หลังจากที่ AirPods 4 ได้เปิดตัวและตอนนี้วางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการ วันนี้ Sanook Hitech มารีวิวตัวเต็มกับ AirPods 4 ทั้งรุ่นปกติ ราคาประหยัด และรุ่น ANC ที่อัปราคาขึ้นมาหน่อย ดูว่าคู่นี้ตัวเลือกไหนเหมาะสมสุดกับคุณ มาหาคำตอบกัน
สเปก AirPods 4
ชื่อรุ่น |
AirPods 4 |
AirPods 4 With ANC |
ขนาดหูฟัง |
30.2 x 18.3 x 18.1 มิลลิเมตร |
30.2 x 18.3 x 18.1 มิลลิเมตร |
ขนาดกล่อง |
46.2 x 50.1 x 21.2 มิลลิเมตร |
46.2 x 50.1 x 21.2 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก |
4.3 กรัม สำหรับหูฟัง | 32.3 กรัม สำหรับกล่อง |
4.3 กรัมสำหรับหูฟัง | 34.7กรัม สำหรับกล่อง |
การเชื่อมต่อ |
Bluetooth 5.3 Siri USB-C |
Bluetooth 5.3 Siri USB-C รองรับ Wireless Charge (MagSafe) |
เซนเซอร์ภายใน |
เซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว อุปกรณ์ตรวจจับเสียงเมื่อพูด เซนเซอร์รับแรงกด ไมโครโฟนแบบ Beamforming คู่ |
เซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว อุปกรณ์ตรวจจับเสียงเมื่อพูด เซนเซอร์รับแรงกด ไมโครโฟนแบบ Beamforming คู่ ระบบ ANC |
กันน้ำ / กันฝุ่น |
IP54 |
IP54 |
ขนาด Driver |
ไม่ได้ระบุขนาด แต่เป็นแบบ High-Excursion |
ไม่ได้ระบุขนาด แต่เป็นแบบ High-Excursion |
แบตเตอรี่ |
ใช้งานได้สูงสุด 5 ชั่วโมง รวมกับกล่องใช้งานได้ 30 ชั่วโมง |
ใช้งานได้ 5 ชั่วโมงเมื่อไม่เปิด ANC ใช้งานได้ 4 ชั่วโมง เมื่อเปิดระบบจัดการเสียงรบกวน รวมกับเคสใช้งานได้ 30 ชั่วโมง / 20 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC |
สีสัน |
ขาว |
ขาว |
ดีไซน์ของ AirPods 4
เมื่อเห็นเคสของ AirPods 4 ไม่ว่าจะเป็นรุ่นปกติ หรือ ANC เหมือนกันทุกอย่างเลยครับ โดยด้านหน้าจะมีไฟสถานะของเครื่องบอกปริมาณไฟ โดยบอกตามสีดังนี้
- สีขาว = พร้อมต่อเชื่อม
- สีเขียว = พร้อมใช้งานไฟ และไฟเต็ม
- สีเหลือง = ไฟเหลือน้อยกว่า 50%
- สีแดง = ไฟใกล้หมด
ส่วนวิธีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่ ใช้วิธีแตะหน้าเคส 2 ครั้ง หรือ Double Tap จะขึ้นไฟสีขาว แต่ถ้าไม่ขึ้นลองเปิดฝาก่อน
รอบกล่องเก็บหูฟังจะออกแบบให้โค้งมนและกล่องจะเล็กกว่ารุ่นเดิม แต่ใหญ่กว่า AirPods 2 จะสังเกตว่าต่างคือด้านล่าง โดยรุ่น ANC จะมีลำโพงเพื่อตามหาหูฟัง ส่วนการชาร์จไฟทำได้ผ่าน USB-C แต่อีกเช่นเคยถ้าเป็นรุ่น ANC จะรองรับ Wireless Charging มาด้วย
ตัวหูฟัง AirPods 4
ถือว่าเปลี่ยนดีไซน์จากรุ่น AirPods 3 ไปเลย เพราะในส่วนของลำโพงมีการออกแบบให้ทรงสั้นกว่าเดิม ทำให้เวลาใส่เข้าไปง่ายและแน่นโอกาสหลุดยากขึ้นกว่าเดิม
