รุ่นนี้มาให้แบบครบเครื่องและเยอะมากประกอบไปด้วย ระบบป้องกันการเข้าข้อมูล TPM 2.0, ทำงานร่วมกับระบบสแกนลายนิ้วมือและ Windows Hello ทั้งหมดทำงานผ่าน ASUS Business Management  ส่วนด้าน Hardware การป้องกันเบื้องต้น จะมีแค่ Kensington Lock และปุ่มปิดกล้องหน้าเท่านั้น

แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ

สำหรับแบเตอรี่ของ ASUS Expertbook L1400 ที่มีขนาด 42Wh พบว่าสามารรถใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง แต่ว่าเมื่อการทดสอบจากทีม Sanook เริ่มจริงก็จะลดลงมาเล็กน้อยเหลือเพียงเกือบ 7 ชั่วโมง ถือว่าพอสมควรนะครับ

ส่วนระบบการชาร์จไฟทำได้แค่ระบบเดียวเท่านั้นคือ การเสียบปลั๊ก DC-IN กำลังปลั๊กไฟอยู่ที่ 65W ครับ

สรุปหลังลองจากทีมใช้ ASUS Expertbook L1400 มาสักระยะเวลาหนึ่ง

ยังคงเป็นคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบเพื่อการทำงานที่แท้จริง โดยเปกของมันนั้นไม่ได้สูงมาก แต่ก็มีระบบความปลอดภัยครบรันและยังมีข้อดีทั้งเรื่องประกันทั้งกันเครื่องตกหรือจะเป็นการเข้าไปซ่อมแบบ On-Site Service และประกันระหว่างประเทศ ก็มีให้ แม้ผมเองจะมองว่าสเปกที่ให้อาจจะน้อยไปหน่อย แต่ราคาถือว่าทำได้ดีเลยครับ ทั้งนี้ สำหรับราคาของ ASUS Expertbook L Series ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะมีให้เลือกทั้งหมดดังนี้

• L1400CDA-EK0477: 14″FHD / AMD Ryzen R3-3250U Processor / RAM4G / 256GB / UMA / TPM / WiFi6 / DOS / 3cell / backpack + WL mouse ราคา 14,790 บาท
• L1500CDA-EJ0377: 15.6″FHD / AMD Ryzen R3-3250U Processor / RAM4G / 256GB / UMA / TPM / WiFi6 / DOS / 3cell / bag + WL mouse ราคา 14,990 บาท

ซึ่งมีข่าวดีคือสามารถซื้อได้ตามหน้าร้านทั่วไป หรือถ้าต้องการซื้อแบบองค์กรก็สามารถเลือก Custom Spec ได้เช่นเดียวกันครับ ถ้าแนะนำในการซื้อรุ่นนี้ควรจะมีการเพิ่ม RAM สักหน่อยก็จะดีไม่น้อยเลยครับ อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นอีกคอมพิวเตอร์ที่ได้ชื่อว่าอึดถึกทนและราคาสมเหตุสมผลกับคนที่เน้นทำงานจริงๆ แม้ว่าสเปกเริ่มต้นอาจจะดูน้อยไปหน่อยก็ตาม

จุดเด่น

• การออกแบบเครื่องพกพาง่ายและเครื่องสวย
• ช่องเสียบครบครันไม่มีอะไรขาด
• ระบบความปลอดภัยมาให้ครบครัน
• พิมพ์ได้สบาย
• แข็งแรงทนทาน
• ราคาไม่แพงอย่างที่คิด แต่ได้ประกันเกินคาด

ข้อสังเกต

• ขุมพลังเป็นตัวเริ่มต้นอาจจะทำงานได้ไม่แรงเท่าไหร่
• หน้าจอการแสดงผลไม่ถึงกับสวยมาก เน้นทำงานจะดีกว่า
• ไม่รองรับการชาร์จไฟแบบ USB-C Power Delivery