“ราเมศ” โต้เดือด “พลพีร์” ใครกันแน่พาดพิงพรรคอื่นก่อน ย้ำ ทักท้วง พรบ.กัญชา เพราะห่วงสังคม-ประเทศ ย้อนปชป.ไม่จำเป็นต้องขัดขาพรรคใด ส่วนมากที่ล้มเพราะขาตัวเองขัดกันทั้งนั้น
19 พ.ย. 65 – นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขานุการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ออกมาตอบโต้ ประเด็นเรื่องร่างกฎหมายกัญชาว่า
ถือเป็นสิทธิที่ออกมาชี้แจงในประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันอยู่ แต่เสียอย่างเดียวไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้เห็นได้ถึงข้อมูลที่ได้ตั้งคำถามไว้ แต่เมื่อออกมาพาดพิง ตนก็ต้องชี้แจงอีกเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้นจากโจทก์ก็จะเป็นจำเลยไปได้
นายราเมศ กล่าวต่อว่า การที่บอกว่า ตนออกมาโจมตี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นั้น ตอบในประเด็นได้ไม่ยาก ขอให้กลับไปดูต้นตอว่า ใครเริ่มพาดพิงพรรคการเมืองอื่นก่อน
โดยส่วนตัวไม่เคยไปเริ่มต้นกล่าวหาใส่ร้ายใคร แต่หากใครมาพาดพิงก็ต้องออกมาชี้แจงทำความเข้าใจ ส่วนที่กล่าวโจมตีเรื่องมารยาททางการเมืองที่ให้แยกออกจากเรื่องความถูกต้อง เป็นแค่การแก้ตัวของคนที่ไม่รับผิดชอบ ไม่เคารพกติกาของการอยู่ร่วมกัน เป็นการสื่อสารของพวกไม่มีเครดิต
วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้ทำอีกอย่าง เชื่อถือไม่ได้นั้น ประเด็นนี้คำพูดดังกล่าวคือคำตอบอยู่ในตัว ถ้านักการเมืองที่ออกมาเรียกร้องมารยาททางการเมืองโดยไม่คิดถึงหลักการความถูกต้อง นั่นไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่พรรคการเมืองในอุดมคติ
เรื่องกฎหมายกัญชา คนที่ทักท้วงเพราะเขาเป็นห่วงสังคมเป็นห่วงประเทศชาติ ยิ่ง ส.ส.และพรรคการเมืองที่คิดได้ คือความรับผิดชอบที่มีต่อส่วนรวม
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่าให้ประชาธิปัตย์มีความรับผิดชอบ กติกาการอยู่ร่วมกันในสังคมถ้าใครทำดีช่วยเหลือกันควรสรรเสริญ แต่ถ้าใครทำไม่ดีแล้วไปส่งเสริม สังคมจะวุ่นวายเสียหายตามมา
ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ “ลูกหลานข้างบ้านสูบกัญชาก่อนไปโรงเรียนทุกวัน พอไปถึงโรงเรียนก็สูบกัญชากับเพื่อนที่แอบพกมาจากบ้านอีก สูบมากเกินขนาดถึงกับล้มทั้งยืน จนมีคลิปวีดีโอในโซเชียล”
อย่างนี้หากบ้านเราอยู่ติดกัน เราควรช่วยพูดกับครอบครัวเขาเพื่อหาวิธีการในการแก้ปัญหา หรือเราควรไปส่งเสริมเขาบอกว่าดีแล้วลูกสุดยอดให้ทำต่อไป เชื่อว่าคนดีเขาจะช่วยหาวิธีการในการแก้ไข กติกาการอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องความรู้พื้นฐานมาก
ส่วนที่บอกว่า คนสื่อสารไม่มีเครดิต นายนายราเมศ กล่าวว่า เรื่องนี้สังคมเป็นผู้ตัดสิน คนมีเครดิตคือคนที่ต้องสนับสนุนกัญชาเสรีให้พี้กันทุกหลังคาเรือนใช่หรือไม่ และที่บอกว่าวันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้ทำอีกอย่าง ประเด็นนี้พูดมานานแล้วว่าไม่เอากัญชาเสรี วันนี้หรือพรุ่งนี้ก็เหมือนเดิมยืนยันหลักการนี้ สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนให้พี้กันอย่างเสรี
โฆษก ปชป.กล่าวด้วยว่า ส่วนที่บอกว่า ตอนร่วมรัฐบาลยอมรับนโยบายพรรคอื่น แต่พอจะเลือกตั้งก็ไปขัดขาพรรคอื่นนั้น ตนเคยพูดไปแล้วว่า นโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ไม่มีเรื่องให้สังคมพี้กัญชากันอย่างเสรี มีอยู่ในหน้าที่ 31 ข้อ 4 ตอนท้าย ที่ระบุไว้เรื่องกัญชา กัญชงว่า
“ศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการใช้ กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์อุตสาหกรรมทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างรายได้ของประชาชน โดยกําหนดกลไกการดําเนินงาน ที่รัดกุม เพื่อมิให้เกิดผลกระทบทางสังคมตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด”
ดังนั้นนโยบายรัฐบาลไม่มีเรื่องกัญชาเสรีแน่นอน และปชป.ไม่จำเป็นต้องไปขัดขาพรรคการเมืองใด เพราะส่วนมากคนที่ล้มเพราะขาตัวเองขัดกันทั้งนั้น
“ที่ทักท้วงเรื่องกัญชา เป็นการทำหน้าที่ในบทบาทฝ่ายนิติบัญญัติ คือการพิจารณาร่างกฎหมาย ติติงกันตามระบบ มีแต่ความห่วงใยต่อสัมคมทั้งสิ้น ที่บอกว่า คนพูดไม่มีความรับผิดชอบ อยากถามกลับเหมือนกันว่า ถ้าเป็นคนรับผิดชอบต้องสนับสนุนกัญชาเสรีใช่หรือไม่ ประโยชน์ส่วนรวมของคุณคือต้องการให้กัญชาเสรีใช่หรือไม่
และเรื่องนี้ควรว่ากันตามกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ อย่ามาโจมตีพรรคการเมืองอื่นเลย ประชาชนเบื่อหน่าย ไม่เกิดประโยชน์ในการโต้เถียงกันไปมา เพราะหากมีการพาดพิงโจมตีปชป. ก็มีความจำเป็นที่ต้องออกมาชี้แจงทำความเข้าใจ และเรื่องนี้ที่จำเป็นต้องออกมาก็เพราะมีการพาดพิงโจมตีก่อน”นายราเมศ กล่าว