จากการทดลองแล้วเดินทางบนรถไฟฟ้า BTS ก็มีความแน่นอยู่ แต่ว่าถ้าใส่ออกกำลังกายนั้นพบว่าแน่นกว่าเดิม แต่ทั้งนี้อาจจะยังไม่เท่ากับ AirPods Pro 2 ที่เป็นแบบ In-Ear
นอกจากนี้ก้านของ AirPods 4 ออกแบบให้สั้นกว่า AirPods 3 ลงมาแต่ออกแบบให้เซนเซอร์การกดมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำให้กดได้ง่ายมากขึ้นโดยการออกแบบรองรับแรงกดในการสั่งงานเช่น
- บีบ 1 ครั้งเพื่อหยุดเพลง / เล่นเพลง / รับสาย
- บีบ 2 ครั้งคือเลื่อนเพลงไปข้างหน้า / วางสาย
- บีบ 3 ครั้งเพื่อเลื่องเพลงก่อนหน้า
- บีบค้างเพื่อสั่งงาน Siri หรือกดปรับระบบ ANC
อีกเรื่องที่ไม่บอกไม่ได้ว่า AirPods 4 ออกแบบให้ทนเหงื่อและฝุ่นได้ในมาตรฐาน IP54 ด้วยกันทำให้สามารถรองรับการออกกำลังกายได้สบายๆ
ฟีเจอร์โดดเด่นของ AirPods 4
- สามารถสลับอุปกรณ์ของคุณได้ง่าย เช่น iPhone, Apple Watch, iPad หรือ Mac รวมถึง Apple TV ก็ทำได้เลย
- การค้นหาสามมารถทำได้ง่าย โดยสามารถใช้ Find My ตามหาได้ แต่ว่าถ้าเป็นรุ่น ANC สามารถสั่งให้เคสเป็นเสียงค้นหาได้
- สามารถแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ฟังได้ด้วย
- สามารถเรียกคำสั่ง “หวัดดี Siri” ได้
- และยังรองรับกับอนาคตเช่นฟีเจอร์ Apple Intelligence
- รองรับฟีเจอร์ Spatial Audio เท่ากับสามารถฟังเสียงรอบทิศถ้า Apps รองรับ
- Conversation Awareness = เมื่อคุณพูดเพลงจะลดความดังลง
- Head Gesture เท่ากับคุณสั่งงานโดยการขยับหัวเช่นพยักหน้าเท่ากับรับสาย สายหน้าเท่ากับตัดเสาย
เสียงเป็นอย่างไร
เรื่องหนึ่งที่ Apple ได้ทำกับหูฟัง AirPods 4 คือการเปลี่ยน Driver ใหม่ที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น พร้อมกับขยาย Dynamic ให้สูงมากขึ้นทำให้สามารถเมื่อรองรับการฟังเพลงถือว่าโดดเด่นเช่นการเก็บรายละเอียดเครื่องดนตรี ได้คมชัดทั้งคนร้อนและเครื่องดนตรีย เบสไม่ได้หนักเกินไป และยังมีการออกแบบให้ระบายอากาศเพื่อทำให้ฟังฟังนั้นมีความดันเท่ากัน ไม่ให้เกิดอาการหูอื้อ
ในรุ่น ANC จะมีการออกแบบให้สามารถปรับลดเสียงอันโนมัติ ทั้งนี้ต้องขอบคุณชิป H2 ที่ใส่เข้ามาทำให้ปรับรายละเอียดได้ของเสียงที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
แล้วไมโครโฟน เมื่อมีการเพิ่มระบบตัดเสียงลมเจ้าไปทำให้เรื่องการเก็บรายละเอียดของเสียงเวลาพูดนั้นทำได้ดีเมื่อเจอสถานที่มี Noise เยอะมาก
ระบบตัดเสียงของ AirPods 4 ANC
มาพูดถึงเรื่อง ANC กันหน่อยกับ AirPods 4 With Active Noise Cancellation เมื่อได้เปิดระบบ ANC พบว่าตัดเสียงได้เงียบเมื่อ ในออฟฟิศ และพอเปิดเพลงก็จะไม่ได้ยินภายนอกเลย แต่ถ้าไม่เปิดเพลงยังพอจะมีเสียงเข้ามา แต่ก็เบากว่าเมื่อไม่ได้ใส่ เมื่อเทียบปกติ จุดนี้ถือว่าแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นปกติ แต่ต้องยอรับว่า ANC ยังทำได้ไม่เท่ากับหูฟังแบบ In-Ear ที่จัดตัดเสียงได้เกลี้ยงกว่า
นอกจากนี้ AirPods 4 ANC ยังปรับ ANC เป็นหลากหลายรูปแบบเช่น
- Noise Cancellation จะเป็นโหมดที่เงียบที่สุด
- Adaptive ที่จะปรับตามรูปแบบสถานที่
- Transparency หรือโหมดที่จะดให้เสียงประกาศ หรือเพื่อนข้ามาได้ แต่ตัดเสียง Noise ออกไป
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ
สำหรับ AirPods 4 ทั้งคู่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 5 ชั่วโมง ก็ถือว่าใช้งานได้ยาวนาน แต่ ถ้ารุ่น ANC จะสามารถใช้งานได้อยู่ที่ 4 ชั่วโมง เมื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวน ซึ่งผมว่าใช้ได้น้อยไปหน่อย ส่วนกล่องชาร์จไฟนั้นจะทำให้หูฟังใช้งานได้นานสุด 30 ชั่วโมง
ส่วนระบบชาร์จไฟเป็นแบบ USB-C แล้ว สามารถเสียบชาร์จได้เลย แต่ในกล่องไม่ได้ให้มา ส่วนระบบชาร์จไฟไร้สายสามารถใช้ร่วมกับที่ชาร์จของ Apple Watch ได้เลย คำถามว่า ตัว MagSafe ปกติสามารถชาร์จไฟได้หรือไม่คำตอบคือยังชาร์จไฟได้อยู่ครับ
สรุปหลังจากได้ทดลองใช้งาน AirPods 4 และ AirPods 4 ANC
จากที่ได้ทดลองฟังสลับไปทั้ง AirPods 4 รุ่นปกติ และ AirPods 4 ANC พบว่าเป็นหูฟังที่มีความพิเศษมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องการสวมใส่ที่สบาย เสียงที่ดีขึ้น แต่ด้วยราคาที่ต่างกันทำให้ต้องปิดท้ายกับหัวข้อที่อยู่ข้างล่าง
AirPods 4 VS AirPods 4 ANC เมื่อถึงเวลาต้องเลือก
มาถึงจุดนี้เมื่อคุณต้องเลือกเราขอให้คำตอบแบบนี้ดีกว่า
- AirPods 4 รุ่นปกติ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณไม่มาก อยากอัปเกรด AirPods รุ่นพื้นฐานทั้ง AirPods 2, AirPods 3 และสามารถใช้งานยาวนานมากขึ้น และเสียงดีมากขึ้น ในราคา 4,990 บาท เท่านั้น
- AirPods 4 ANC เหมาะกับคนที่อยากใช้งาน AirPods Pro 2 แต่ไม่ชอบ In-Ear อยากได้หูฟัง Open Ear และตัดเสียงได้ มีฟีเจอร์ปรับระดับเสียงในสถานที่นั้นๆ ได้และรับได้กับเมื่อเปิด ANC แล้วแบตเตอรี่จะอยู่ได้น้อยลง และจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้ได้ลำโพงตามหาหูฟัง และ Wireless Charge
ดังนั้นการเลือกทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่า ด้วยราคาที่ต่างกันเกือบ 2,000 บาท จะเลือกแบบไหนเหมาะกับคุณที่สุดครับ